Skip to content
Home » News » ตร.สั่งสอบซินแสโชกุน โยงแก๊งนายทุนฮ่องกง

ตร.สั่งสอบซินแสโชกุน โยงแก๊งนายทุนฮ่องกง

ตร.สั่งสอบซินแสโชกุน
https://mgronline.com/crime/detail/9600000039557

ตร.สั่งสอบซินแสโชกุน สตช.จัดประชุมคิดตามความคืบหน้าสำนวนคดี ซินแสโชกุนฐานฉ้อโกงฯ ยันมีผู้เสียหายเข้าร้อทุกข์แล้วกว่า 400 ราย ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 50 ล้านบาท นำตัวฝากขังผลัดแรกพรุ่งนี้ คาดอาจต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม ขยายผลโยงนายทุนชาวฮ่องกงหรือไม่ 

วันนี้ (19 เม.ย.2560) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กวี สุภานันท์ ที่ปรึกษา สบ 10 เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัท เวลท์เอเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และพวก

โดยมี พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจ บก.ปอท. และ บก.ปอศ

พล.ต.อ.กวีกล่าวก่อนประชุมว่า ได้รับมอบหมายมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนของคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องของสำนวนคดีว่าได้มีการสอบสวนอะไรไปแล้วบ้าง ให้มีความรัดกุม ก่อนที่จะมีการดำเนินการขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก ในวันที่ 20 เมษายน ก่อนเที่ยง และทางพนักงานสอบสวนจะขอคัดค้านการประกันตัว เพราะคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายจำนวนมาก หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจจะมีการหลบหนี

พล.ต.อ.กวีกล่าวต่อว่า ส่วนที่จะมีการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายหรือไม่ ส่วนเมื่อวันมี่ 18 เมษายน ที่ตำรวจท่องเที่ยวเข้าตรวจค้นบริษัท อลิเชี่ยน ย่านอโศก บริษัทขายตรงที่ซินแสโชกุนเป็นสมาชิกนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ต่อมาเวลา 11.30 น. ภายหลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.กวีเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายในคดีนี้เข้ามาแจ้งความต่อตำรวจที่กองบังคับการปราบปรามแล้วกว่า 400 คน แต่เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่ไม่ได้แจ้งความอีกกว่าหนึ่งพันคน โดยบ่ายวันนี้ตนจะประชุมคอนเฟอเรนซ์กับกองบัญชาการทั่วประเทศ เพื่อประสานให้อำนวยความสะดวกผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความกับท้องที่แล้ว ก่อนจะรวบรวมเรื่องส่งบันทึกการแจ้งความกลับมาที่ บก.ป.

“ได้กำชับให้กับ บก.ปอศ.ไปติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งขณะนี้ได้ยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอกับทรัพย์ของผู้เสียหายที่ประเมินได้ประมาณ 40-50 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ประสานให้ทาง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มนี้ว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือไม่นั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล” พล.ต.อ.กวีกล่าว

พล.ต.อ.กวีกล่าวด้วยว่า ในส่วนการสอบปากคำ 8 ผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวานนี้ทั้งหมด ก็ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าเป็นเพียงการขายตรงเท่านั้น ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ.ขายตรงนั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่

ตร.สั่งสอบซินแสโชกุน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการซัดทอดไปถึงนายทุนชาวฮ่องกง โดยทางพนักงานสอบสวนได้เรียกแม่ข่ายเข้ามาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นยินดีที่จะนำทรัพย์สินมาคืน ทั้งนี้ การสอบปากคำแม่ทีมให้การที่เป็นประโยชน์ซึ่งได้เล่าถึงพฤติกรรมแม่ข่ายบางกลุ่มว่าได้มีการประกาศเอาโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 ตัวท็อป หรือทองคำ สุ่มแจกให้แก่แม่ทีมที่ทำยอดได้ตามเป้า หากใครที่นำมาคืนให้ผู้เสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการลงบันทึกไว้ตามขั้นตอน

พล.ต.อ.กวีกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติมกลุ่มแม่ข่ายที่ไม่ให้ความร่วมมืออีกหลายราย ในส่วนกรณีนางมณฑญาณ์ แม่ของซินแสโชกุนที่อ้างว่าลูกสาวมีหุ้นส่วนกับบริษัทเช่าเหมาลำเครื่องบินจากฮ่องกง ภายในสัปดาห์นี้จะสอบปากคำตัวแทนบริษัทเช่าเหมาลำที่มีการกล่าวอ้างถึง ทั้ง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี

ด้าน พล.ต.ต.ประเสริฐกล่าวว่า ส่วนการเข้าตรวจค้นบริษัท ออลเลเชี่ยน จำกัด ย่านอโศก พบกระปุกอาหารเสริม ภายในบรรจุ 2 รุ่น รุ่นแรกเป็นกระปุกที่บรรจุเม็ดยาขนาดใหญ่สีน้ำตาล อีกรุ่นเป็นแคปซูลสีขาว ซึ่งได้ประสานให้ สคบ.ดำเนินการตรวจสอบว่าอาหารเสริมดังกล่าวนำเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ามีการนำเข้ามาจากประเทศแคนาดาจริง ทาง สคบ.และ อย.อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบว่าอาหารเสริมดังกล่าวนั้นถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วันที่ 20 เมษายนนี้ เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คนไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เป็นเวลา 12 วัน

“โชกุน” ยังเจ้าเล่ห์ได้อีก อุปโลกนายทุนฮ่องกงรับโทษแทน

ตร.สั่งสอบซินแสโชกุน
https://mgronline.com/crime/detail/9600000039557

“ฐิติราช” ซัด “โชกุน” เจ้าเล่ห์ไม่เลิก อุปโลกนายทุนฮ่องกงหวังรับโทษแทน เผยเหยื่อเข้าแจ้งความแล้ว 500 ราย ตามทรัพย์มาได้แล้ว 10 ล้าน ขู่ใครถือครองทรัพย์ให้รีบนำมาคืน ขณะที่ “โชกุน” ขอทำใจนอนคุกก่อน อ้างไม่พร้อมประกันตัว ยังปากดีพร้อมคืนเงินสมาชิกทุกคน

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ “ซินแสโชกุน” กรรมการบริหาร บริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ จำกัด กับพวกรวม 9 คน ฐานฉ้อโกงประชาชนและกระทำการอันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร จากพฤติกรรมหลอกลวงผู้เสียหายโดยจัดโปรโมชั่นพาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน ลักษณะแชร์ลูกโซ่ธุรกิจอาหารเสริม

พล.ต.ท.ฐิติราช เผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้ยังเชื่อว่ากรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงนายทุนชาวฮ่องกงอยู่เบื้องหลังซินแสโชกุนนั้น เป็นเพียงตัวละครที่ถูกอุปโลกขึ้นมา เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการสืบสวนสอบสวนและโยนความผิดให้พ้นตัว อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวนมีแนวทางการทำคดีนี้และจะตรวจสอบให้รอบคอบรัดกุมที่สุด หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมด

ส่วนงกลุ่มบุคคลที่เป็นทั้งดารานักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งถูกแอบอ้างเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับซินแสโชกุนนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวมาสอบปากคำแล้ว โดยเบื้องต้นจะนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือเพียงตกเป็นเหยื่อของขบวนการเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เชิญผู้แทนจากสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก และสายการบินไทย ที่ถูกซินแสโชกุนกล่าวอ้างว่าได้เช่าเหมาลำเครื่องบินของทั้ง 2 สายการบินดังกล่าว เพื่อพาผู้เสียหายไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาสอบปากคำแล้ว โดยพบว่าไม่มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ตามวัน เวลา ที่มีการระบุไว้

แต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด อีกครั้ง เพราะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลและทราบเรื่องการจราจรทางอากาศ ดีที่สุด แต่เท่าที่ได้รับข้อมูลก็เชื่อมั่น ว่าเป็นการหลอกหลวงอย่างแน่นอน

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายจากทั่วประเทศ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกว่า 500 คน ส่วนทรัพย์สินที่มีการอายัดจากผู้ต้องหานั้นรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แต่คาดว่าน่าจะยังมีทรัพย์สินที่เป็นเงินสดอีกบางส่วน เนื่องจากพบพฤติการณ์ของซินแสโชกุนมักจะใช้จ่ายด้วยเงินสด เช่น ซื้อคอนโดมิเนียม, เช่าเหมาลำเครื่องบิน ฯลฯ

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลทางคดีต่อไป รวมทั้งเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาออกหมายจับบุคคลที่ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนไปยังผู้กระทำการฉ้อโกงในทุกรูปแบบว่า ขอให้หยุดพฤติกรรม หากสำนึกผิด ขอให้รีบนำเอาทรัพย์สินมามอบคืนให้ผู้เสียหาย และไม่ต้องคิดจะหลบหนี ถ้ามีการร้องทุกข์เข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก็จะดำเนินการจับกุมทุกคดี และเอาผิดทุกข้อกล่าวหาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มียกเว้น

นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของซินแสโชกุน เปิดเผยหลังเข้าพบซินโซโชกุนที่ทัณฑสถานหญิงกลางว่า ซินแสโชกุนบอกกับตนว่า ขอทำใจอยู่เรือนจำก่อน และยังไม่ขอยื่นประกันตัว ขณะนี้ขอรวบรวมข้อเท็จจริงและหลักประกันที่จะใช้ยื่นคำร้องขอประกัน ซึ่งจะเป็นเมื่อใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้

พร้อมยืนยันว่า ซินแสโชกุน มีความประสงค์จะคืนเงินให้กับผู้เสียหายที่มีการจ่ายเงินแล้วแต่ยังไม่ได้รับสินค้าอาหารเสริม โดยสินค้ามีการสั่งเข้ามาเพื่อให้กับสมาชิกแล้ว แต่ถูกจับกุมและตำรวจยึดไว้ทั้งหมด ทำให้สมาชิกจำนวนมากไม่ได้รับสินค้า ขณะนี้ขอเวลารวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการ