Skip to content
Home » News » นาธานฉ้อโกงเงิน

นาธานฉ้อโกงเงิน

นาธานฉ้อโกงเงิน
https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_2254157

นาธานฉ้อโกงเงิน ปลายเดือนกรกฎาคม 2552 จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์ (เจเจ) ดีเจคลื่นอีซี เวอร์จิ้นเรดิโอ หุ้นส่วนร้าน Jamaree Yak Cafe Gallery เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนาธานในข้อหาฉ้อโกงเงินหุ้นส่วนร้านอาหาร และยังออกพูดถึงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล หลังถูกข้อกล่าวหาทั้ง 2 กรณีจึงออกมาแถลงข่าวว่า ได้จ่ายเงินไปแล้วพร้อมนำสลิปบัตรเครดิตมาโชว์เป็นหลักฐาน และกล่าวว่าจะฟ้องกลับ

เดือนพฤศจิกายน 2552 อดีตแม่บ้านของนาธาน พร้อมด้วยอาทิตย์ กุลฝ้าย ลูกชาย ได้เข้าแจ้งความว่า นาธานฉ้อโกงเงิน ในข้อหาฉ้อโกงเงินกว่า 3 แสนบาท ทั้งยังนำตรายาง ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวเนปาล โรงแรมชื่อดัง รวมถึงบริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ ที่เป็นของนาธานเพื่อตรวจสอบและใช้เป็นหลักฐาน

ต่อมา “แหม่ม พิศมัย” แม่บุญธรรม ออกมาปฏิเสธถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวผ่านทางรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทั้งนี้ทางรายการยังได้ต่อสายโทรศัพท์ถึงนาธานเพื่อชี้แจงเรื่องต่าง ๆ นาธานปฏิเสธในทุกเรื่อง โดยระบุว่า รู้จักพี่เลี้ยงคนดังกล่าวเพียง 2 ปี ไม่ใช่ 10 ปี ส่วนเรื่องตรายางไม่ใช่ของตน มีเพียงบริษัททัวร์ของนาธานอันเดียว

หลังจากนั้นทางฝ่ายอดีตแม่บ้านนาธานเข้าแจ้งความ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายเรียกนายนาธานแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบว่านาธานหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย จึงเข้าจับกุมนายนาธาน แต่นาธานได้รับประกันตัวออกไปในวันรุ่งขึ้น

นางฉลอง จันทร์นาค ยายของ น.ส. เสาวนีย์ ฤทธิโชติ อายุ 27 ปี หรือน้องอ้อม ผู้ป่วยเป็นโรคผิวหนังแห้งตกสะเก็ด หรือ “เด็กดักแด้” ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนมีนาคม 2552 ออกมาเปิดเผยว่านาธาน โอมาน ยืมเงินไปรวมกว่าแสนบาททั้งจากยายและน้องอ้อม พร้อมกล่าวสาเหตุการขอยืมเงินว่า “ถูกเพื่อนที่ร่วมทำกิจกรรมบริจาคช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยสึนามิโกงเงิน” และยังต่อว่าเรื่องที่นาธานไม่ยอมมาร่วมงานศพน้องอ้อมโดยอ้างว่าร่วมงานไม่ได้เพราะอยู่ต่างประเทศ

ต่อมา สราวุธ มาตรทองออกมาชี้แจงหลังจากถูกพาดพิงว่า เงินทุกบาทที่รับบริจาคช่วยเหลือชาวมอแกนจากเหตุการณ์สึนามินั้นได้นำไปให้ชาวมอแกนหมดแล้ว ทั้งเงิน และเรื

กลางเดือนพฤศจิกายน ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง อดีตนักร้องสังกัดอาร์เอส ออกมาเปิดโปงว่านาธานหลอกลวงเงินนางนันทพร พรายแสง น้าแท้ ๆ ของตนไปร่วมสามแสนบาท ซึ่งนาธานก็บอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งไม่นานนางดำ จารุวรรณ พรายแสง แม่ของปุ๊กกี้ก็ออกมาเปิดเผยหลายเรื่องที่นาธานโกหก และสาเหตุที่น้องสาวแท้ ๆ เชื่อ เพราะนาธานอ้างว่าถ้าได้เงินจากการแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดจะซื้อบ้านราคา 10 ล้าน และรถเบนซ์ให้

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553 ที่ศาลจังหวัดอำนาจเจริญ นางสมาน สุขเสริม อดีตแม่บ้านนาธาน โอมาน กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยคดีฉ้อโกงที่นาธานได้นำโฉนดที่ดินของตนไปจำนองได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยนาธานได้ชำระหนี้ก้อนแรกเป็นเช็คจำนวน 3.4 แสนบาท ส่วนที่เหลือนาธานได้เจรจาขอลดหย่อน ซึ่งนางสมานยอมลดหนี้จาก 7.4 แสนเหลือแค่ 5.4 แสนบาท แต่นาธานขอต่อรองลดหย่อนอีก จนนางสมานยอมลดให้เหลือ 4.4 แสนบาท โดยที่เหลืออีก 1 แสนยินดีให้เวลานาธาน 1 ปีหามาชดใช้

วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ได้นำเสนอกรณีนายนาธาน โอร์มาน ในขณะที่ พิศมัย ศรีกระบุตร หรือ ครูแหม่ม ทำการช่วยเหลือรับอุปการะนาธาน โอร์มาน ว่า นายนาธาน ได้ใช้ความสนิทสนมกับ นางสิทธิพร โคตรอุดมพร หรือ น้ามด ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสะใภ้ของครูแหม่ม ให้นำที่ดินของน้ามด ไปจำนอง เพื่อให้ได้เงินมาใช้ในการซื้อรถ “เชฟโรเลต แคปติวา” โดยที่นาธานได้อ้างว่าเพื่อซื้อมาขับให้ชินมือ เพราะตนได้รับการคัดเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของรถยี่ห้อดังกล่าวด้วยค่าตัวจำนวน 9 แสนบาท และเมื่อได้เงินค่าตัวแล้วจะนำเงินมาใช้คืนให้

นอกจากนี้ นาธาน ยังได้เอาเงินจำนวน 3 หมื่นบาท จากแม่ของครูแหม่ม ด้วยคำอ้างที่ว่าจะใช้เป็นค่าเสื้อผ้าในการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับงานหนึ่ง โดยให้แม่ของครูแหม่ม นำวัวที่มีทั้งหมดไปขาย แต่ภายหลังทางผู้จัดได้โทรมายกเลิก เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ศาลจังหวัดเลย พิจารณาคดีที่นางสิทธิพร โคตรอุดมพร หรือ น้ามด แจ้งความดำเนินคดีกับนาธาน โดยพนักงานอัยการเป็นโจทย์บรรยายคำฟ้องสรุปว่า จำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหาย แต่จำเลยได้ปฏิเสธและจะหาทนายเอง ซึ่งศาลได้กำหนดนัดพร้อม ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.00 นาฬิกา

ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน ศาลจังหวัดเลยยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่ามูลค่าความเสียหายที่จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายไป ป็นเงินจำนวนกว่า 7 แสนบาท หากจำเลยประสงค์จะยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ให้หาหลักประกันมายื่นต่อศาลต่อไป

จากนั้นศาลได้นำตัวนาธานจำเลยกับนางสิทธิพรผู้เสียหาย เข้าห้องไกล่เกลี่ยคดี โดยมีผู้พิพากษาศาลหัวหน้าศาลจังหวัดเลยทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ย เบื้องต้นจำเลยประสงค์จะต่อสู้คดี ไม่ประสงค์จะไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย ศาลเลยนำตัวจำเลยไปควบคุมเพื่อรอการยื่นขอประกันตัว หลังจากนาธานไม่ยอมไกล่เกลี่ยกับน้ามด และพยายามติดต่อกับคนรู้จัก เพื่อให้มาประกันตัว แต่ไม่สามารถติดต่อหรือหาใครมาประกันตัวได้ จนหมดเวลาทำการของศาล เจ้าหน้าที่เลยคุมตัวนาธานขึ้นรถ ไปควบคุมที่เรือนจำจังหวัดเลยต่อไป

ศาลจังหวัดเลยได้ตัดสินให้นาธาน จำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่เจ้าตัวรับสารภาพ จึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 1 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้เงินน้ามดทั้งหมด ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ จึงพ้นโทษเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554