
ก่อตั้ง Facebook มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กในงานเวิลด์เอโคโนมิกฟอรัม ที่สวิตเซอร์แลนด์ เดือนมกราคม 2009) ซักเคอร์เบิร์กได้เปิดตัวเฟซบุ๊ก จากในห้องพักของเขาในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 แรงบันดาลใจแรก ๆ ของเฟซบุ๊กอาจมาจากที่โรงเรียนฟิลิปส์เอกเซกเตอร์อคาเดมี
ที่เขาเรียนจบปี ค.ศ. 2002 โดยที่เผยในเว็บไซต์ของเขาคือ สารบัญรูปนักศึกษาของเขา ที่นักศึกษาหมายถึง “เดอะเฟซบุ๊ก” มีสารบัญภาพ ที่มีภาพนักศึกษาทำกิจกรรมในหลาย ๆ โรงเรียน โดยนักศึกษาสามารถเข้ามาให้ข้อมูล อย่างเช่น ชั้นปีที่ศึกษา เพื่อนใกล้ชิด หมายเลขโทรศัพท์
โดยในขณะนั้น เฟซบุ๊ก เริ่มต้นเพียงแค่ “Harvard thing” จนกระทั่งซักเคอร์เบิร์กตัดสินใจที่จะกระจายไปสู่มหาวิทยาลัยอื่น ๆได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมห้อง ดัสติน มอสโควิตซ์ โดยเริ่มจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยดาร์ตมัธ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก มหาวิทยาลัยคอร์เนล มหาวิทยาลัยบราวน์ และมหาวิทยาลัยเยล จากนั้นก็เข้าสู่โรงเรียนอื่น ที่มีความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ซักเคอร์เบิร์กได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองแพโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย กับมอสโควิตซ์และเพื่อนบางส่วน พวกเขาดัดแปลงบ้านเช่าเป็นสำนักงาน ในฤดูร้อนนั้น ซักเคอร์เบิร์กได้พบกับปีเตอร์ ทีล ที่ได้ให้ทุนกับบริษัท พวกเขาเริ่มก่อตั้งบริษัทแรกในกลางปี 2004 พวกเขาได้ปฏิเสธการเสนอขายเฟซบุ๊กกับบริษัทใหญ่ ๆ โดยในบทสัมภาษณ์ในปี 2007 ซักเคอร์เบิร์กอธิบายไว้ว่า
เขาพูดในนิตยสารไวร์ ในปี 2010 ว่า “สิ่งที่ผมใส่ใจมากเกี่ยวกับภารกิจนี้ ก็คือทำให้โลกเปิดกว้างขึ้น” ก่อนหน้านั้นในเดือนเมษายน 2009 ซักเคอร์เบิร์กได้สอบถามคำแนะนำจากผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินของเน็ตสเคป ปีเตอร์ เคอร์รี เกี่ยวกับยุทธวิธีสำหรับเฟซบุ๊ก
ก่อตั้ง facebook มาร์ก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 ซักเคอร์เบิร์กรายงานว่า บริษัทมีผู้ใช้ 500 ล้านบัญชีรายชื่อ และเมื่อถามว่า เฟซบุ๊ก จะสามารถทำเงิน หรือสร้างปรากฏการณ์เพิ่มขึ้น เขาอธิบายว่า
ผมคิดว่า เราสามารถ… ถ้าคุณดูว่าโฆษณาที่มีในแต่ละหน้ากินไปขนาดไหน เมื่อเปรียบเทียบกับการค้นหาข้อมูล ของเรามีน้อยกว่าร้อยละ 10 ต่อหน้าและยอดการค้นหาปกติจะมีโฆษณาราวร้อยละ 20 … นี่เป็นสิ่งง่ายที่ทุกคนจะทำ แต่เราไม่ใช่อย่างนั้น เราทำเงินให้พอที่เราจะดำเนินงานได้ เติบโตในอัตราที่เราต้องการ
ในปี 2010 สตีเฟน เลวี ผู้แต่งหนังสือเรื่อง Hackers: Heroes of the Computer Revolution ในปี ค.ศ. 1984 ได้เขียนเกี่ยวกับซักเคอร์เบิร์กไว้ว่า “เห็นชัดว่าเขาคิดว่าตัวเองเป็น”แฮ็กเกอร์” ซักเคอร์เบิร์กพูดว่า “มันโอเคที่จะสร้างสิ่งใหม่…ทำให้มันดียิ่งขึ้น”เฟซบุ๊กเริ่มให้มี” “งานแฮ็กคาธอน” ในทุก ๆ 6 ถึง 8 อาทิตย์
เปิดโอกาส 1 คืนให้ร่วมคิดและจบโครงการ 1 โครง โดยบริษัทให้จัดหาเพลง อาหารและเบียร์ สำหรับงานแฮกคาธอน และจะมีเจ้าหน้าที่ของเฟซบุ๊ก รวมถึงซักเคอร์เบิร์ก เข้าร่วมด้วย “แนวคิดคือคุณสามารถสร้างบางสิ่งให้ดีได้ใน 1 คืน” ซักเคอร์เบิร์กบอกเลวี “และเป็นบุคลิกของเฟซบุ๊กในปัจจุบัน…ซึ่งก็คือนิสัยส่วนตัวของผมด้วย”
ในปี นิตยสาร วานิตีแฟร์ ได้ให้ซักเคอร์เบิร์กติดอันดับ 1 ในปี 2010 ของรายชื่อ “100 อันดับ บุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดในยุคข้อมูล” ในปี 2010 ยังติดอันดับ 16 ของการสำรวจประจำปีของ นิวสเตตส์เม็น ในหัวข้อ “บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก 50 อันดับ”
การพูดถึงในสื่อ
เดอะโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากชีวิตจริงของซักเคอร์เบิร์ก ในปีเริ่มก่อตั้งเฟซบุ๊กเรื่อง The Social Network ออกฉายเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2010 นำแสดงโดยเจสซี ไอเซนเบิร์ก แสดงเป็นซักเคอร์เบิร์ หลังจากที่ชีวิตเขาปรากฏบนจอภาพยนตร์ เขาตอบรับว่า “ผมหวังว่าจะไม่มีใครสร้างหนังเกี่ยวกับผมขณะที่ผมยังมีชีวิตอยู่” และเมื่อบทภาพยนตร์หลุดมาทางอินเทอร์เน็ต และนักแสดงนำไม่ใช่ตัวซักเคอร์เบิร์กในด้านบวก เขาก็ออกมาพูดว่า เขาต้องการให้เสนอตัวเขาในแบบ “คนดี”
ภาพยนตร์ The Social Network ซึ่งอิงมาจากหนังสือเรื่อง The Accidental Billionaires โดยเบน เมซริช ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ไว้ว่า “สนุก น่าสนใจ มาก” มากกว่าการเป็น “รายงาน” ผู้เขียนบทภาพยนตร์ แอรอน ซอร์คิน บอกกับนิตยสารนิวยอร์กว่า “ผมไม่ต้องการความถูกต้องแม่นยำ ผมต้องการเล่าเรื่อง” จากบทในหนังของซอร์คิน ที่บรรยายว่าซักเคอร์เบิร์กสร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาเพราะต้องการยกระดับชื่อเสียงของตนเพราะไม่สามารถเข้าไฟนอลคลับของฮาร์วาร์ด อย่างไรก็ตามซักเคอร์เบิร์กเล่าให้กับ The New Yorker ว่าเขาไม่เคยมีความสนใจที่จะเข้าไฟนอลคลับ
สื่ออื่น
ซักเคอร์เบิร์ก ในพากย์เสียงเป็นตัวเขาเองในตอน ของ The Simpsons ชื่อตอน “Loan-a Lisa” ออกอากาศครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2010 เป็นตอนเกี่ยวกับลิซา ซิมป์สันและเพื่อของเธอที่ชื่อเนลสันได้พบกับซักเคอร์เบิร์ก ที่งานชุมนุมนักธุรกิจ ซักเคอร์เบิร์กบอกกับลิซาว่า เขาไม่ต้องการเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเพื่อประสบความสำเร็จแบบรีบเร่ง อย่าง บิล เกตส์ และริชาร์ด แบรนสัน เป็นต้น
ในวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2010 รายการ Saturday Night Live ได้ล้อเลียนซักเคอร์เบิร์กและเฟซบุ๊ก[7] โดยแอนดี แซมเบิร์กแสดงเป็นซักเคอร์เบิร์ก ซึ่งซักเคอร์เบิร์กเขียนลงในเฟซบุ๊กของตัวเขาเองเกี่ยวกับตอนนี้ว่า “ผมเป็นแฟนตัวจริงของแอนดี แซมเบิร์ก และผมคิดว่ามันสนุก”