จ่าแซม เสียชีวิต ขณะกู้ภัย13หมูป่า สุดเศร้า “จ่าแซม” สังกัด ทอท. อดีตหน่วยซีล พลีชีพในถ้ำหลวงฯ ขณะดำน้ำออกจากถํ้า หลังลำเลียงขวดออกซิเจนไปติดตั้งแล้วหมดสติก่อนเสียชีวิต เผยเป็นนักกีฬาตัวเก่ง นิสัยดี ช่วยเหลือสังคม ในหลวงรับสั่งจัดงานให้สมเกียรติพร้อมพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พ่อกับแม่ร่ำไห้สูญเสียลูกชายที่มีเพียงคนเดียว ส่วนการช่วยเหลือ 13 ชีวิตยังเดินหน้าต่อไป ทั้งสูบน้ำและหาโพรงเหนือถ้ำ องค์ทีประทานโปสต์การ์ด เป็นกำลังใจให้ทีมหมูป่าด้วย
สาเหตุเป็นลมขณะดำน้ำ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การเสียชีวิตของ จ.อ.สมาน เนื่องจากเป็นลมขณะที่ดำน้ำ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว สาเหตุอาจเกิดจากร่างกายไม่แข็งแรงทำให้เป็นลมหรือเพราะเขามีโรคประจำตัว ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ เพราะพวกเขาแข็งแรงอยู่แล้ว เราให้กำลังใจเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่อถามว่าจากกรณีดังกล่าวควรจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาใช้มาตรการทุกอย่างอยู่แล้ว การสูญเสียเป็นการสูญเสียรายบุคคล ไม่ใช่การสูญเสียเป็นกลุ่มทั้งหมดจะให้ทำอย่างไร

วันที่ 6 ก.ค.2561 จ่าแซม เสียชีวิต ขณะกู้ภัย13หมูป่า ผู้คนทั่วโลกที่ติดตามภารกิจครั้งนี้ตกอยู่ในความโศกเศร้า เมื่อทราบข่าว จ.อ.สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม อดีตหน่วยซีล เสียชีวิตขณะที่กำลังลำเลียงขวดอากาศ จากโถง 3 ไปสามแยกภายในถ้ำหลวง
พ.ต.นพ.ชาญฤทธิ์ แสดงความเสียใจไปยัง พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล พร้อมประสานกับ พ.อ.กิติพันธ์ เฮงสนั่นกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย ระดมหาเครื่องกระตุกหัวใจ (AED) จากในพื้นที่เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากการใช้ผ้าห่มฉุกเฉินอาจไม่เพียงพอ หากเกิดภาวะตัวเย็นและหัวใจหยุดเต้น
จ.อ.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อายุ 38 ปี อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือหน่วยซีลได้สละชีพกลางถ้ำหลวง ขณะดำน้ำกลับจากลำเลียงขวดอากาศจากโถงสามเข้าไปส่งในถ้ำแต่หมดสติก่อน และเสียชีวิตในที่สุด จากการสอบถามทราบว่า จ.อ.สมาน รับภารกิจเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้ลำเลียงขวดอากาศจากโถงสามไปวางตามจุดต่างๆ บริเวณสามแยก โดยเริ่มดำน้ำในถ้ำตั้งแต่เมื่อเวลา 20.37 น. วันที่ 5 ก.ค. หลังเสร็จภารกิจได้ดำน้ำกลับแต่หมดสติในน้ำ ระหว่างนั้นคู่ดำน้ำที่ไปด้วยกันได้ปฐมพยาบาล (CPR) แต่ไม่ได้สติ รีบนำกลับมายังโถงสาม เพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้ง แต่ไม่ได้ผลและเสียชีวิตเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 6 ก.ค. จึงนำศพออกมาหน้าถ้ำและ นำส่ง รพ.ค่ายพญาเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย

ด้านเว็บไซต์บีบีซีไทย รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้โทร. ไปสัมภาษณ์ ร.อ. ฉลอง ปานผ่อง อดีตครูสอนโรงเรียนจ่านาวิกโยธิน ซึ่งระบุว่า ตนไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะ จ.อ. สมาน เป็นนักกีฬา มีร่างกายที่แข็งแรง เคยเป็นลูกศิษย์ของตน ก่อนจะเข้าฝึกหลักสูตรหน่วยซีลจากนั้นก็ทำงานที่ศูนย์สงครามพิเศษทางเรืออยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะลาออกไปทำงานที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย
ร.อ. ฉลอง ระบุอีกว่า จ.อ. สมาน เป็นคนมีน้ำใจ รักพวกพ้อง มีร่างกายแข็งแรงมาก ชอบเล่นกีฬาหนัก ๆ จำพวกไตรกีฬา หรือกีฬาแอดเวนเจอร์ต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ตนก็เพิ่งเห็นข้อความว่า จ.อ. สมาน จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ถ้ำหลวง แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเกิดของ จ.อ. สมาน และสัมภาษณ์ นายวิชัย กุนัน อายุ 62 ปี บิดา จ.อ. สมาน เปิดเผยว่า ก่อนที่ลูกจะไปถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ก็โทร. มาหา บอกว่าจะไปช่วยเด็กติดถ้ำ ตนก็บอกว่าไปได้ แต่ไม่อยากให้เข้าไปในถ้ำ ลูกก็รับปาก ก่อนจะมารู้ข่าวที่เกิดขึ้น นายวิชัย บอกอีกว่า ลูกชายบอกจะกลับบ้านวันที่ 15 กรกฎาคม นี้ พร้อมกับภรรยา เพราะทำฟาร์มเลี้ยงไก่งวงและเตรียมจะนำไก่ไปขาย ตนไม่อยากโทษใคร ไม่โทษทีมหมูป่าฯ ตนรู้สึกทั้งเสียใจและดีใจ ที่ลูกกล้าหาญ เสียสละช่วยเหลือน้อง ๆ แต่อยากให้มีหน่วยงานมาช่วยเหลือครอบครัว

ด้าน นางสำราญ กุนัน อายุ 64 ปี กล่าวว่า ตอนแรกไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะลูกชายมีร่างกายแข็งแรง ตนเสียใจมาก พูดอะไรไม่ออก
สูญเสียลูก แต่ภูมิใจที่ช่วยคน
นายวิชัยกล่าวอีกว่า จ.อ.สมานเป็นผู้คอยดูแล พ่อแม่มาโดยตลอด ในแต่ละเดือนจะส่งเงินมาให้ 5,000-10,000 บาทไม่เคยขาด เพราะพ่อกับแม่ต้องดูแลคุณตากับยาย คือนายเคน หงส์ชั้น อายุ 92 ปี กับนางจันทา หงส์ชั้น อายุ 86 ปี ที่มีบ้านอยู่ติดกันด้วย ส่วนศพของลูกชายจะนำไปตั้งบำเพ็ญ กุศลที่วัดบ้านหนองคู เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง ห่างจากบ้านเพียง 100 เมตร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนและภรรยารู้สึกเสียใจและดีใจ มากพอๆกัน ดีใจคือ ลูกได้อาสาไปช่วยเหลือคน ไม่อยากโทษทีมหมูป่าอะคาเดมี หรือโทษใครทั้งนั้น สิ่งไหนจะเกิด มันก็ต้องเกิด ไม่อยากโทษใคร และการสูญเสียลูกชายซึ่งถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัวในครั้งนี้ ตอนนี้ ยังคิดอะไรไม่ถูก

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า มีหน่วยงานต่าง ๆ นำเจ้าหน้าที่เข้ามาคอยดูแล พร้อมกับเยียวยาสภาพจิตใจครอบครัวของ จ.อ. สมาน นอกจากนี้ทางอำเภอได้เข้ามาช่วยจัดการเรื่องงานศพ ขณะที่ทาง เฟซบุ๊ก ธนา บุญวิเศษ ระบุว่า พ่อของ จ.อ. สมาน ยืนยันว่าลูกชายไม่มีบุตร-ธิดา ทั้งนี้ น.ส.วิไลพร กุนัน น้องสาวของจ.อ. สมาน ภายหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของพี่ชาย เสียใจเป็นอย่างมาก ขณะนี้กำลังเดินทางไปสัตหีบ เพื่อไปรอรับศพพี่ชาย
ในหลวงรับสั่งจัดงานสมเกียรติ
นายภาสกรกล่าวว่า ภายหลังความทราบถึงพระกรรณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัย รับสั่งให้จัดงานอย่างสมเกียรติในพิธีศพ อันดับแรกจะมีพิธีส่งศพที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงรายโดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย คนใหม่เป็นประธานในพิธี มีทหารกองเกียรติยศส่งศพอย่างสมเกียรติ ก่อนส่งศพโดยเครื่องบินทหารไปฐานทัพเรือสัตหีบ โดยพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและทรงให้ดูแลครอบครัวบุตรหลานอย่างดีที่สุด ขณะที่ทางญาติขอนำศพไปประกอบพิธีที่บ้านเกิด จ.ร้อยเอ็ด อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าการสูญเสีย จ.อ.สมาน ไม่ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนเสียขวัญ มีกำลังใจดีเยี่ยมและจะปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จโดยเร็ว

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬา ภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบล รัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมและโปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต เชิญพวงมาลาพระราชทานและพวงมาลาประทานวางที่หน้าหีบศพด้วย