
จำคุกน้ำอุ่น ศาลพิพากษา 8 ปี คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว “ลัลลาเบล” ส่วนแก๊งปาร์ตี้มรณะบางบัวทองอีก 5 คน โดนสนับสนุน คนละ 5 ปี 4 เดือน ร่วมกันชดใช้ 7.4 แสน
ท่ามกลางข่าวม็อบ มีคดีน่าสนใจที่ศาลอาญาธนบุรีเพิ่งอ่านคำพิพากษา เป็นคดีครึกโครมเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2562 มีคนพบศพพริตตี้สาวสวย “ลัลลาเบล” น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ ถูกทิ้งเสียชีวิตเป็นปริศนาอยู่บนโซฟา ล็อบบี้คอนโดฯแห่งหนึ่ง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ตลาดพลู
ตำรวจ สน.บุคคโล รีบมาตรวจสอบ เบื้องต้นตามร่างกายไม่พบบาดแผล?
แต่พอสืบสวนต่อไป เรื่องราวยิ่งสลับซับซ้อน พบว่าเธอไปรับงานพริตตี้เอนเตอร์เทนที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.นนทบุรี ถูกชักชวนให้กินเหล้าจนเมาแอ๋ไม่ได้สติ
นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร ลากขึ้นรถกลับไปยังคอนโดฯที่พักตัวเอง แต่พบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว!
รีบถูลู่ถูกังพาร่างกลับลงมาทิ้งไว้บนโซฟาล็อบบี้ด้านล่างแล้วกลับขึ้นไปนอนหน้าตาเฉย อันนี้ไม่ได้คิดไปเอง มีภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโดฯถูกนำมาเผยแพร่ จนคนด่ากันทั้งเมือง
งานนี้ตำรวจเล่นบทโหด เพียรหาพยานหลักฐานอยู่นาน แถมส่งตรวจหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกเพียบ เพื่อมัดตัวกลุ่มผู้ต้องหาในศาล
ประกอบด้วย นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร จำเลยที่ 1 นายชัยพล หรือคิว พรรณนา เจ้าของบ้านงานปาร์ตี้บางบัวทอง จำเลยที่ 2 นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร จำเลยที่ 3 น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญภา จำเลยที่ 4 นายกฤษฎา หรือโนบิ โลหิตดี จำเลยที่ 5 และ นายโกเศศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ จำเลยที่ 6
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2563 ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.เอกชัย ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1204/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร, นายชัยพล หรือคิว พรรณนา เจ้าของงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง กับพวกเป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิด ฐานเป็นซ่องโจร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
กรณีจำเลยทั้ง 6 มีงานเลี้ยงโดยมีการดื่มสุรา ที่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง แล้วจ้าง น.ส.ธิติมา หรือลัลลาเบล นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 26 ปี ให้มาเป็นพริตตี้ ชงเหล้าร่วมเต้นรำและร่วมดื่มสุรา โดยจำเลยทั้ง 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ น.ส.ธิติมา ดื่มสุราจนเมา และอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แล้ว
นายรัชเดช จำเลยที่ 1 ได้พาพริตตี้ลัลลาเบล ซึ่งขณะนั้นมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดสูงมากอยู่ในภาวะมึนเมา โดยใช้กำลังประทุษร้ายไปอนาจาร และอุ้มแบกออกจากบ้านหลังดังกล่าว ไปขึ้นรถยนต์ของจำเลยที่ 1 แล้วพาไปที่ห้องพักคอนโดย่านดาวคะนอง แล้วพาพริตตี้ลัลลาเบลอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ไปบนห้องพัก เป็นเหตุให้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง ต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายและถึงแก่ความตาย
ส่วนจำเลยที่ 2-6 ร่วมกันสนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 2-6 ต่างล่วงรู้ถึงเป้าหมายของการจัดงานปาร์ตี้ โดยให้พริตตี้ลัลลาเบลดื่มสุราจนเมา ไม่สามารถครองสติและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แล้วพวกจำเลยยินยอมให้นายรัชเดช จำเลยที่ 1 พาพริตตี้ลัลลาเบลไปกระทำอนาจารโดยไม่ได้ขัดขวางหรือเข้าห้ามปรามอันเป็นการให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่นายรัชเดช
แม้จำเลยทั้ง 6 จะให้การปฏิเสธ แต่แม่ของ น.ส.ธิติมา ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ และยื่นคำร้องขอให้จำเลยทั้ง 6 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยศาลสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วม รวม 30 ปาก สืบพยานจำเลย รวม 6 ปาก ซึ่งมีพยานโจทก์เบิกความยืนยันในชั้นศาล สอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวน ภาพจากกล้องวงจรปิด คลิปวิดีโอจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยทั้ง 6 คน บันทึกการสนทนาในแอปพลิเคชันไลน์ รายงานผลการสืบสวนพฤติกรรมของบุคคล บันทึกการชี้ตัวของพยานซึ่งได้กระทำทันทีหลังเกิดเหตุ ผลการชันสูตรพลิกศพ
นอกจากนี้ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจึงน่าเชื่อว่า จำเลยที่ 1 ได้กระทำอนาจารผู้ตาย โดยใช้กลอุบายหลอกล่อให้ผู้ตายดื่มสุราในปริมาณมาก เพื่อให้ผู้ตายหมดสติอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และได้พาผู้เสียชีวิตซึ่งหมดสติขึ้นรถยนต์ไปที่คอนโดของจำเลยที่ 1 โดยมีเจตนาที่จะล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียชีวิต
โดยวันนี้ จำเลยทั้งหมดที่ได้ประกันตัวและเดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมทนายความ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องพิพากษา จำคุกน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดดังกล่าว จำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินใหม่แก่โจทก์ร่วมจำนวน 748,660 บาท