นักฆ่าแกรี่ริดจ์เวย์

นักฆ่าแกรี่ริดจ์เวย์ แกรี่ริดจ์เวย์ หรือที่รู้จักกันในนาม นักฆ่ากรีนริเวอร์ มีความสนุกสนานในการฆ่า เป็นเวลา 20 ปี ทำให้เขาเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในที่สุดเขาก็ถูกจับและถูกตัดสินโดยอาศัยหลักฐานดีเอ็นเอเป็นส่วนใหญ่

แกรี่ลีออน Ridgway (เกิด 18 กุมภาพันธ์ 1949) ยังเป็นที่รู้จักในฐานะนักฆ่ากรีนริเวอร์ เป็นอเมริกันฆาตกรต่อเนื่อง เขาถูกตัดสินลงโทษในขั้นต้น 48 แยกต่างหากฆาตกรรม ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการต่อรองข้ออ้างของเขามีการเพิ่มความเชื่อมั่นอีกครั้งทำให้จำนวนความเชื่อมั่นเป็น 49

ทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีผลงานมากที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาตามการยืนยันการฆาตกรรมที่ได้รับการยืนยัน เขาสังหารเด็กสาววัยรุ่นจำนวนมากในรัฐวอชิงตันในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990

นักฆ่าแกรี่ริดจ์เวย์ ส่วนใหญ่ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ Ridgway ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนงานเพศและผู้หญิงคนอื่น ๆ ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงรวมทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจรจัด สื่อมวลชนตั้งชื่อเล่นให้เขาหลังจากพบเหยื่อห้ารายแรกในกรีนริเวอร์ก่อนที่เขาจะรู้จักตัวตน เขาบีบคอเหยื่อของเขาโดยปกติจะใช้มือ

แต่บางครั้งก็ใช้เชือกผูกคอ หลังจากที่พวกเขาบีบคอเขาจะถ่ายโอนร่างกายของพวกเขาในพื้นที่ป่าและรกในคิงเคาน์ตี้มักจะกลับไปที่หน่วยงานที่จะมีเพศสัมพันธ์กับพวกเขา

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2544 ขณะที่ริดจ์เวย์กำลังออกจากโรงงานผลิตรถบรรทุกเคนเวิร์ ธซึ่งเขาทำงานอยู่ในเรนตันวอชิงตันเขาถูกจับในข้อหาฆาตกรรมผู้หญิงสี่คนซึ่งมีคดีเชื่อมโยงกับเขาผ่านหลักฐานการทำโปรไฟล์ดีเอ็นเอ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการต่อรองนั้นเขาตกลงที่จะเปิดเผยสถานที่ของผู้หญิงยังคงหายไปเขาได้รับการงดเว้นโทษประหารชีวิตและได้รับประโยคของจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่รอลงอาญา

ชีวิตในวัยเด็ก

แกรี่ลีออน Ridgway เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1949 ในSalt Lake City , ยูทาห์ , ที่สองของลูกชายทั้งสามแมรี่และโทมัส Ridgway ของ ชีวิตในบ้านของเขาค่อนข้างมีปัญหา; ญาติ ๆ เล่าว่าแม่ของเขามีอำนาจเหนือกว่าและบอกว่าตอนเด็กเขาได้เห็นการโต้เถียงอย่างรุนแรงระหว่างพ่อแม่ของเขามากกว่าหนึ่งครั้ง พ่อของเขาเป็นคนขับรถที่มักจะบ่นเกี่ยวกับการปรากฏตัวของคนงานเพศ

ริดจ์เวย์มีปัญหาฉี่รดที่นอนจนกระทั่งเขาอายุ 13 และแม่ของเขาจะล้างอวัยวะเพศของเขาทุกครั้ง ในภายหลังเขาจะบอกกับนักจิตวิทยาการป้องกันตัว ว่าในตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นเขามีความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในเรื่องความโกรธและแรงดึงดูดทางเพศที่มีต่อแม่ของเขาและเพ้อฝันว่าจะฆ่าเธอ

ริดจ์เวย์เป็นโรคดิสเล็กซิคและเคยเรียนมัธยมปลายปีหนึ่ง เมื่อเขาอายุ 16 เขาแทงเด็กอายุหกขวบที่รอดชีวิตจากการโจมตี Ridgway ได้นำเด็กเข้าไปในป่าแล้วแทงเขาผ่านซี่โครงของเขาเข้าไปในตับ

ไอคิวของริดจ์เวย์ถูกบันทึกว่าอยู่ใน “แปดต่ำ”

ชีวิตผู้ใหญ่

Ridgway จบการศึกษาจากTyee High Schoolในปี 1969 และแต่งงานกับแฟนสาววัย 19 ปีของเขา Claudia Kraig เขาเข้าร่วมกองทัพเรือสหรัฐฯ และถูกส่งไปเวียดนามซึ่งเขาทำหน้าที่บนเรือเสบียง และเห็นการต่อสู้ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในกองทัพริดจ์เวย์มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งกับผู้ให้บริการทางเพศและโรคหนองในที่ติดเชื้อ; แม้จะโกรธนี้เขายังคงกิจกรรมนี้โดยไม่มีการป้องกัน การแต่งงานสิ้นสุดลงภายในหนึ่งปี

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับริดจ์เวย์หลังจากถูกจับกุมเพื่อน ๆ และครอบครัวก็อธิบายว่าเขาเป็นมิตร แต่แปลก การแต่งงานสองครั้งแรกของเขาส่งผลให้เกิดการหย่าร้างเนื่องจากการนอกใจของทั้งคู่ ภรรยาคนที่สองของเขามาร์เซียพระพุทธเจ้าอ้างว่าเขาได้วางเธอลงในchokehold เขากลายเป็นคนเคร่งศาสนาในระหว่างการแต่งงานครั้งที่สองเปลี่ยนศาสนาตามบ้านอ่านออกเสียงพระคัมภีร์ทั้งที่ทำงานและที่บ้านและยืนยันว่าภรรยาของเขา

ปฏิบัติตามคำสอนที่เคร่งครัดของศิษยาภิบาลของพวกเขา ริดจ์เวย์มักจะร้องไห้หลังการเทศน์หรืออ่านพระคัมภีร์ แม้จะมีความเชื่อ แต่ริดจ์เวย์ยังคงเรียกร้องให้บริการของผู้ให้บริการทางเพศและต้องการให้ภรรยาของเขามีส่วนร่วมในการมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะและสถานที่ที่ไม่เหมาะสมบางครั้งแม้แต่ในบริเวณที่มีการค้นพบศพของเหยื่อในภายหลัง

ตามที่ผู้หญิงในชีวิตของเขา Ridgway มีความกระหายทางเพศที่ไม่รู้จักพอ อดีตภรรยาสามคนและแฟนเก่าหลายคนรายงานว่าเขาเรียกร้องให้มีเซ็กส์จากพวกเขาวันละหลายครั้ง บ่อยครั้งเขาต้องการมีเซ็กส์ในพื้นที่สาธารณะหรือในป่า ริดจ์เวย์ยอมรับว่าตัวเองมีความสัมพันธ์กับคนขายบริการทางเพศ

ซึ่งเขามีความสัมพันธ์แบบรัก / เกลียด เขามักบ่นเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพวกเขาในละแวกบ้านของเขา แต่เขาก็ใช้ประโยชน์จากบริการของพวกเขาเป็นประจำ บางคนคาดเดาว่าริดจ์เวย์ถูกฉีกขาดระหว่างตัณหาและความเชื่อทางศาสนาที่แข็งกระด้างของเขา

กับมาร์เซียภรรยาคนที่สองของเขาริดจ์เวย์มีลูกชายคนหนึ่งชื่อแมทธิว (พ.ศ. 2518)

ภรรยาคนแรก

ในปีพ. ศ. 2512 เมื่อริดจ์เวย์อายุ 20 ปีและเพิ่งออกจากโรงเรียนมัธยมเขาเข้าร่วมกองทัพเรือแทนที่จะถูกเกณฑ์ทหาร เขาแต่งงานกับแฟนสาวคนแรกของเขา Claudia Barrows ก่อนที่จะไปเวียดนาม

ริดจ์เวย์มีแรงขับทางเพศที่ไม่รู้จักพอและใช้เวลาส่วนใหญ่กับโสเภณีในช่วงที่เขารับราชการทหาร เขาหดตัวเป็นหนองในและถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาโกรธ แต่เขาก็ไม่ได้หยุดมีเพศสัมพันธ์กับโสเภณีโดยไม่มีการป้องกัน คลอเดียเริ่มออกเดทในขณะที่ริดจ์เวย์อยู่ในเวียดนามและในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีการแต่งงานก็สิ้นสุดลง

ภรรยาคนที่สอง

ในปี 1973 Marcia Winslow และ Ridgway แต่งงานและมีลูกชายคนหนึ่ง ในระหว่างการแต่งงานริดจ์เวย์กลายเป็นคนคลั่งศาสนาโดยเปลี่ยนศาสนาตามบ้านอ่านออกเสียงพระคัมภีร์ทั้งที่ทำงานและที่บ้านและยืนยันว่ามาร์เซียปฏิบัติตามคำสั่งสอนที่เคร่งครัดของศิษยาภิบาลในคริสตจักร ริดจ์เวย์ยังยืนยันด้วยว่ามาร์เซียมีเซ็กส์นอกบ้านและในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมและเรียกร้องให้มีเซ็กส์หลายครั้งต่อวัน เขายังคงจ้างโสเภณีตลอดชีวิตสมรส

มาร์เซียซึ่งมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวมากเกือบตลอดชีวิตตัดสินใจผ่าตัดลดขนาดกระเพาะในช่วงปลายทศวรรษ 1970 เธอลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วและเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผู้ชายพบว่าเธอมีเสน่ห์ทำให้ริดจ์เวย์อิจฉาและไม่มั่นใจ ทั้งคู่เริ่มการต่อสู้

มาร์เซียพยายามอย่างหนักที่จะยอมรับความสัมพันธ์ของริดจ์เวย์กับแม่ของเขาซึ่งควบคุมการใช้จ่ายและตัดสินใจในการซื้อของพวกเขารวมถึงการซื้อเสื้อผ้าของริดจ์เวย์ เธอยังกล่าวหาว่ามาร์เซียไม่ดูแลลูกชายของพวกเขาอย่างเหมาะสมซึ่งมาร์เซียไม่พอใจ เนื่องจากริดจ์เวย์ไม่ปกป้องเธอมาร์เซียจึงถูกทิ้งให้แข่งขันกับแม่สามีของเธอเอง

เจ็ดปีในการแต่งงานทั้งคู่หย่าร้างกัน ต่อมามาร์เซียอ้างว่าริดจ์เวย์วางเธอไว้ในที่กักขังระหว่างการต่อสู้ครั้งหนึ่งของพวกเขา

ภรรยาคนที่สาม

ริดจ์เวย์ได้พบกับจูดิ ธ มอว์สันภรรยาคนที่สามของเขาในปี 2528 ที่ Parents Without Partners จูดิ ธ พบว่าริดจ์เวย์เป็นคนอ่อนโยนมีความรับผิดชอบและมีแบบแผน เธอชื่นชมที่เขาทำงานเป็นช่างทาสีรถบรรทุกมา 15 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ด้วยกัน Ridgway ได้ปรับปรุงบ้าน

ต่างจากมาร์เซียจูดิ ธ ยกย่องแม่สามีของเธอที่ช่วยริดจ์เวย์จัดการงานที่ท้าทายสำหรับเขาเช่นการตรวจสอบบัญชีและการซื้อสินค้าที่สำคัญ ในที่สุดจูดิ ธ ก็เข้ามารับหน้าที่รับผิดชอบเหล่านั้น

“ ฉันฆ่าผู้หญิงจำนวนมากฉันมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการรักษาพวกเธอให้ตรง” เขากล่าวในการพิจารณาคดีในปี 2546 ตาม ลอสแองเจลิสไทม์ส .

เขาเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในการสังหารย้อนหลังไปถึงปี 2526 แต่ต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปีก่อนที่เทคโนโลยีดีเอ็นเอจะสามารถระบุอาชญากรรมกับเขาได้

Gary Leon Ridgway เกิดที่เมือง Salt Lake City รัฐ Utah ในปี 1949 เมื่อเขาอายุ 11 ขวบครอบครัวของเขาย้ายไปอยู่ที่ King County รัฐ Washington ซึ่งรวมถึง Seattle และชุมชนบริวารด้วย เมื่อเขาอายุ 15 ริดจ์เวย์แทงเด็กชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตาม ซีแอตเทิลไทม์ส . เขาบอกกับนักจิตวิทยาว่าเขามักเพ้อฝันเกี่ยวกับการแทงผู้คนรวมถึงแม่ของเขาด้วยซึ่งเขาบอกว่าเขามีเสน่ห์ทางเพศรายงาน วอชิงตันโพสต์ .