Skip to content
Home » News » ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอน ถึง 2 ครั้ง

ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอน ถึง 2 ครั้ง

ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอน
https://www.bbc.com/thai/international-50402952

ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอน ถึง 2 ครั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากตำแหน่งในข้อหายั่วยุให้ผู้ประท้วงบุกรัฐสภาสหรัฐฯ ทำให้นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ถูกยื่นถอดถอนถึง 2 ครั้ง

ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอน ถึง 2 ครั้ง พรรคเดโมแครตเริ่มกระบวนการถอดถอนนายทรัมป์ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2021 โดยมีสมาชิกของพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์เข้าร่วมจำนวน 10 คน พวกเขากล่าวหาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้ยั่วยุให้เกิดการจลาจลโดยการปลุกปั่นให้ผู้สนับสนุนของเขาบุกอาคารรัฐสภาระหว่างที่สมาชิกรัฐสภากำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน

ลิซ เชนีย์ หนึ่งใน ส.ส. พรรครีพับลิกันที่ประกาศร่วมยื่นถอดถอนประธานาธิบดีระบุว่านายทรัมป์ “ปลุกเร้าม็อบ ระดมม็อบ และจุดชนวนของการโจมตีนี้ขึ้น” 

“ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนไหนที่ทรยศต่อการทำหน้าที่และคำปฏิญาณต่อรัฐธรรมนูญมาก่อน” ส.ส. รัฐไวโอมิง ซึ่งเป็นบุตรสาวของอดีตรองประธานาธิบดีดิ๊ก เชนีย์ กล่าว 

เหตุจลาจลเมื่อ 6 ม.ค. เกิดขึ้นหลังจากที่นายทรัมป์บอกกับผู้สนับสนุนในการประท้วงที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ว่า “สู้เต็มที่” ต่อต้านผลการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธความรับผิดชอบทุกอย่างต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น 

หลังการอภิปรายผ่านไปหลายชั่วโมง ในที่สุดสภาผู้แทนฯ ก็มีมติ 232-197 ถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ 

“เราถูกขอให้หลับตาข้างเดียวต่ออาชญากรรม การทุจริต และการไม่เคารพกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งของประธานาธิบดีทรราชของเราในทำเนียบขาว” อิลฮาน โอมาร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคเดโมแครต กล่าวในการอภิปรายในสภาผู้แทนฯ 

หลังจากสภาผู้แทนฯ ลงมติถอดถอนเสร็จสิ้น ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยประณามเหตุรุนแรงที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. แต่ไม่ได้กล่าวถึงมติถอดถอนเขาเลย

ขั้นตอนหลังจากนี้

เมื่อสภาผู้แทนฯ ลงมติยื่นถอดถอน เรื่องจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อตัดสินว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความผิดหรือไม่ 

กฎหมายระบุว่า ต้องมีเสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 ของวุฒิสภาตัดสินว่านายทรัมป์มีความผิด นั่นหมายความว่า ต้องมีวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันอย่างน้อย 17 คน ลงมติเอาผิดนายทรัมป์ 

นิวยอร์กไทมส์รายงานว่าขณะนี้มีวุฒิสมาชิกรีพับลิกันมากถึง 20 คน ที่มีโอกาสจะลงมติเอาผิดนายทรัมป์ 

ลำดับเวลาของการไต่สวนยังไม่ชัดเจน แต่ไม่น่าจะแล้วเสร็จทันก่อนที่นายทรัมป์จะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ซึ่งนายโจ ไบเดน จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 

วุฒิสภาอาจใช้การไต่สวนกระบวนการถอดถอนในการปิดกั้นไม่ให้นายทรัมป์ลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้งได้ โดยเขาได้ระบุว่า มีแผนที่จะสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 

เมื่อ ธ.ค. 2019 เขากลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 3 ที่ถูกยื่นถอดถอน จากข้อหาละเมิดกฎหมายด้วยการขอให้ยูเครนตรวจสอบนายไบเดน เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสที่ตัวเขาจะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่ออีกสมัย แต่ว่าวุฒิสภาเห็นว่าเขาไม่ผิดในเรื่องนี้

ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอน ถึง 2 ครั้ง กระบวนการถอดถอน : หลักการพื้นฐาน

  • กระบวนการถอดถอนคืออะไรกระบวนการถอดถอนคือการที่ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ถูกตั้งข้อหาอาญา ในกรณีนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกกล่าวหาว่า ยั่วยุให้เกิดการจลาจลด้วยการส่งเสริมให้ผู้สนับสนุนของเขาบุกรัฐสภา
  • นายทรัมป์จะถูกปลดจากตำแหน่งหรือไม่ เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรเพียงพอในการเริ่มกระบวนการถอดถอนเขา แต่ในการจะปลดเขาออกจากตำแหน่งได้ วุฒิสภาจะต้องเห็นว่า เขามีความผิดตามข้อกล่าวหาเหล่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีเสียงข้างมาก 2 ใน 3 แต่ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเกิดขึ้น
  • แล้วกระบวนการถอดนี้มีความหมายอย่างไร นี่คือครั้งที่สองที่นายทรัมป์จะถูกยื่นถอดถอน และแม้ว่าการไต่สวนอาจเริ่มขึ้นหลังจากที่เขาสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งไปแล้ว แต่หากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิด นั่นหมายความว่า เขาอาจถูกห้ามรับตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐอีก

นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า นายมิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำฝ่ายรีพับลิกันในวุฒิสภากล่าวกับคนสนิทว่า เขารู้สึกพอใจที่ฝ่ายเดโมแครตต้องการจะยื่นถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเขาเชื่อว่า นี่จะเป็นการช่วยกำจัดนายทรัมป์ให้พ้นไปจากพรรครีพับลิกัน

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. สภาผู้แทนฯ ได้ผ่านมติที่เรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ ช่วยปลดนายทรัมป์ออกจากตำแหน่งโดยใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 แต่นายเพนซ์ปฏิเสธที่จะทำตามแผนการนี้

ทรัมป์เริ่มสูญเสียอำนาจ

ขณะนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์เหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งอีกเพียง 1 สัปดาห์ 

การยื่นถอดถอนครั้งนี้ต่างจากกระบวนการครั้งแรกเนื่องจากการลงมติครั้งนี้มีสมาชิกจากพรรครีพับลิกันสนับสนุนด้วยจำนวนหนึ่ง รวมถึง ลิซ เชนีย์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มแกนนำ ส.ส. ของพรรค นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะได้รับเสียงสนับสนุนที่เพียงพอจากวุฒิสภาในการเอาผิดประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่างไปจากการลงมติเมื่อเดือน ม.ค. 2020 เห็นได้จากการส่งสัญญาณที่จะรับรองของนายมิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา 

แน่นอนว่า ผลที่ตามมาลำดับแรกของการที่วุฒิสภาลงมติเห็นว่านายทรัมป์มีความผิดจริง คือ การปลดเขาออกจากตำแหน่ง ดูเหมือนจะไม่ได้มีผลอะไรเนื่องจากขณะนี้เวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายทรัมห์เหลือน้อยเต็มที แต่ฝ่ายเดโมแครตเห็นว่ากระบวนการยื่นถอดถอนนี้ เป็นวิธีแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเป็นทางการต่อพฤติกรรมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว แต่รวมถึงช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ที่เขาท้าทายและทำลายผลการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. ด้วย 

ทรัมป์ ถูกยื่นถอดถอน
https://www.voathai.com/a/trump-acquittal-impeachment-senate-vote-capitol-riot-insurrection/5778001.html

การตัดสินว่ามีความผิด อาจจะส่งผลให้นายทรัมป์ถูกห้ามรับตำแหน่งทางการในหน่วยงานของรัฐบาลกลางอีกต่อไป และถูกตัดสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่จะได้รับในฐานะอดีตประธานาธิบดีด้วย 

โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเพียงลำพัง ก็ทำให้ฝ่ายเดโมแครต (และอาจจะมีสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนที่พร้อมจะละเมิดระบอบทรัมป์) เห็นว่าความพยายามยื่นกระบวนการถอดถอนนี้มีความคุ้มค่า

ประเด็นที่ถูกยื่นถอดถอน
ข้อหาในการถูกถอดถอนครั้งนี้เป็นข้อหาทางการเมือง ยังไม่ใช่ความผิดอาญา โดยทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าใช้เวทีปราศรัยนอกทำเนียบขาวปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกไปยังอาคารรัฐสภาในระหว่างที่ ส.ส. และ ส.ว. กำลังประชุมเพื่อลงมติในวันที่ 6 มกราคม เพื่อขัดขวางกระบวนการรับรองผลการเลือกตั้งที่ โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ โดยเหตุจลาจลครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตำรวจรัฐสภา

ในญัตติถอดถอนระบุว่า ทรัมป์กล่าวเท็จซ้ำแล้วซ้ำอีกเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งที่เขาอ้างว่าถูกโกง นอกจากนี้เขายังกล่าวอ้างเช่นนั้นในระหว่างการปราศรัยและใช้ถ้อยคำปลุกเร้าและยุยงจนนำไปสู่การทำผิดกฎหมายที่อาคารรัฐสภา และนำไปสู่ความรุนแรงและการสูญเสียชีวิต

“ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาและสถาบันรัฐบาล คุกคามความสมบูรณ์ของระบบประชาธิปไตย และขัดขวางกระบวนการเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างสันติ” สภาผู้แทนฯ ระบุในญัตติ

ใครโหวตถอดถอนบ้าง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ลงมติเห็นชอบให้ถอดถอนทรัมป์ด้วยคะแนนเสียง 232-197 คะแนน

นอกจากเดโมแครตแล้ว มี ส.ส. รีพับลิกัน 10 คนที่ร่วมโหวตถอดถอนทรัมป์ในครั้งนี้ด้วย ประกอบด้วย อดัม คินซิงเกอร์ (อิลลินอยส์), ลิซ เชนีย์ (ไวโอมิง), จอห์น แคตโค (นิวยอร์ก), เฟรด อัปตัน (มิชิแกน), ปีเตอร์ ไมเจอร์ (มิชิแกน),​ เจมี เฮอร์เรนา บิวต์เลอร์ (วอชิงตัน), แดน นิวเฮาส์ (วอชิงตัน), แอนโธนี กอนซาเลซ (โอไฮโอ), ทอม ไรซ์ (เซาท์แคโรไลนา) และ เดวิด วาลาเดา (แคลิฟอร์เนีย)

การถอดถอนครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับ 25th Amendment
มีความพยายามในการเรียกร้องให้ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมครั้งที่ 25 (25th Amendment) ในการปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่ง แต่เพนซ์ไม่ทำเช่นนั้น โดยบทบัญญัติดังกล่าวเปิดทางรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคณะรัฐมนตรีเกินครึ่งหนึ่งเขียนหนังสือแจ้งต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา (รักษาการ) ว่าประธานาธิบดีได้กลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้รองประธานาธิบดีขึ้นรักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราวได้ ในระหว่างรอสมาชิกสภาคองเกรสลงมติ

แต่เมื่อเพนซ์ไม่ใช้ 25th Amendment สภาผู้แทนราษฎรนำโดย แนนซี เพโลซี ส.ส. เดโมแครตและประธานสภาล่างจึงผลักดันให้มีการถอดถอนในกระบวนการตามปกติต่อไป

การถอดถอนจะสำเร็จหรือไม่
แม้ว่าสมาชิกเดโมแครตในสภาคองเกรสจะผลักดันเรื่องนี้อย่างหนัก แต่กระบวนการถอดถอนยังต้องใช้เวลาในการพิจารณาไต่สวนเพื่อพิสูจน์ความผิดทรัมป์ในวุฒิสภา ซึ่งน่าจะทำให้ทรัมป์ยังได้อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ ก่อนที่ โจ ไบเดน จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคม โดยจากนี้ไปเหลือเวลาอีกเพียง 7 วัน หรือ 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งวุฒิสภาไม่น่าจะกลับมาประชุมได้ทันเวลา

สำหรับการถอดถอนทรัมป์ในสภาสูงนั้นต้องใช้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ของสภาในการโหวตตัดสินความผิดของทรัมป์ ซึ่งหมายความว่าจะต้องมี ส.ว. รีพับลิกันอย่างน้อย 17 คนที่โหวตเห็นชอบด้วย ในกรณีที่ ส.ว. เดโมแครตโหวตเป็นเสียงเดียวกัน

ท่าทีของ มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของรีพับลิกันในวุฒิสภา ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญสำหรับกระบวนการถอดถอนทรัมป์ ซึ่งที่ผ่านมาเขายังไม่แสดงจุดยืนที่ชัดเจนหรือตัดสินใจต่อเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม The New York Times รายงานว่า มี ส.ว. รีพับลิกัน มากถึง 20 คนที่ยังเปิดกว้างกับการโหวตชี้ความผิดของทรัมป์ในวุฒิสภา ซึ่งรวมถึงแม็กคอนเนลล์ที่เปรยว่าอาจพิจารณาโหวตถอดถอนทรัมป์ด้วย แต่เขายืนยันชัดเจนว่ากระบวนการไต่สวนในวุฒิสภาจะไม่เริ่มจนกว่าไบเดนจะเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนแล้ว

มีประธานาธิบดีคนไหนบ้างที่เคยถูกยื่นถอดถอน
ในอดีตมีประธานาธิบดีบิล คลินตัน และแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่เคยถูกยื่นถอดถอนโดยสภาผู้แทนราษฏรในปี 1998 และ 1868 ตามลำดับ แต่ทั้งคู่รอดพ้นจากการถูกโหวตในวุฒิสภา เช่นเดียวกับทรัมป์ที่รอดจากการถูกถอดถอนรอบแรกในปี 2019 สืบเนื่องจากข้อหาที่เขากดดันให้ผู้นำยูเครนสอบสวนการทำธุรกิจของลูกชายไบเดนในยูเครน ซึ่งทรัมป์ถูกมองว่าใช้อำนาจในทางมิชอบและพยายามแทรกแซงการเลือกตั้ง

นัยสำคัญของการโหวตตัดสินความผิดในวุฒิสภา
แม้ว่าการถอดถอนอาจไม่เกิดขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะหมดวาระ แต่กระบวนการไต่สวนจะดำเนินต่อไป แม้ว่าทรัมป์จะก้าวลงจากตำแหน่งไปแล้ว ซึ่งหากวุฒิสภาลงมติว่าทรัมป์มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา เขาอาจถูกห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในขณะที่ทรัมป์มีแผนจะลงสมัครต่ออีกในปี 2024