Skip to content
Home » News » จับแล้ว คดีน้องการ์ตูน คนร้ายสารภาพลักพาตัวเพื่อข่มขืน

จับแล้ว คดีน้องการ์ตูน คนร้ายสารภาพลักพาตัวเพื่อข่มขืน

จับแล้ว คดีน้องการ์ตูน
https://www.thairath.co.th/content/389724

จับแล้ว คดีน้องการ์ตูน เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. 15 ธันวาคม 2556 ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับตัวคนร้ายที่ลักพาตัวน้องการ์ตูนได้แล้ว ที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังมีพลเมืองดีดูรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ และแจ้งเบาะแสมายังเบอร์สายด่วนมูลนิธิกระจกเงา เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกันจนทางตำรวจหนองคายเชิญผู้ต้องสงสัยมาสอบถาม 

จากนั้นผู้ต้องสงสัยรับสารภาพว่าเป็นคนลักพาตัวน้องการ์ตูนไป พร้อมเผยว่า เคยต้องโทษในคดีพรากผู้เยาว์มาก่อน ซึ่งทางตำรวจ สน.บางนา อยู่ระหว่างเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.14 น. วันนี้ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า ได้รับการยืนยันจาก สารวัตรสืบสวน สน. บางนา และ สารวัตรสืบสวน นครบาล 5 ว่า จับแล้ว คดีน้องการ์ตูน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ลักพาตัวน้องการ์ตูน เพื่อกระทำชำเรา และบีบคอฆ่าปิดปาก นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า คนร้ายที่ลักพาตัว น้องการ์ตูน คือ คนงานในคณะดนตรีชื่อดังที่จัดการแสดงในวันนั้น ชื่อเล่น คือ นายหนุ่ย อายุ 32 ปี เป็นชาวขอนแก่น

ไอ้หนุ่ย หรือนายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ไม่มีนามสกุล วัย 36 คือ คนร้ายที่ลงมือข่มขืนฆ่า “น้องการ์ตูน” ด.ญ.วัย 6 ขวบ ทิ้งศพหมกที่รกร้างข้างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แบริ่ง เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้ ก่อนจะหนีไปจนมุมตำรวจ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ถูกจับกุมดำเนินคดี

ลำพังรูปคดีที่ไอ้หนุ่ยลงมือกับน้องการ์ตูน ก็โหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนาอยู่แล้ว ยิ่งได้ยินคำพูดจากปากที่บอกว่าก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุกับเหยื่อมาแล้วนับ 10 ราย ฆ่าตายมาแล้ว 4 ศพ โดยน้องการ์ตูนเป็นศพสุดท้าย ยิ่งทำให้สลดหดหู่เกินบรรยาย ยังดีที่ตำรวจตามรวบตัวเอาไว้ได้

มิเช่นนั้นอาจมีเด็กหญิงตกเป็นเหยื่อมากกว่านี้ !??

ย้อนไปดูปฐมบทของเรื่อง เกิดวันที่ 6 ธ.ค. วันนั้น “น้องการ์ตูน” พลัดหลงจากพ่อแม่ขณะที่พ่อแม่พามาดูคอนเสิร์ตวงดนตรี ลูกทุ่งไหมไทย หัวใจศิลป์ ใกล้ซอยแบริ่ง ย่านบางนา ทุกคนพยายามตามหา แต่ก็ไม่พบ สุดท้ายจึงต้องเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางนา ข่าวการหายตัวไปของน้องการ์ตูน กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที เมื่อพลเมืองดีในโลกโซเชียล แชร์ภาพถ่ายชายหัวเถิกเดินจูงมือน้องการ์ตูนผ่านกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่ติดตั้งไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง และทางเดินเท้า โดยกล้องสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน และเป็นหลักฐานชั้นเยี่ยมในการออกติดตามน้องการ์ตูน

ในเบื้องแรกมีข่าวหลายกระแสสะพัดในโลกไซเบอร์ ไม่ว่าจะมีคนเห็นชายพาเด็กหญิงเดินขอเงินตามร้านอาหาร และพาเด็กหญิงที่มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายการ์ตูน พาไปนั่งขอทาน แต่สุดท้ายเมื่อตำรวจตรวจสอบ ก็ไม่พบว่าใช่น้องการ์ตูนแต่อย่างใด กระทั่งเวลาผ่านเลยไปเกือบสัปดาห์ มีพลเมืองดีแจ้งตำรวจว่า พบหัวกะโหลกมนุษย์ที่บริเวณพงหญ้าข้างซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ถ.สุขุมวิท แขวงและเขตบางนา ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แบริ่ง จุดที่หายตัวไป 

ตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบ 

จับแล้ว คดีน้องการ์ตูน
https://www.thairath.co.th/content/389724

ที่นั่นพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ ที่กลบด้วยดินบางส่วน ซึ่งแพทย์ที่เดินทางมาตรวจสอบ ยืนยันทันทีว่าเป็นของเด็กที่เสียชีวิตมาเกือบ 1 สัปดาห์ อันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่น้องการ์ตูนหายตัวพอดี นอกจากหัวกะโหลกแล้ว ยังพบกางเกงสีม่วงลายดอก ยี่ห้อเจเจ ภายในกระเป๋าพบขนมช็อกโกแลตรูปเต่า ซึ่งเป็นของน้องการ์ตูนอีกด้วย  จึงนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบตามขั้นตอน

การตามหาน้องการ์ตูนยังคงดำเนินต่อไป ตำรวจเชิญตัวพ่อแม่น้องการ์ตูน มาเก็บหลักฐานดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับโครงกระดูกที่พบ ว่าจะใช่น้องการ์ตูนหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลานานนับสัปดาห์กว่าจะรู้ผล แต่แล้วทุกอย่างก็เฉลยออกมาจนได้

เมื่อบ่ายวันที่ 15 ธ.ค. ตำรวจ สน.บางนา ได้รับการประสานจากพล.ต.ท. อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภาค 4 พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.หนองคาย พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.จักรทิพย์ กูลพฤกษี รองผกก.(สส.) ว่าสามารถจับกุมไอ้หนุ่ย บุคคลในภาพวงจรปิดเอาไว้ได้ หลังจากหมอนี่ซึ่งทำงานเป็นเด็กยกของวงดนตรีลูกทุ่งไหมไทย ที่ไปเปิดแสดงอยู่ใน อ.ท่าบ่อ

จับแล้ว คดีน้องการ์ตูน
https://www.thairath.co.th/content/389724

โดยพลเมืองดีเห็นรูปพรรณสัณฐาน พบว่าตรงกันกับรูปที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ใช่ อีกทั้งยังมีเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงในกระเป๋าอีกด้วย จึงแจ้งผู้กำกับฯ สมชาย จับกุมตัวไว้ 
ในเบื้องแรกไอ้หนุ่ยให้การภาคเสธ รับเพียงแค่เป็นคนร้ายที่พาน้องการ์ตูนไป แต่ไม่ได้ลงมือฆ่า แต่พอถูกตำรวจบี้สอบมากๆ จึงยอมเปิดปากสารภาพว่าบีบคอน้องการ์ตูนจนตายคามือ ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่

ตำรวจบางนารีบไปรับตัว “ไอ้หนุ่ย” มาดำเนินคดีเดี๋ยวนั้น

วันรุ่งขึ้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. นำตัวคนร้ายมาแถลงข่าว ซึ่ง “ไอ้หนุ่ย” ให้การยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตนทำงานเป็นเด็กยกของกับวงดนตรีลูกทุ่งไหมไทย ไปเปิดแสดงแถวๆ ซอยแบริ่ง ที่พ่อแม่เด็กไปดูคอนเสิร์ต หลังเสร็จงานตนเดินออกมาหาซื้อเบียร์ดื่ม เพราะติดลมก่อนหน้านี้ ระหว่างเดินออกมา บังเอิญเห็นน้องการ์ตูนเดินอยู่เพียงลำพัง จึงทำทีชักชวนไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วจึงลงมือก่อเหตุ

“เวลาเมาผมจะเกิดอารมณ์ทางเพศ ควบคุมตัวเองไม่ได้ พอพบน้องการ์ตูน ซึ่งอยู่คนเดียวที่ลานจอดรถ จึงออกอุบายพาไปเดินเล่น ก่อนฉุดเข้าพงหญ้าข้างทางบริเวณปากซอยลาซาล และข่มขืนกระทำชำเรา แต่น้องการ์ตูนขัดขืน จึงใช้มือบีบคอจนแน่นิ่งไป ซึ่งเหตุลักษณะนี้ผมเคยทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี 2551 หลังพ้นโทษในคดีพรากผู้เยาว์ จากเรือนจำจังหวัดขอนแก่น

“ผมจะเลือกเหยื่ออายุประมาณ 12-13 ปี ที่เดินตามลำพัง ทำมาเยอะ แต่ที่ฆ่าคือ 4 ราย รวมทั้งน้องการ์ตูน ส่วนที่เหลือหลังข่มขืนเสร็จ ก็ปล่อยเด็กกลับบ้านไป เวลาเมาผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้ วันเกิดเหตุเห็นน้องการ์ตูนจึงแกล้งถามไปว่า แม่หนูไปไหน น้องบอกว่าแม่ไปดูหมอลำ ผมเลยหลอกว่าจะพาไปซื้อขนม แล้วพาไปข่มขืนแล้วฆ่าจนตาย สำหรับตัวผมเองนั้น ไม่มีบัตรประชาชน นามสกุลก็ไม่มี และไม่มีพ่อแม่ เป็นเด็กกำพร้า ผมเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป” ไอ้หนุ่ยกล่าวทิ้งท้าย

ตำรวจแจ้งข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา เพื่อการอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และกระทำการเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อปกปิดความผิด และซ่อนเร้นอำพรางศพทันที

ถึงแม้คนร้ายจะยอมเปิดปากสารภาพ แต่ทว่าขั้นตอนการทำคดี ก็ต้องมีการพิสูจน์ซากผู้ตาย ล่าสุดกองพิสูจน์หลักฐานนำกะโหลกและหลักฐานอื่นที่พบไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะทราบผลในเร็วๆ นี้ ส่วนไอ้หนุ่ย พนักงานสอบสวน สน.บางนา จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และขออำนาจศาลฝากขังต่อไป

กล่าวถึงการจากไปของน้องการ์ตูน ทำให้พ่อแม่หัวใจสลาย เพราะยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

“เสียใจมาก ถึงตอนนี้ก็ยังหวังว่าผลตรวจดีเอ็นเอศพที่พบ จะไม่ใช่ลูกสาว เพราะยังทำใจไม่ได้ ที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนโตที่อยู่ในวัยน่ารักไป ตอนนี้เรายังโทษตัวเองอยู่ว่าไม่ควรปล่อยลูกอยู่ตามลำพังจนเกิดเหตุร้าย อยากถามใจคนร้าย ว่าหากเป็นคนในครอบครัวถูกกระทำเช่นนี้บ้าง จะรู้สึกอย่างไร” คือ ความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่สูญเสียลูกสาวไป 

เป็นเหตุร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด!?!