นิโคลา เทสลา เสียชีวิต เทสลาเป็นคนหน้าตาดีและสุภาพจึงมีผู้หญิงหลายคนพยายามแข่งขันกันเพื่อเอาชนะใจเขาแต่เทสลากลับไม่เคยแต่งงานหรือมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหน เทสลาบอกว่าการถือพรหมจรรย์ของเขานั้นช่วยได้มากในเรื่องการทำงานทางวิทยาศาสตร์เทสลาทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำงาน
เขาทำงานทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นกินมื้อเย็นคนเดียวเวลา 2 ทุ่ม 10 นาทีตรง น้อยครั้งที่จะร่วมโต้ะกับคนอื่น แล้วจะกลับไปทำงานต่อถึงตีสามเป็นประจำเทสลาใช้เงินที่เขาได้จากการทำงานและค่าสิทธิบัตรจำนวนมหาศาลกับงานค้นคว้าทดลองจนหมด ช่วงหลังจึงไม่ค่อยมีเงินใช้จ่าย ปั้นปลายชีวิตเขาต้องอยู่คนเดียวพักตามโรงแรมในนิวยอร์กเปลี่ยนโรงแรมทุกสองสามปีโดยไม่จ่ายค่าโรงแรม หลังสุดมาพักที่ New Yorker Hotel อยู่หลายปีเทสลาเสียชีวิตที่โรงแรมนี้ในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486)ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวในวัย 86 ปี
นิโคลา เทสลา เสียชีวิต หลังจากเขาเสียชีวิต ประธานาธิบดี เจ. เอดการ์ ฮูเวอร์ (J. Edgar Hoover) ได้ส่งบันทึกไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ นิโคลา เทสลา ต้องถูกจัดการอย่างลับที่สุด และทุกฝ่ายต้องรักษาความลับของสิ่งประดิษฐ์ของเขาให้เป็นความลับตลอดไป

นอกจากนี้ เขายังพยายามที่จะทำโลกทั้งใบให้เป็นสื่อนำไฟฟ้า เพื่อให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปให้คนทุกคนในโลก ได้ใช้กระแสไฟฟ้าอย่างเสรีช่วงบั้นปลายชีวิต
หากคนทั่วไปจะจำเทสลาได้ พวกเขาก็จำได้แต่ในฐานะคนประหลาดที่เขียนบทความส่งหนังสือพิมพ์ (ด้วยหัวข้ออย่าง “คลื่นยักษ์ของเทสลาในการทำสงคราม”, “การนอนหลับด้วยไฟฟ้า”, “วิธีส่งสัญญาณไปดาวอังคาร” ฯลฯ)แต่ทว่า ในทศวรรษ 1980 ความคิดของเทสลาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องผลการวิจัยเรื่องการสูญเสียพลังงานในพัลซาร์ดาวคู่นิวตรอน (double neutron star pulsar) ชื่อ PSR 1913+16 ซึ่งขัดแย้งกับความเห็นไอน์สไตน์ในช่วงนั้น ได้ถูกพิสูจน์ว่าคลื่นแรงโน้มถ่วงมีอยู่จริง
ในปี ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) หลังวันเกิดครบรอบ 84 ปีไม่กี่วัน เทสลาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ The New York Times ว่า“…เขาพร้อมที่จะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับพลัง ‘โทรกำลัง’ (teleforce) ต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พลังนี้มีอานุภาพหลอมละลายเครื่องยนต์ของเครื่องบินจากระยะไกลถึง ๒๕๐ ไมล์ ทำให้สามารถสร้างแนวกำแพงป้องกันรอบประเทศแบบกำแพงเมืองจีน แต่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า”
คู่ปรับตลอดกาลของโทมัส อัลวา เอดิสันเมื่อนึกถึงนักประดิษฐ์ ผู้คนมักจะนึกถึง โทมัส เอดิสัน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ นิโคลา เทสลา นั้นดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีแนวคิดที่ต่างกันคนละขั้วเลยทีเดียว
เทสลานั้นเป็นเจ้าของแนวความคิดเรื่องไฟฟ้ากระแสสลับ ที่สามารถให้พลังไฟฟ้าในขอบเขตที่กว้างกว่าไฟฟ้ากระแสตรง ที่เป็นแนวคิดของเอดิสันโดยเอดิสันได้เห็นแย้งกับความคิดของนิโคลา โดยการสาธิตการคิดค้นเก้าอี้ไฟฟ้าที่ใช้ในการประหารนักโทษขึ้นมาเพียงเพื่อแสดงให้เห็นอันตรายจากการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับเท่านั้น
ซึ่งว่ากันว่าอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเอดิสันนั้นไม่เข้าใจหลักการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับตามที่เทสลาอธิบาย นี่จึงเป็นการประกาศว่าเอดิสันไม่ยอมรับสิ่งประดิษฐ์ของเทสลานั่นเอง
เทสล่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้บุกเบิกวิศวกรรมไฟฟ้ายุคใหม่ ซึ่งทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจคณิตศาสตร์อย่างถ่องเเท้ทำให้เขาสามารถทำนายได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาศึกษาคณิตศาสตร์เเละผลงานต่างๆของนักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อนๆที่เคยศึกษามาก่อนทำให้สามารถเข้าใจว่าไฟฟ้ามีการทำงานอย่างไรเทสล่าไม่ได้ทำงานเเบบเดาสุ่ม (trial and error) เเบบที่เอดิสันชอบทำ เขาจะใช้ความคิดเเก้ปัญหาให้ได้ก่อนที่จะสร้างสิ่งประดิษฐ์ใดๆ
การทำงานและสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงของเขายังเป็นจุดกำเนิดของทฤษฎีสมคบคิดจำนวนมาก และ ยังได้นำไปใช้สนับสนุนวิทยาศาสตร์เทียม, ทฤษฎียูเอฟโอ และ ไสยศาสตร์ยุคใหม่ อีกด้วย
ในปี 2503 หน่วยสำหรับวัดความ ความหนาแน่นของเส้นแรงแม่เหล็ก หรือ การเหนี่ยวนำด้วยพลังแม่เหล็ก (ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสนามแม่เหล็ก B \), ถูกตั้งชื่อว่า เทสลา เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา
นอกจากนี้ เทสลายังถือเป็นวิศวกรที่สร้างนวัตกรรมล้ำยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 สิทธิบัตรของเทสลาและผลงานเชิงทฤษฎีของเขากลายเป็นพื้นฐานของระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ได้แก่ ระบบจ่ายกำลังหลายเฟส และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเขามีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง
ผลงานเด่น
- ผู้ประดิษฐ์ขดลวดเทสลา (Tesla coil) และค้นพบวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า จึงเป็นที่มาของหน่วยวัดสนามแม่เหล็กเทสลา
- ผู้ค้นพบวิธีการสื่อสารแบบไร้สาย (Wireless communication)
- ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟแบบใช้ก๊าซให้แสงสว่าง หรือ หลอดฟลูออเรสเซนต์
- ผู้คิดทฤษฎีของเครื่องเรดาร์
- ผู้คิดรีโมตคอนโทรล
ท้ายที่สุดนี้..เทสลาถือเป็นวิศวกรที่สร้างนวัตกรรมล้ำยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20
สิทธิบัตรของเทสลาและผลงานเชิงทฤษฎีของเขากลายเป็นพื้นฐานของระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ได้แก่ ระบบจ่ายกำลังหลายเฟส และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเขามีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองเขาไม่เพียงเป็นอัจฉริยะเจ้าของสิทธิบัตรกว่า 300 รายการ
หากยังเป็นบิดาแห่งวงการวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า มีชื่อเสียงโด่งดังทัดเทียมเอดิสันในครึ่งแรกของชีวิตเป็นผู้ประดิษฐ์และค้นพบสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวสติงเฮาส์เอาชนะเอดิสันในสงครามคลื่นได้) ขดลวดเทสลา (Tesla coil) เครื่องวัดความเร็วติดรถยนต์การกระจายเสียงผ่านวิทยุ และวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า
ในยุคต้นศตวรรษที่ 20 นิโคลา เทสลามีชื่อเสียงมากในฐานะที่เป็นนักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์ วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า ฯลฯ เขาเป็นเจ้าของสิ่งประดิษฐ์ที่จดสิทธิบัตรเกือบ 300 รายการจาก 26 ประเทศ และผลงานประดิษฐ์ของเขามีอิทธิพลต่อเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันมากมาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีการส่งสัญญาณแบบไร้สาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปชื่อเสียงของเทสลากลับเลือนหายไปกับกาลเวลา และชื่อของเขาเพิ่งกลับมาได้รับความสนใจเมื่อไม่นานมานี้จากรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Tesla ที่ Elon Musk มีหุ้นอยู่ 20.5%
อันเป็นที่มาของหน่วยวัดสนามแม่เหล็กเทสลาซึ่งวิศวกรรุ่นหลังตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาปัจจุบันเราอยู่บนโลกใบนี้ เมื่อมองไปรอบๆตัวเราก็จะเห็นเเต่มรดกต่างๆที่เทสล่าทิ้งไว้ ..ขอบคุณ นิโคล่า เทสล่า
