Skip to content
Home » News » นีล อาร์มสตรอง ชายผู้เหยียบดวงจันทร์

นีล อาร์มสตรอง ชายผู้เหยียบดวงจันทร์

นีล อาร์มสตรอง ชายผู้เหยียบดวงจันทร์
https://www.bbc.com/thai/features-48993320

นีล อาร์มสตรอง ชายผู้เหยียบดวงจันทร์ เรือโท นีล ออลเดน อาร์มสตรอง (อังกฤษ: Neil Alden Armstrong; 5 สิงหาคม ค.ศ. 1930 — 25 สิงหาคม ค.ศ. 2012) เป็นนักบินอวกาศชาวอเมริกัน และเป็นมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์คนแรกของโลก

หลายท่านน่าจะรู้จัก “นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong)” ในฐานะของมนุษย์คนแรกที่เหยียบดวงจันทร์หากแต่ประวัติอย่างละเอียดของเขา บางท่านอาจจะยังไม่ทราบบทความนี้จะขอเล่าเรื่องราวของชายผู้เป็นเจ้าของ “ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ” “ นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong)” เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) ในบ้านไร่ของปู่ย่า ซึ่งตั้งอยู่ในโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา

นีลนั้นเป็นลูกคนโตในบรรดาลูกๆ สามคนของพ่อและแม่ โดยนีลนั้นเป็นลูกคนโปรดของแม่ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเขามีนิสัยคล้ายๆ แม่ คือเป็นคนนิ่งๆ เอาจริงเอาจัง และมีความมุ่งมั่นแม่ของนีลนั้นทำหน้าที่แม่บ้าน คอยดูแลลูกๆ ส่วนพ่อของนีลทำงานให้รัฐบาล ต้องคอยย้ายบ้านบ่อยๆ ขณะอายุยังไม่ถึง 13 ปี นีลก็ย้ายบ้านมาแล้วถึง 16 ครั้งในยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) การเดินทางโดยเครื่องบินยังเป็นอะไรที่ใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ น้อยคนที่เคยได้นั่งเครื่องบินสามปีก่อนที่นีลจะเกิด นั่นคือในปีค.ศ.1927 (พ.ศ.2470) “ชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก (Charles Lindbergh)” ได้บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่หยุดพัก และเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้

การเดินทางที่แพร่หลายในเวลานั้น คือการเดินทางด้วยเรือและรถไฟ ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดหมายตั้งแต่ยังแบเบาะ นีลนั้นก็สนใจในเครื่องบินและการบินมาโดยตลอด และได้ลองนั่งเครื่องบินครั้งแรกขณะอายุหกขวบ และเขายังชอบทำโมเดลเครื่องบินจำลองอีกด้วยความชอบในการบินของนีล ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ใกล้บ้านของเขานั้นมีสนามบิน และนีลก็ต้องการจะเรียนการขับเครื่องบิน ในช่วงวัยรุ่น เขาจึงทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเรียนนีลนั้นทำงานพิเศษหลายอย่าง ทั้งตัดหญ้าในสุสาน ทำงานเป็นคนทำโดนัทให้บริษัทโดนัท โดยต้องทำโดนัทคืนละมากกว่า 1,300 ชิ้น

นีลนำเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษทั้งหมดไปลงกับค่าเรียนขับเครื่องบิน และเมื่ออายุได้ 15 ปี เขาก็มีใบอนุญาตขับเครื่องบินแล้ว หากแต่เขาก็ยังเด็กเกินกว่าจะขับเครื่องบินเองสำหรับการเรียนนั้น ผลการเรียนของเขาอยู่ในขั้นที่ดีกว่าระดับปานกลาง โดยวิชาโปรดของเขาคือวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์นีลต้องการจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เขาต้องการจะเรียนรู้เรื่องของเครื่องบินให้มากกว่านี้ครอบครัวอาร์มสตรองไม่ใช่ครอบครัวยากจน พวกเขามีบ้าน มีรถ ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ร่ำรวย และการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยก็แพงมากแต่นีลก็สามารถเข้าเรียนต่อที่ “มหาวิทยาลัยเพอร์ดู (Purdue University)” ที่รัฐอินเดียนา โดยได้ทุนจากกองทัพเรือ และนีลต้องการจะเรียนต่อด้านวิศวกรรมการบินและอวกาศแต่นีลต้องใช้ทุน โดยต้องเข้าทำงานในกองทัพเรือ

เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย นีลเพิ่งจะมีอายุเพียง 17 ปี และเป็นครั้งแรกที่เขาต้องอยู่ห่างจากครอบครัวเขายังคงทำเกรดได้ดี แต่เขาก็ไม่ตั้งใจเท่าที่ควร อีกทั้งวิชาวิทยาศาสตร์ก็ยากมากภายหลังจากศึกษาที่เพอร์ดูได้สองปี ก็ถึงเวลาต้องเข้าทำงานในกองทัพเรืออีกสามปี โดยนีลถูกส่งไปประจำการที่ฟลอริดา และได้เรียนการขับเครื่องบินเล็กนีลได้เข้าฝึกบิน และได้ปีกมาในปีค.ศ.1950 (พ.ศ.2493) ขณะมีอายุเพียง 20 ปีนีลยังต้องกลับไปเรียนที่เพอร์ดูอีกสองปี แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่วางแผนสาเหตุก็มาจาก “สงครามเกาหลี (Korean War)”

นีล อาร์มสตรอง ชายผู้เหยียบดวงจันทร์
https://www.blockdit.com/posts/60a7fe07c1759d10110981f5?id=60a7fe07c1759d10110981f5&series=5fecc1fb186a470b2629256c

เมื่อเกิดสงคราม นีลถูกส่งไปยังเกาหลีที่เกาหลี นีลเป็นหนึ่งในนักบินที่อายุน้อยที่สุด โดยในช่วงสงคราม นีลปฏิบัติภารกิจไปถึง 78 ครั้งครั้งหนึ่ง เครื่องบินของเขาถูกยิง แต่นีลก็สามารถควบคุมให้เครื่องบินไปลงยังพื้นที่ปลอดภัย ก่อนจะสละเครื่อง และนีลก็ลงมายังนาข้าว โดยตัวเขานั้นปลอดภัย ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากสงครามเกาหลีคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปเกือบ 34,000 คน หากแต่นีลนั้นรอดตายและกลับบ้านพร้อมด้วยเหรียญกล้าหาญจำนวนมาก และก็ถึงเวลากลับไปเรียนแล้ว

ในช่วงที่เข้าศึกษาใหม่ๆ นั้น นีลเป็นนักศึกษาที่อายุน้อยเกือบที่สุด แต่เขาต้องไปทำงานในกองทัพกว่าสามปี ดังนั้น เมื่อกลับมาเข้าเรียนอีกครั้งในเดือนกันยายน ค.ศ.1952 (พ.ศ.2495) เขาก็มีอายุได้ 22 ปีแล้ว และแก่กว่านักศึกษาหลายๆ คนในช่วงสองปีสุดท้ายที่เพอร์ดู นีลเรียนหนัก เกรดของเขาก็ดีขึ้นมาก และเป็นครั้งแรกที่เขาตกหลุมรักหญิงคนนั้นคือ “เจเน็ต เชียรอน (Janet Shearon)” หรือที่ทุกคนเรียกว่า “แจน (Jan)”แจนเป็นนักศึกษาปี 1 วัย 18 ปี เธอเป็นคนร่าเริง ชอบเข้าสังคมนีลได้แต่งงานกับแจนในปีค.ศ.1956 (พ.ศ.2499) หลังจากนีลเรียนจบได้ไม่กี่เดือน

นีล อาร์มสตรอง ชายผู้เหยียบดวงจันทร์
https://www.blockdit.com/posts/60a7fe07c1759d10110981f5?id=60a7fe07c1759d10110981f5&series=5fecc1fb186a470b2629256c

นีลนั้นต้องการที่จะเป็นนักบินลองเครื่อง ทำหน้าที่ทดลองเครื่องบินใหม่ๆที่สนามบิน “Edwards Air Force Base” ในแคลิฟอร์เนีย ได้มีการทดลองเครื่องบินแบบใหม่ ซึ่งนีลก็สนใจที่จะทำงานที่นั่นนั่นหมายความว่านีลและแจนต้องย้ายไปแคลิฟอร์เนีย แจนจะเรียนไม่จบ แต่เธอก็ยอมย้ายตามสามีที่แคลิฟอร์เนีย นีลได้ลองเครื่องบินที่บินอยู่ในระดับที่สูงมากสมใจ ส่วนแจนก็ทำงานเป็นครูสอนว่ายน้ำค.ศ.1957 (พ.ศ.2500) “อีริค (Eric Armstrong)” ลูกชายคนแรกของนีลได้ถือกำเนิด ตามมาด้วยลูกสาว นั่นคือ “คาเรน (Karen Armstrong)” ในปีค.ศ.1959 (พ.ศ.2502)

ชีวิตของนีลดูเหมือนจะมีความสุข แต่แล้วในปีค.ศ.1961 (พ.ศ.2504) คาเรนหกล้ม หัวโขกกับฟุตบาท ซึ่งก็ไม่ได้แรงมากแต่หลังจากนั้น ดวงตาของคาเรนเริ่มแปลกๆ และยังมีไข้ขึ้นสูงนีลและแจนรีบพาคาเรนไปหาหมอ และทั้งคู่ก็ต้องพบกับข่าวร้ายคาเรนเป็นมะเร็ง หมอตรวจพบเนื้องอกในสมองของคาเรน

หมอได้พยายามทำทุกทางเพื่อรักษาคาเรน แต่คาเรนก็เสียชีวิตในปีค.ศ.1962 (พ.ศ.2505)การตายของคาเรนเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของครอบครัวอาร์มสตรอง นีลและแจนต่างโศกเศร้าหนักนีลนั้นเก็บความโศกเศร้าไว้ข้างใน เขาเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องการตายของคาเรนมาตลอดชีวิต เพื่อนใหม่ๆ ที่เพิ่งจะรู้จักนีลในภายหลังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าเขาเคยมีลูกสาวมาก่อนหนึ่งสัปดาห์หลังจากคาเรนจากไป นีลก็กลับไปทำงานทดลองเครื่องบินเหมือนเดิม และอีกไม่กี่เดือนต่อมา เขาก็ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญการตัดสินใจนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาลเขาตัดสินใจสมัครเป็น “นักบินอวกาศ”