Skip to content
Home » News » ชีวิตครอบครัวของเนลสัน

ชีวิตครอบครัวของเนลสัน

ชีวิตครอบครัวของเนลสัน
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_917992

ชีวิตครอบครัวของเนลสัน แมนเดลาแต่งงานทั้งสิ้น 3 ครั้ง มีบุตร 6 คน หลานอีก 20 คน และเหลนอีกจำนวนหนึ่ง เขายังเป็นปู่ของ มันดลา แมนเดลา หัวหน้าสภาวัฒนธรรมของมเวโซอีกด้วย

การแต่งงานครั้งที่หนึ่ง

ชีวิตครอบครัวของเนลสัน แมนเดลาแต่งงานครั้งแรกกับเอฟลิน อึนโตโก มาเซ ซึ่งเป็นชาวทรานสไกเช่นเดียวกับแมนเดลา แต่ทั้งสองไปพบกันที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ทั้งสองหย่ากันในปี พ.ศ. 2500 หลังจากแต่งงานกัน 13 ปี ด้วยปัญหาความตึงเครียดนานาประการ เช่นการที่เขาหายตัวไปอยู่เสมอ การทุ่มเทให้กับขบวนการปฏิวัติ

รวมไปถึงการที่เธอไปเป็นพยานพระยะโฮวา ลัทธิศาสนาหนึ่งที่จะต้องถือความเป็นกลางทางการเมือง เอฟลิน มาเซ เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2547 ทั้งสองมีบุตรชายด้วยกัน 2 คน คือ มาดิบา เทมเบไคล์ (เทมบี) (พ.ศ. 2489-2514) และมัคกาโธ แมนเดลา (พ.ศ. 2493-2548) และบุตรสาว 2 คนซึ่งมีชื่อเดียวกันคือ มาคาซิเว (หรือเรียกว่า มาคิ เกิดปี พ.ศ. 2490 และ พ.ศ. 2496)

บุตรสาวคนโตเสียชีวิตตั้งแต่อายุเพียง 9 เดือน ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งชื่อบุตรสาวคนที่สองด้วยชื่อเดียวกันเป็นการระลึกถึง ลูก ๆ ทั้งหมดเข้ารับการศึกษาที่วิทยาลัยยูไนเต็ดเวิลด์ที่วอร์เตอร์ฟอร์ดคัมห์ลาบา เทมบีเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์ในปี พ.ศ. 2514 เมื่ออายุได้ 25 ปี ขณะนั้นแมนเดลาถูกจำคุกอยู่ที่เกาะโรบเบิน และไม่ได้รับอนุญาตให้มาร่วมงานศพ ส่วนมัคกาโธเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ในปี พ.ศ. 2548

การแต่งงานครั้งที่สอง

ภรรยาคนที่สองของแมนเดลาคือ วินนี มาดิคิเซลา-แมนเดลา เป็นชาวทรานสไกเช่นเดียวกัน แต่ก็มาพบกันในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก ในขณะที่เธอมาเป็นคนงานผิวดำของเมืองเป็นคนแรก ทั้งสองมีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน คือ เซนานี (เซนี) เกิดเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 และซินด์ซิสวา (ซินด์ซี) แมนเดลา-ฮลองวาเน เกิดในปี พ.ศ. 2503

ซินด์ซีมีอายุเพียง 18 เดือนเท่านั้นเมื่อตอนที่พ่อถูกส่งตัวไปยังเกาะโรบเบิน วินนีเกิดความบาดหมางกับครอบครัวของเธออย่างรุนแรงอันสะท้อนถึงความแตกแยกทางการเมืองภายในประเทศ ขณะที่สามีของเธอยอมติดคุกตลอดชีวิตบนเกาะโรบเบิน พ่อของเธอกลับได้เป็นรัฐมนตรีกสิกรรมแห่งทรานสไก ชีวิตแต่งงานจึงต้องจบลงด้วยการแยกกันอยู่นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2535 และหย่า ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นผลจากความแตกต่างทางการเมือง

แมนเดลายังคงอยู่อย่างห่อเหี่ยวในคุก ขณะที่ลูกสาวของเขา เซนานี แต่งงานกับเจ้าชายทัมบูมูซี ดลามินิ พระเชษฐาของสมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ ในปี พ.ศ. 2516 แม้เธอจะมีความทรงจำอันแจ่มใสในตัวบิดา ตั้งแต่อายุ 4 ขวบจนถึง 16 ปี แต่ผู้ปกครองแอฟริกาใต้ก็ไม่ยอมให้เธอไปเยี่ยมเขา

ครอบครัวดลามินิทั้งสองทำธุรกิจและพำนักในบอสตัน บุตรชายคนหนึ่งของพวกเขาคือ เจ้าชาย เซดซา ดลามินิ (เกิดปี พ.ศ. 2519) ได้รับการศึกษาในสหรัฐอเมริกา และได้เจริญรอยตามรอยเท้าของคุณตาโดยเป็นอาสาสมัครนานาชาติทำงานรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนและงานการกุศลต่าง ๆ

ซินด์ซี แมนเดลา-ฮลองวาเน ได้มีส่วนสำคัญอยู่ในประวัติศาสตร์ของโลก ด้วยขณะอายุ 14 ปี เธอเป็นผู้อ่านคำแถลงการณ์ของแมนเดลาในการปฏิเสธเงื่อนไขปล่อยตัวของเขาในปี พ.ศ. 2528 ปัจจุบันเธอเป็นนักธุรกิจหญิงในแอฟริกาใต้ มีบุตรสามคน คนโตเป็นชาย ชื่อ กาดัฟฟี

การแต่งงานครั้งที่สาม

แมนเดลาแต่งงานใหม่อีกครั้งในวันเกิดปีที่ 80 ของเขา เมื่อ พ.ศ. 2541 กับนางกราชา มาเชล สกุลเดิมก่อนการแต่งงานครั้งแรก ซิมเบนี แม่หม้ายผู้เป็นอดีตภรรยาของ ซาโมรา มาเชล อดีตประธานาธิบดีแห่งโมซัมบิก และพันธมิตรของเอเอ็นซีซึ่งเสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินเมื่อ 12 ปีก่อน

การแต่งงานเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาต่อรองเป็นเวลาหลายเดือนว่าด้วยเงินสินสอดสำหรับเจ้าสาวอันมากมายมหาศาล ซึ่งต้องมอบให้แก่ฝ่ายตระกูลมาเชล การต่อรองดังกล่าว ดำเนินไปในนามของแมนเดลา โดยตัวแทนราชวงศ์ตามประเพณี คือกษัตริย์บูเยเลคายา สเวลิบันซี ดาลินเยโบ พระองค์เป็นหลานของจองกินตาบา ดาลินเยโบ กษัตริย์ผู้จัดงานวิวาห์แบบคลุมถุงชนให้แก่แมนเดลาเมื่อยังหนุ่ม และทำให้เขาต้องหนีไปโยฮันเนสเบิร์กใน พ.ศ. 2483 นั่นเอง

แมนเดลา ยังคงพำนักอยู่ที่บ้านในควูนู ในอาณาจักรของญาติในราชวงศ์คนหนึ่งที่มีศักดิ์เป็นหลาน ซึ่งเขาออกค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนให้ และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้ด้วย

วันที่ในข่าวนี้ 1 มกราคม 1998 วันที่ประมาณการ