คดี “ล่าเสือดำ” 3 ก.พ. 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด และกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมนายยงค์ โดดเครือ นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ รวม 4 คน เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยมีจุดหมายเข้าไปพักแรม
ในวันที่ 4 ก.พ. 2561 เจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่ตะวันตกได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มนึง ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่า นักท่องเที่ยวหนึ่งในกลุ่มนี้ คือ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารอิตาเลี่ยนไทยบริษัทมหาชน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบบริเวณเต๊นท์พัก พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง จึงได้ทำการขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอกและปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก ใกล้กับที่พักพบอาวุธปืนที่ซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติมพบซากเสือดำถูกชำแหละและถลกหนัง บริเวณใกล้เคียงพบเครื่องกระสุนปืนเพิ่มอีกมาก จึงทำการจับกุมเพื่อส่งคดี สภ.ทองผาภูมิ รายชื่อจำเลยทัั้ง 4 คน
จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ

คดี “ล่าเสือดำ” กลายเป็นที่ฮือฮาของวงการมหาเศรษฐีเมืองไทย เมื่อเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก พื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี บุกรวบตัวนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ตำแหน่งประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน พร้อมของกลางซากสัตว์หายาก
ตะลึงในเต็นท์พบซากเสือดำ
ตรวจค้นภายในเต็นท์พบปืนลูกกรวดติดลำกล้องขนาด 30-06 จำนวน 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้องขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกซองแฝดเบอร์ 20 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 30.06 จำนวน 7 นัด กระสุนปืน ขนาด .22 มม.หัวทองแดง จำนวน 53 นัด กระสุนปืน ขนาด .22 หัวตะกั่ว 61 นัด กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 จำนวน 21 นัด เข็มขัดบรรจุกระสุนปืนลูกซองแบบคาดเอว 1 เส้น น้ำมันล้างปืน 1 ขวด นอกจากนี้ยังพบซากเสือดำถูกชำแหละแล้ว 1 ตัว หนัก 10.6 กิโลกรัม แต่ไม่มีหนังความยาวหัวถึงสะโพก 83 เซนติเมตร และหนังเสือดำที่ถูกชำแหละแล้ว 1 ผืน หนัก 2.6 กิโลกรัม ความยาวหัวถึงหาง 148 เซนติเมตร ชิ้นส่วนของเสือดำถูกสับแยกร่างบรรจุในถุงดำ นอกจากนี้ ยังพบซากไก่ฟ้าหลังเทา 1 ตัว น้ำหนัก 0.6 กิโลกรัม ซึ่งสัตว์ป่าทั้งสองชนิดเป็นสัตว์ป่าประเภทสัตว์ป่าคุ้มครองเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำนายเปรมชัยและพวก เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมนำหลักฐานบันทึกการจับกุม แจ้ง 9 ข้อกล่าวหา กับนายเปรมชัยและพวก แต่นายเปรมชัยและพวกให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง โดยได้ประกันตัวออกมาในวงเงินคนละ 150,000 บาท แต่ต้องมารายงานตัวตามกำหนดฝากขัง 7 ครั้ง
พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุและเก็บหลักฐานตามจุดที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. นำตำรวจ ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเปรมชัยที่ซอยศูนย์วิจัย 3 กรุงเทพฯ ตามหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 49/2561 ตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในบ้าน ตรวจพบอาวุธปืน 43 กระบอก และงาช้าง 4 กิ่ง แต่ไม่พบตัวนายเปรมชัย
พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ และชุดพญาเสือ ลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ขณะเดียวกันกองนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติ เริ่มตรวจหา DNA จากชิ้นเนื้อที่พนักงานสอบสวนส่งมาให้ตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าเนื้อทั้งหมดเป็นเสือดำตัวเดียวกันและเป็นเสือดำตัวเมีย นอกจากนี้ยังพบร่องรอยกระสุนจำนวน 8 รู บนหนังเสือดำและกะโหลกเสือดำ
ในระหว่างนั้นมีการตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์เพิ่มอีกหนึ่งข้อหา แต่ได้หลุดไปเนื่องจากพิจารณานิยามคำว่า “สัตว์” พบว่าไม่เข้าตามคำนิยามของตามพ.ร.บ.การทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 โดยสัตว์ป่าที่อยู่ในป่ามีพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ใช้บังคับอยู่แล้ว ซึ่งต่างจากสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงทั่วไป
2 มี.ค. 2561 นายเปรมชัย และพวกอีก 3 คน เดินทางมาให้ปากคำครั้งแรกที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ก่อนถึงกำหนดหมายเรียกวันที่ 5 มี.ค. 2561 เนื่องจากตัวนายเปรมชัย และลูกน้องอีก 3 คน ได้เลื่อนนัดรายงานตัวมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ก.พ. และครั้งที่ 2 คือวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการขัดหมายเรียกระหว่างได้รับประกันตัว ซึ่งหากนายเปรมชัยไม่มาตามหมายเรียกในวันที่ 5 มี.ค. นี้ พนักงานสอบสวนจะทำหนังสือถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อขอถอนประกันต่อไป
