ทรัมป์ ขู่ตอบโต้หนักหลังอิหร่านจ่อล้างแค้น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 ก.ย.) ว่า อิหร่านจะเผชิญการตอบโต้ที่หนักหน่วงกว่าถึง 1,000 เท่า หลังมีกระแสข่าวว่าเตหะรานเตรียมล้างแค้นให้แก่นายพลกาเซ็ม โซไลมานี อดีตผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ (Quds) ซึ่งถูกสหรัฐฯ ใช้โดรนปลิดชีพที่กรุงแบกแดด
สื่อสหรัฐฯ อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ไม่ประสงค์ออกนาม ซึ่งระบุว่า อิหร่านได้วางแผนลอบสังหารเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำแอฟริกาใต้ ก่อนจะถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. นี้
“จากรายงานของสื่อมวลชน อิหร่านอาจกำลังวางแผนลอบสังหาร หรือการโจมตีลักษณะอื่นๆ ต่อสหรัฐอเมริกา เพื่อแก้แค้นที่หัวหน้าผู้ก่อการร้าย โซไลมานี ถูกฆ่าตาย” ทรัมป์ ทวีตข้อความ
“หากอิหร่านโจมตีสหรัฐฯ ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม พวกเขาจะต้องเผชิญการตอบโต้ที่แรงกว่าถึง 1,000 เท่า!”
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านตกต่ำเรื่อยมานับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติอิสลามเมื่อปี 1979 และความขัดแย้งยิ่งลุกลามบานปลายเมื่อ ทรัมป์ ตัดสินใจนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านในเดือน พ.ค. ปี 2018
โซไลมานี เสียชีวิตหลังถูกโดรนสหรัฐฯ โจมตีขบวนรถยนต์ที่กรุงแบกแดดเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา และวอชิงตันยังพยายามกดดันให้สหประชาชาติขยายมาตรการปิดล้อมด้านอาวุธ (arms embargo) ต่ออิหร่านซึ่งกำลังจะหมดอายุลงในเดือน ต.ค. รวมถึงฟื้นมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจด้วย
สัปดาห์ที่แล้ว กองทัพเรืออิหร่านประกาศว่าได้ขับไล่เครื่องบินอเมริกัน 3 ลำ ซึ่งรุกล้ำเข้าไปในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ระหว่างที่กองทัพอิหร่านกำลังมีการซ้อมรบใกล้ๆ ช่องแคบฮอร์มุซ

ทรัมป์ ขู่ตอบโต้หนักหลังอิหร่านจ่อล้างแค้น ยังบ้าระห่ำไม่หยุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ซ้ำอีกว่าจะโจมตีตอบโต้อิหร่านขนานใหญ่หากอิหร่านล้างแค้นการสังหารผู้บัญชาการกองทัพกุดส์ ย้ำจะถล่มมรดกทางวัฒนธรรมของอิหร่าน ไม่นำพาคำกล่าวหาอาชญากรสงคราม อีกด้านขู่จะคว่ำบาตรอิรัก หากรัฐบาลแบกแดดตะเพิดทหารอเมริกันพ้นอิรัก
คำขู่ของผู้นำสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์มีออกมาในวันเดียวกับที่อิหร่านประกาศเพิกถอนการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่ทำไว้กับ 5 ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บวกเยอรมนี ซึ่งทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวเมื่อปี 2561 โดยอิหร่านจะยุติการจำกัดจำนวนเครื่องหมุนเหวี่ยงแยกมวลสารที่ใช้ในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม
ท่าทีล่าสุดของอิหร่านยิ่งเพิ่มวิกฤติตึงเครียดในภูมิภาคนี้ หลังจากทรัมป์ออกคำสั่งให้ส่งโดรนยิงมิสไซล์สังหารนายพลกาเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองทัพกุดส์ของอิหร่าน ใกล้สนามบินแบกแดดเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ที่ 3 มกราคม พร้อมกับอาบู มะห์ดี อัลมูฮันดิส นายทหารระดับสูงของอิรัก และทหารอิรัก-อิหร่านรวม 10 นาย
ร่างของสุไลมานีและทหารอิหร่านที่เสียชีวิตถูกเคลื่อนย้ายจากเมืองมัชฮัดมาถึงกรุงเตหะรานเมื่อวันจันทร์ ชาวอิหร่านแต่งชุดดำนับล้านคนร่วมพิธีเคลื่อนศพในครั้งนี้ โดยอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เป็นผู้นำสวด
หลังการสังหาร คาเมนีเคยประกาศกร้าวว่าอิหร่านจะล้างแค้นอย่างรุนแรง แต่นักวิเคราะห์กล่าวกันว่าอิหร่านมีทางเลือกจำกัด หากอิหร่านยังต้องการเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบกับสหรัฐ ซึ่งมีแสนยานุภาพเหนือกว่ามาก
เมื่อวันอาทิตย์ อดีตผู้บัญชาการกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านขู่ว่า อิหร่านจะเปลี่ยนเมืองไฮฟาและเทลอาวีฟของอิหร่านให้เป็น “ผงธุลี” หากสหรัฐโจมตีเป้าหมายในอิหร่าน แต่พลจัตวาฮุสเซน เดห์กาน ที่ปรึกษาทางทหารของคาเมนี บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า การตอบโต้ของอิหร่านต้องเป็นการตอบโต้ทางทหารต่อเป้าหมายทางทหารอย่างแน่นอน
ทรัมป์ขู่ไว้เมื่อวันเสาร์ว่า สหรัฐเล็งเป้าหมายโจมตีอิหร่านไว้ 52 เป้าหมาย หากอิหร่านโจมตีทหารสหรัฐและผลประโยชน์ของสหรัฐ วันถัดมาระหว่างนั่งแอร์ฟอร์ซวันจากฟลอริดากลับกรุงวอชิงตัน ทรัมป์บอกกับนักข่าวซ้ำอีกว่า สหรัฐจะโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายในอิหร่าน รวมถึงแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ที่นักวิจารณ์กล่าวกันว่ากฎหมายระหว่างประเทศถือเป็นอาชญากรรมสงคราม
เขายังพานไปถึงอิรักด้วย เมื่อสภาผู้แทนราษฎรอิรักประชุมวันอาทิตย์และลงมติร้องขอให้รัฐบาลยุติข้อตกลงที่ทำไว้กับกองกำลังผสมระหว่างประเทศที่สหรัฐเป็นผู้นำ เพื่อคงกำลังทางทหารสำหรับการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามในภูมิภาคนี้ โดยอาเดล อับเดล มะห์ดี รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวถึงการยิงโดรนโจมตีของสหรัฐว่าเป็น “การลอบสังหารทางการเมือง” เคยแสดงท่าทีว่าเขาเห็นด้วยกับการขอให้สหรัฐถอนทหาร โดยมีทางเลือกระหว่างให้ออกไปทันทีหรือกำหนดกรอบเวลา
ทรัมป์บอกกับนักข่าวว่า หากสหรัฐถูกบังคับให้ถอนทหาร สหรัฐก็จะคว่ำบาตรอิหร่านอย่างหนักหน่วงที่สุดที่จะส่งผลร้ายแรงแบบเดียวกับที่เกิดต่อเศรษฐกิจของอิหร่าน ฐานทัพหลักของสหรัฐในอิรักนั้นแพงมโหฬาร และสหรัฐจะไม่ถอนกำลังหากอิรักไม่จ่ายเงินคืน

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ชื่อ “Donald J. Trump” เตือนรัฐบาลอิหร่าน ว่า สหรัฐอเมริกากำลังเล็งเป้าโจมตีพื้นที่ 52 จุด ที่เป็นผลประโยชน์ของอิหร่าน และการโจมตีจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง หากรัฐบาลเตหะรานโจมตีพลเมืองอเมริกัน หรือผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน เพื่อล้างแค้นให้กับการเสียชีวิตของพลตรีคาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน ระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ม.ค.63)
สำหรับปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐอเมริกา เป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ “สงครามเงา” ในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา และชาติพันธมิตร โดยเฉพาะอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย มีแนวโน้มที่จะลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับเตหะรานตึงเครียด นับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลาม เมื่อปี พ.ศ.2521 – 2522 และทวีองศาขึ้นอีกหลังจากสหรัฐถอนตัวฝ่ายเดียว ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจโลก รวมถึงสหรัฐในเดือน พ.ค. 2561
รุ่งสางวันที่ 3 ม.ค.ต้นปีนี้ สหรัฐใช้โดรนยิงจรวดสังหาร พล.ต.สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกัดส์ กองทัพอิหร่าน และคณะ ขณะเดินทางออกจากสนามบินกรุงแบกแดด เมืองหลวงอิรัก และสหรัฐพยายามผลักดันให้ขยายเวลามาตรการปิดล้อมอาวุธอิหร่าน ที่จะหมดอายุลงในเดือน ต.ค.ที่จะถึง