Skip to content
Home » News » ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ชื่อเล่น: เอก, เกิด 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521) เป็นนักธุรกิจ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักการเมืองชาวไทย เขาดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทตั้งแต่ปี 2545

เขาตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2561เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนแรก พรรคการเมืองของเขามีแนวนโยบายก้าวหน้าซึ่งได้รับความนิยมสูงในหมู่เยาวชน หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ในปี 2563 เขาตั้งคณะก้าวหน้าเพื่อสานต่อแนวคิดของพรรค

เอกธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจจบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์ดอมินิก และ จบระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หลังจากนั้นเขาได้เข้าศึกษาต่อใน ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (หลักสูตรนานาชาติ) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ

และต้องบอกเลยว่าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่อยู่ในวัยเรียนเลยจริงๆ เพราะเขาร่วมทำกิจกรรมต่างสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย จนถูกรับเลือกให้เป็น อุปนายก องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2542 และนอกจากนั้น เขายังได้รับเลือกเป็น รองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2543 อีกด้วย

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
https://www.sanook.com/campus/1394225

หลังจากนั้น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทใบที่ 2 สาขาการเงินระหว่างประเทศ ที่โรงเรียนธุรกิจสเติร์น มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนใบที่ 3 นั้น เขาศึกษาที่ สาขากฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยซังคท์กัลเลิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

หลังเรียนจบเขาเกือบเดินทางไปเริ่มทำงานด้านการพัฒนาเยาวชนของสหประชาชาติที่ประเทศแอลจีเรียอยู่แล้วแต่บิดาเสียชีวิต ทำให้เขาเข้ารับตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิททันทีด้วยอายุ 23 ปีในขณะนั้น

ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าไปบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทได้เติบโตขึ้นอย่างมาก จากรายได้ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นรายได้ 80,000 ล้านบาท เขาทำให้ธุรกิจครอบครัวกลายเป็นกลุ่มบริษัทระดับโลกที่มีโรงงานผลิตใน 7 ประเทศยักษ์ใหญ่ทั่วโลก รวมจำนวนพนักงานมากถึงราว 16,000 คน

ข้อตกลงทางธุรกิจที่สำคัญ เช่นกรณีที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2548 เมื่อเขาได้ดีลเป็นผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ให้บริษัทเทสลา (Tesla) บริษัทสัญชาติอเมริกัน จำนวน 500,000 คันต่อปี คิดเป็นกำไร 5,980 ล้านบาท จากข้อตกลงนี้ กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทขยายฐานการผลิตกว้างไกลออกไปอีก ด้วยการเปิดโรงงานในสหรัฐ และในปี 2552 ไทยซัมมิทโดยการนำของนายธนาธรก็ได้ตัดสินใจซื้อ โอกิฮาระ (Ogihara) บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นผู้ผลิตแบบพิมพ์ชิ้นส่วนยานยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก

เขายังได้รับตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครนายก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550–2554และเขายังเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2550–2553 ธนาธรยังมีรายชื่ออยู่ในบอร์ดพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรม ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติอีกด้วย

ธนาธรแต่งงานกับรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ มีบุตรธิดารวมด้วยกัน 4 คน เขามักเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วยตนเอง เพราะต้องการให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์ เกิดความสงสัยและตั้งคำถามเป็น

นอกจากนี้ เขายังชื่นชอบการเล่นกีฬาและกิจกรรมผาดโผนต่าง ๆ อาทิ ปีนเขา พายเรือคายัค วิ่งระยะไกล ขี่จักรยานทางไกล ปีนผา ไตรกีฬา เขาเคยเข้าแข่งรายการต่าง ๆ ได้แก่ การวิ่ง 250 กิโลเมตรในทะเลทรายซาฮาร่า รายการ 6633 Arctic Ultra มาราธอน 560 กิโลเมตร ในปีพ.ศ. 2558

“รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” หรือ “วิ” สตรีผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางคล่องแคล่วว่องไวที่ปรากฏตัวตามสื่อแขนงต่างๆ ในช่วงหลายวันมานี้ เธอคือใคร เธอมาจากไหน เธอมีความสามารถอะไร และทำไมเธอถึงได้กุมหัวใจผู้ชายชื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ พาไปย้อนดูเส้นทางชีวิตของเธอที่น้อยคนนักจะได้รู้

รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ คือ สะใภ้คนโตของ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

https://voicetv.co.th/read/ccmf3vih_

เธอแต่งงานกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ลูกชายคนโตของสมพร กับพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ) มีบุตรธิดารวมกัน 4 คน ซึ่งคนโตอายุ 10 ขวบ คนที่สอง 8 ขวบ คนที่สาม 4 ขวบ และคนที่สี่ 11 เดือน

เมื่อย้อนไปดูประวัติการศึกษาของ รวิพรรณ พบว่า เธอจบปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์-การเงิน ซึ่งที่ผ่านมา คนในแวดวงธุรกิจการเงินรู้จักเธอในฐานะผู้หญิงทำงาน ที่มีประสบการณ์ด้านการเงินเป็นอย่างดี เพราะผ่านการบริหารด้านการเงินจากประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 6 ปี ในฐานะรองผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ สำนักงานใหญ่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเธอยังเป็นรองผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัท Lehman Brothers ประเทศญี่ปุ่นด้วย

จากนั้น เธอกลับมาเมืองไทย โดยมาทำงานอยู่ในสายการธนาคารต่อที่ธนาคารทหารไทย ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายคอร์ปอเรท แบงกิ้ง จนกระทั่งลูกเริ่มโต เธอจึงออกมาช่วยงานธุรกิจของครอบครัวสามี ตามประสาเวิร์กกิ้งวูแมน จึงอยู่เฉยไม่ได้

จากประสบการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เธอได้รับความไว้วางใจจากประธานบริษัท โซลิต มีเดีย (ประเทศไทย)ฯ ให้เข้ามาบริหารจัดการบริษัท โซลิตฯ (ต่อมาเข้าสู่ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด) เพื่อก้าวไปสู่ธุรกิจมีเดียแบบครบวงจร ชื่อบริษัทอาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าพูดว่า นิตยสาร WHO? หลายคนคงเคยได้ยิน ซึ่งต่อมากลายเป็น “คดีธนาธรถือหุ้นสื่อ”