Skip to content
Home » News » คดีบิลลี่ 6 ปี จี้คืนความยุติธรรม

คดีบิลลี่ 6 ปี จี้คืนความยุติธรรม

คดีบิลลี่
https://www.amnesty.or.th/latest/blog/750/

คดีบิลลี่ 6 ปี จี้คืนความยุติธรรม คดีที่เงียบงันมานานหลายปีคือคดีของ ‘บิลลี่’ พอละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยง นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่หายตัวไปนานหลายปี

พอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและเป็นหลานชายของ “ปู่คออี้”* ที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยงในผืนป่าแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี บิลลี่ถือเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยเรียกร้องในสิทธิชุมชน ซึ่งในหลายกรณีเป็นความขัดแย้งระหว่างกะเหรี่ยงกับเจ้าหน้าที่รัฐในประเด็นที่อยู่อาศัยและการไล่รื้อที่อยู่ของชาวบ้าน และเขาเป็นหนึ่งแกนนำในการเตรียมฟ้องคดีต่อเจ้าหน้าที่ กรณีการเข้ารื้อทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงกว่า 20 ครอบครัวที่ใจแผ่นดิน เมื่อปี 2554

ด้านครอบครัวแต่งงานกับพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ มากว่า 10 ปี โดยมีลูก 5 คน ในวันที่เขาหายตัวไป ลูกคนโตอายุ 10 ขวบ และ 9, 7,4 ตามลำดับ ส่วนคนเล็กสุดอายุเพียง 1 ขวบกว่า

นอกจากนั้นเขายังเป็นสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในวันที่เขาหายตัวไปภรรยาของเขาเล่าว่า “ทุกวันนี้รายได้หลักของเราคือเงินเดือนของบิลลี่จากการเป็นอบต. เขาได้เดือนละ 6,800 บาท หากทางการไม่สามารถหาตัวบิลลี่เจอ ดิฉันและลูกๆ ก็ต้องพยายามอยู่ให้ได้ และช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด”

*สำหรับ “ปู่คออี้” วัย 107 ปี ผู้นำจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานเสียชีวิตลงอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เวลา 04.14 น.จากอาการเลือดออกในทางเดินอาหารรุนแรง

“พี่บิลลี่เคยบอกว่า ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาเดินทางออกมาจากป่าเด็งมาถึงบางกลอยแล้วเขาหายไป ไม่ต้องเป็นห่วงเขานะ ไม่ต้องตามหาเขานะ ให้รู้เลยว่าเขาถูกฆ่าตาย เขาพูดให้ฟังนะ เพื่อนสนิทเขาก็พูดให้ฟังอย่างนี้” มึนอ-พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่เคยเล่าเอาไว้

บิลลี่หายตัวไปในวันที่ 17 เมษายน 2557 เช้าวันนั้นเขาเดินทางออกจากหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อไปตัวอำเภอแก่งกระจาน พยานที่พบเห็นบิลลี่เป็นครั้งสุดท้าย ระบุว่า เขาเห็นบิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานจับกุมตัวไป แต่ไม่รู้ว่าพาไปไหนต่อ

18 เม.ย.2557 เวลา 06.00 น. คนในครอบครัวยืนยันว่า บิลลี่ยังไม่ได้กลับบ้านจนถึงเวลา 08.00 น.จากนั้นชาวบ้านได้ออกค้นหาจนถึงเวลา 20.00 น. ผู้ใหญ่บ้านบางกลอยเข้าแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน  

ในวันต่อมา ผู้ใหญ่บ้านบางกลอยได้เข้าแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ตรวจสอบพบว่า เขาถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเอาไว้จริง แต่ก็ได้ปล่อยตัวไปแล้วตามปกติ

“ต่อมาพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่านายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำตัวบิลลี่ไปและยอมรับว่า ควบคุมตัวบิลลี่ไว้จริง โดยให้เหตุผลว่าบิลลี่มีน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครองจึงเรียกไปตักเตือนแต่ได้ปล่อยตัวไปแล้ว”

ต่อมาในวันที่ 21 เมษายน 2557 น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ พร้อมผู้แทนชาวกระเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตตะนาวศรี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผบภ.จว.เพชรบุรี ซึ่งชัยวัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาว่ากักขังหน่วงเหนียวบิลลี่ ยอมรับว่ามีการควบคุมตัวบิลลี่จริง แต่ได้ปล่อยตัวไปแล้ว โดยมีน้องสาวบิลลี่เห็นบิลลี่ภายหลังปล่อยตัว

ในวันที่ 24 เมษายน 2557 ภรรยาของบิลลี่ พร้อมทนายยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 โดยถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเชื่อว่าบิลลี่ยังคงถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน และหวังว่าศาลจะช่วยให้ทราบได้ว่าบิลลี่อยู่ที่ใด และหากยังคุมตัวไว้โดยที่ไม่มีอำนาจควบคุม ก็ขอให้ปล่อยตัวบิลลี่ออกมา

หลังจากบิลลี่หายตัวไป ทางครอบครัวก็ได้เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ ให้กับบิลลี่ ทั้งไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รวมถึงยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ให้ไต่สวนกรณีควบคุมตัวบิลลี่ขัดกับหลักกฎหมาย (ในตอนนั้นครอบครัวเชื่อว่า บิลลี่ยังมีชีวิตอยู่แต่ถูกควบคุมตัวเอาไว้)

จนกระทั่งวันที่ 2 กันยายน 2557 ศาลฏีกายกคำร้องในคดีอดีตหัวหน้าหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานที่ถูกกล่าวหา ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 ควบคุมตัวบิลลี่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่าหลักฐานไม่เพียงพอ

คดีบิลลี่ หลังจากนั้น การหายตัวไปของบิลลี่ก็ยังไม่ค่อยมีความคืบหน้าเท่าที่ควร แต่ทางครอบครัวก็ยังไม่ยอมแพ้ และพยายามเรียกร้องความยุติธรรมให้กับบิลลี่อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ภรรยาของบิลลี่ที่เดินทางไปยื่นหนังสือต่อองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมไปถึงองค์กรและสถานทูตต่างประเทศ

“หนูไปยื่นหนังสือหลายครั้งจนจำไม่ได้ น่าจะมากกว่า 10 ครั้ง ไปหลายที่ด้วย ยูเอ็นก็เคยไปสถานฑูตเยอรมันก็เคยไป ที่สถานฑูตเยอรมันไปมาแล้ว 2 ครั้ง ไปเรียกร้องว่าคดีไม่คืบหน้า ก็ไปขอให้เขาช่วยกระตุ้นให้หน่อย ให้ผลักดันให้หน่อย” Thaipublica รายงานถึงคำพูดของมึนอ

ช่วงเดือน มี.ค. 60 มึนอ ภรรยาของบิลลี่ ยื่นหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เข้ามาตรวจสอบคดีนี้เป็นคดีพิเศษ แต่หลังจากสืบสวนไปได้ระยะหนึ่ง ดีเอสไอได้ส่งหนังสือถึงภรรยาบิลลี่เมื่อต้นเดือน มี.ค. 60 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติไม่รับคดีบิลลี่เป็นคดีพิเศษ