ชดใช้เหยื่อ เซวอล อับปาง ศาลเกาหลีใต้มีคำพิพากษาเป็นครั้งแรกว่ารัฐบาลเกาหลีต้องรับผิดต่อเหตุการณ์เรือเฟอร์รีเซวอลอับปางคร่าชีวิต 304 คน เมื่อปี 2557 และสั่งให้รัฐบาลกับบริษัทเจ้าของเรือร่วมกันชดใช้ครอบครัวของเหยื่อทั้งหมดรายละประมาณ 6 ล้านบาท
ชดใช้เหยื่อ เซวอล อับปาง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม 2561 ศาลแขวงกลางของกรุงโซลมีคำพิพากษาคดีที่สมาชิกครอบครัวของเหยื่อที่ประสบภัยจากเหตุเรือโดยสารข้ามฟากเซวอลอับปางนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 ยื่นฟ้องเอาผิดรัฐบาลเกาหลีใต้ให้รับผิดต่อเหตุการณ์นี้ และชดใช้ค่าเสียหายต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต
ปฏิบัติการช่วยชีวิตที่ผิดพลาด และจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากถึง 304 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่เกาะเชจู สร้างความตกตะลึงและโกรธแค้นในหมู่ประชาชนของเกาหลีใต้ การสอบสวนพบว่า เรือเฟอร์รีขนาด 6,800 ตันลำนี้มีโครงสร้างที่ไม่มั่นคง ทั้งยังบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยมีผู้โดยสารถึง 476 ราย และแล่นด้วยความเร็วสูงเกินไปขณะหักเลี้ยว จนทำให้เรืออับปาง กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เกาะกินจิตใจของประชาชนในประเทศยาวนานหลายเดือน

ศาลเกาหลีใต้แห่งนี้มีคำตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลเกาหลีใต้มีความรับผิดต่อเหตุการณ์นี้ และสั่งให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยต่อครอบครัวของเหยื่อแต่ละราย รายละ 200 ล้านวอน (5.87 ล้านบาท) และให้จ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมแก่พ่อแม่และญาติของเหยื่อตั้งแต่ 5 ล้านวอน (1.46 แสนบาท) ถึง 80 ล้านวอน (2.35 ล้านบาท) แตกต่างกันไป
ผู้พิพากษาลี ซังฮยุน กล่าวในเอกสารของศาลว่า เหยื่อเสียชีวิตขณะรอความช่วยเหลืออยู่ภายในเรือ โดยไม่รับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์โดยละเอียด แต่หลังจากเวลาผ่านมา 4 ปี ก็ยังคงมีข้อโต้แย้งกันอยู่ว่าใครคือผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์เรืออับปางและการจ่ายชดเชยค่าเสียหาย
สมาชิก 354 คนของครอบครัวนักเรียน และเหยื่อ 118 คนที่เสียชีวิต ยื่นฟ้องร้องต่อศาลเมื่อปี 2558 เพื่อกล่าวโทษรัฐบาล และบริษัท ชองแฮจินมารีน ผู้ดำเนินกิจการเรือโดยสารข้ามฟาก เพื่อให้รับผิดต่อเหตุการณ์นี้ ภายหลังพวกเขาปฏิเสธข้อตกลงจ่ายเงินชดเชยเพื่อไกล่เกลี่ยโดยไม่ต้องฟ้องร้องต่อศาล
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีใต้เคยเสนอจะจ่ายเงินแก่ครอบครัวของนักเรียนรายละ 470 ล้านวอน (13.8 ล้านบาท) แต่ญาติของเด็กนักเรียน 116 คน และผู้โดยสารอื่นอีก 2 คน ปฏิเสธเงินจำนวนนี้ โดยได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกเงินชดเชยรายละ 1,000 ล้านวอน (34 ล้านบาท) และขอให้ศาลพิพากษาว่ารัฐบาลต้องรับผิด
ศาลเคยตัดสินว่ากัปตันเรือลำนี้มีความผิดฐานทำให้คนตายและตัดสินจำคุกเขาตลอดชีวิต ส่วนลูกเรือ 14 คน ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 12 ปี และลดหลั่นลงมา ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ชายฝั่งลำหนึ่งถูกตัดสินจำคุก 4 ปี ฐานไม่เตือนผู้โดยสารถึงอันตรายจวนตัว
จอน มย็องซุน แกนนำของครอบครัวเหยื่อ กล่าวว่า คำตัดสินครั้งนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น พวกตนยังไม่พอใจ เนื่องจากศาลไม่เห็นพ้องกับโจทก์ที่ว่าสำนักงานประธานาธิบดีต้องรับผิดด้วยในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยงานรับมือภัยพิบัติ พวกตนจะอุทธรณ์
ยู คยองคึน ญาติเหยื่ออีกคนพยายามกลั้นน้ำตาขณะกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้านนอกศาล โดยเปรียบเทียบรัฐบาลเกาหลีใต้กับรัฐบาลไทยที่ปฏิบัติต่อสมาชิกทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ติดถ้ำหลวงว่า เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอิจฉาคนไทยและจะยังคงอิจฉาต่อไป เขาอยากให้ตนเองเป็นคนไทย เขาดีใจเหลือเกินที่ทุกคนรอดชีวิตออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย.
กัปตันลี จุน-ซ็อก วัย 68 ปี และลูกเรืออีก 14 คน ถูกนำตัวขึ้นศาลในเมืองกวางจูในการไต่สวนนัดสุดท้ายเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ในคดีเรือโดยสารเซวอลล่มนอกชายฝั่งเกาะจินโดเมื่อ 16 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 304 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน โดยมีญาติของเหยื่อเคราะห์ร้ายเข้าร่วมฟังด้วย และอัยการเสนอให้ผู้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตแก่กัปตันลี ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตกับลูกเรือ 3 คน และให้ลูกเรืออีก 11 คนต้องโทษจำคุก 15-30 ปี
อัยการเปิดเผยว่า กัปตันลีและลูกเรืออีก 3 คนถูกตั้งข้อหาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่เจตนาเนื่องจากการประมาท และไม่ได้พยายามช่วยชีวิตผู้โดยสารเมื่อเรือเริ่มเอียงและอัปปาง ส่วนลูกเรืออีก 11 คนถูกตั้งข้อหาเบากว่า โดยลูกเรือทั้ง 15 คนเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่อพยพออกจากเรือ
ขณะที่บรรดาญาติเหยื่อเรือเซวอลต่างแสดงความไม่พอใจต่อข้อเสนอของอัยการ เนื่องจากพวกเขาต้องการให้กัปตันและลูกเรือได้รับโทษประหารชีวิตทั้งหมด
ส่วนความคืบหน้าของการค้นหากู้ภัยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนานเกือบ 7 เดือน เพิ่งกู้ศพได้ 294 ศพและยังมีผู้สูญหายอีก 10 คน และครอบครัวของผู้สูญหายร่วมคัดค้านการกู้ซากเรือขึ้นจากทะเลและขอให้ดำเนินการค้นหาผู้สูญหายต่อไปจนกว่าจะพบ
นอกจากนี้ ผู้แทนของกลุ่มองค์กรภาคพลเมืองรวมตัวกันที่จตุรัสกวางฮวามุนในกรุงโซลเรียกร้องให้พรรครัฐบาลและฝ่ายค้านออกกฎหมายจัดตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนอุบัติเหตุเรือล่มครั้งนี้ และหากไม่สามารถออกกฎหมายได้ภายในสิ้นเดือนนี้ จะนัดเดินขบวนครั้งใหญ่ในวันเสาร์ที่ 1 พ.ย.ในโอกาสครบรอบ 200 วันของโศกนาฏกรรม

เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นโศกนาฏกรรมทางเรือครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ และทำให้รัฐบาลประธานาธิบดี ปาร์ค กึน ฮเยถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าไร้ประสิทธิภาพในการกู้ภัย
ผู้โดยสารทุกคนได้รับคำสั่งให้ยืนอยู่กับที่ในขณะที่เรือเริ่มเอียง ส่วนกัปตันและลูกเรือกลับหนีเอาตัวรอดเป็นคนแรกๆ
ลี จุน ซ็อก กัปตันเรือเซวอล ถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ส่วนลูกเรืออีก 14 คน ได้รับโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี ขณะที่ผู้บังคับการเรือยามฝั่งก็โดนคุกไป 4 ปี โทษฐานไม่แจ้งเตือนผู้โดยสารให้ตระหนักว่ากำลังมีอันตรายถึงชีวิต
“ผู้บังคับการเรือไม่รักษาหน้าที่ในการปกป้องชีวิตประชาชน แต่ปล่อยให้ผู้โดยสารรอความช่วยเหลือโดยไม่ทราบสถานการณ์ที่แท้จริง” ศาลระบุ
“ญาติผู้โดยสารต้องทนทุกข์ทรมานจากความเครียด เนื่องจากถูกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง”
ศาลยังมีคำสั่งให้บริษัท ชอง แฮ จิน ซึ่งเป็นเจ้าของเรือเซวอลร่วมรับผิดชอบในการจ่ายค่าชดเชยแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
ผลการสอบสวนสรุปว่า โศกนาฏกรรมเรือเซวอลเกิดจาก “ฝีมือมนุษย์” เป็นสำคัญ เช่น การนำเรือไปดัดแปลงอย่างผิดกฎหมาย บรรทุกน้ำหนักเกิน ลูกเรือขาดประสบการณ์ และอาจมีการเอื้อประโยชน์ระหว่างผู้ประกอบการเดินเรือกับผู้ตรวจสอบของรัฐด้วย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เสนอเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิตรายละ 470 ล้านวอนแต่ญาตินักเรียน 116 คน และผู้โดยสารอีก 2 คน ปฏิเสธที่จะรับเงินจำนวนดังกล่าว และได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยสูงถึงรายละ 1,000 ล้านวอน พร้อมขอให้ศาลประกาศว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของภาครัฐด้วย