Skip to content
Home » News » นีล เหยียบดวงจันทร์ ยานอพอลโล 11

นีล เหยียบดวงจันทร์ ยานอพอลโล 11

นีล เหยียบดวงจันทร์
https://www.blockdit.com/posts/60a7fe07c1759d10110981f5?id=60a7fe07c1759d10110981f5&series=5fecc1fb186a470b2629256c

นีล เหยียบดวงจันทร์ ยานอพอลโล 11 ความฝันที่จะได้ไปเหยียบดวงจันทร์ก็เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ และบางที ความท้าทายใหม่ๆ อาจจะทำให้เขาลืมความเศร้าเรื่องการสูญเสียคาเรนในที่สุด นีลก็ยื่นใบสมัคร ซึ่งในเวลานั้นหมดเขตรับสมัครไปเป็นสัปดาห์แล้ว หากแต่นาซ่าก็ยอมรับ 17 กันยายน ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) มีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวนเก้าคน และนีลคือหนึ่งในนั้น ภายในเวลาชั่วข้ามคืน นีลและครอบครัวกลายเป็นคนดังทันที

ครอบครัวอาร์มสตรองย้ายไปยังเท็กซัส ใกล้กับศูนย์กลางของนาซ่า และเหล่าเพื่อนบ้านในละแวกนั้นก็คือนักบินอวกาศในโครงการ ซึ่งก็มักจะมานั่งเล่น ปิ้งบาร์บีคิวกินกันอย่างสนุกสนานนับว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข ทำให้นีลผ่อนคลายความเศร้าเรื่องการสูญเสียคาเรน อีกทั้งแจนยังให้กำเนิดลูกชายอีกคนหนึ่งด้วย

นีลมุ่งมั่นที่จะเป็นนักบินอวกาศ เขาทุ่มเทให้กับการฝึกฝน ซึ่งการฝึกนั้นก็ใช้เวลามากกว่าวันละ 12 ชั่วโมงบนยานอวกาศไม่มีแรงดึงดูด ทุกอย่างจะไร้น้ำหนักและล่องลอย โดยนาซ่ามีเครื่องบินพิเศษซึ่งจะฝึกนีลและนักบินอวกาศคนอื่นๆ เป็นการจำลองถึงสภาพไร้น้ำหนักในค่ำคืนหนึ่ง หลังจากที่นีลกลับถึงบ้านหลังจากฝึกหนัก เขาได้เข้านอนและผลอยหลับไปก่อนที่จะตื่นมาพบว่าบ้านกำลังไฟไหม้เพื่อนนักบินอวกาศที่มีบ้านอยู่ติดกับนีลรีบวิ่งมาช่วยดับเพลิง โดยเพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้นีลต้องสร้างบ้านใหม่ อีกทั้งรูปถ่ายของคาเรนหลายๆ รูปก็สูญไปในกองเพลิง

นอกจากงานในหน้าที่นักบินอวกาศแล้ว นีลยังต้องออกตระเวน พูดสปีชให้ประชาชนฟัง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก แต่ก็ต้องทำ เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของโครงการอวกาศและสาเหตุที่รัฐบาลต้องทุ่มเทงบประมาณไปมากขนาดนี้ในเดือนมีนาคม ค.ศ.1966 (พ.ศ.2509) นีลได้ทดลองกับยานอวกาศจริงๆ โดยตัวเขาได้ควบคุมยาน “เจมินี (Gemini)”แต่เมื่อขึ้นสู่อวกาศ ยานอวกาศก็หมุนไม่หยุด แม้เมื่อยานเจมินีหลุดออกมาจากตัวยานใหญ่ เจมินีก็ยังคงหมุนไม่หยุด ซึ่งนีลก็สามารถควบคุมได้ในที่สุด หากแต่นาซ่าก็สั่งให้ยานกลับลงมาสู่โลกทันที

นักบินอวกาศในเจมินีลงมายังมหาสมุทรแปซิฟิกและได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย หากแต่ความผิดพลาดนี้ก็ส่งผลในแง่ลบ หนังสือพิมพ์ต่างตีข่าวความล้มเหลวของเจมินี

หลังจากความล้มเหลวนี้ การทดลองก็ยังคงมีความผิดพลาดอยู่ ทำให้ต้องมีการทดลองและฝึกหนักกว่าเดิมภายในสิ้นเดือนธันวาคม ค.ศ.1968 (พ.ศ.2511) ยาน “อพอลโล 8 (Apollo 8)” ก็ได้โคจรรอบดวงจันทร์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสำรวจหาบริเวณที่เหมาะสมในการลงจอด

ภารกิจต่อไป ก็คือการสร้างอุปกรณ์ในการลงจอด ซึ่งจะต้องแยกออกมาจากยานอวกาศอีกที จากนั้นก็ลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์

นีล เหยียบดวงจันทร์ ยานอพอลโล 11 มกราคม ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) นีลได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าของยาน “อพอลโล 11 (Apollo 11)” โดยมีนักบินอวกาศอีกสองคน นั่นคือ “บัซซ์ อัลดริน (Buzz Aldrin)” และ “ไมเคิล คอลลินส์ (Michael Collins)”ทั้งสามคนทำงานร่วมกันในแบบจำลองยานอวกาศ และทุกๆ ก้าวก็ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังวิศวกรของนาซ่าจะเป็นผู้ควบคุมยานผ่านคอมพิวเตอร์ แต่หากเกิดอะไรขึ้น พวกเขาทั้งสามต้องจัดการเอง ต้องมีไหวพริบและการแก้ปัญหาที่ดี

นีล เหยียบดวงจันทร์
https://www.blockdit.com/posts/60a7fe07c1759d10110981f5?id=60a7fe07c1759d10110981f5&series=5fecc1fb186a470b2629256c

บนอวกาศ จรวด “Saturn V” จะปล่อยยานอวกาศที่ชื่อ “โคลัมเบีย (Columbia)” ออกมาโคจรรอบโลก ก่อนจะพุ่งไปยังทิศทางของดวงจันทร์เมื่อโคลัมเบียถูกดึงเข้ามาอยู่ในวงโคจรของดวงจันทร์ ยานเล็กที่มีสี่ขา มีหน้าที่สำหรับลงจอด ก็จะแยกออกมาจากตัวยาน ลงจอดบนดวงจันทร์นีลและอัลดรินจะใช้เวลาอยู่บนดวงจันทร์ประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ส่วนคอลลินส์จะอยู่บนโคลัมเบีย ซึ่งกำลังโคจรรอบโลกภายหลังจากอยู่บนดวงจันทร์เป็นเวลาพอสมควรแล้ว นีลและอัลดรินก็จะขึ้นยานเล็ก ก่อนที่จะออกจากดวงจันทร์ กลับเข้ามาเชื่อมต่อกับโคลัมเบีย และกลับโลกนี่คือแผนที่วางไว้ แต่คำถามก็คือ

“ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนหรือไม่?”เช้าวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) นีลและอัลดรินกับคอลลินส์ได้มาพบกันในเวลา 4.15 น. และทานอาหารเช้า ซึ่งก็คือสเต๊กและไข่เมื่อคืนก่อน ได้มีแขกคนพิเศษมาร่วมทานอาหารเย็นกับพวกเขา และอวยพรให้พวกเขาโชคดี ซึ่งแขกคนนั้นคือ “ชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก (Charles Lindbergh)” ตำนานวงการบินผู้ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่หยุดพัก

นักบินอวกาศทั้งสามคนได้แต่งชุดนักบินอวกาศ และขึ้นลิฟท์ไปยังยานโคลัมเบียมีการเคานท์ดาวน์ นับถอยหลังเวลาปล่อยจรวดมาก่อนแล้วหลายวัน และตอนนี้ ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยศูนย์ควบคุมที่ฟลอริด้าจะรับผิดชอบในช่วงแรกที่ปล่อยยาน จากนั้น ศูนย์ควบคุมที่ฮูสตันจะรับหน้าที่ต่อนับถอยหลัง

6…5…4

ทุกคนที่เฝ้าดูต่างกลั้นหายใจ

3…2…1

ปล่อยยาน

นีล เหยียบดวงจันทร์
https://www.blockdit.com/posts/60a7fe07c1759d10110981f5?id=60a7fe07c1759d10110981f5&series=5fecc1fb186a470b2629256c

นักบินทั้งสามต่างรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน ก่อนที่อีกไม่กี่นาทีต่อมา ทุกอย่างก็สงบ

ในเช้าวันที่ 4 โคลัมเบียก็เข้ามาในบริเวณดวงจันทร์20 กรกฎาคม ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) ภายหลังจากทานอาหารเช้า นีลและอัลดรินก็ขึ้นยานเล็ก ก่อนที่ยานเล็กจะแยกออกจากยานโคลัมเบียอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ยานเล็กก็ได้ลงจอดยังดวงจันทร์ยานเล็กซึ่งมีชื่อว่า “Eagle” จำเป็นต้องลงจอดในบริเวณที่ราบเรียบ ไม่อย่างนั้นขากลับก็จะมีปัญหา ยานไม่สามารถเทคออฟได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น นีลและอัลดรินก็จะต้องติดอยู่บนดวงจันทร์ไปตลอด

นีล เหยียบดวงจันทร์ ยานอพอลโล 11 การลงจอดจะถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ หากแต่นีลสังเกตว่าบริเวณที่จะลงจอดนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อ เขาจึงเข้าควบคุมเพื่อหาจุดที่จะลงจอดด้วยตนเองเขาใช้เวลาหาจุดที่จะลงจอด และพบจุดที่เหมาะสม อยู่ห่างออกไปประมาณเจ็ดกิโลเมตรในที่สุด Eagle ก็ได้ลงจอดนีลและอัลดรินจะใช้เวลาอยู่บนดวงจันทร์ได้เพียงสองชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากอ๊อกซิเจนมีจำกัด และเนื่องจากนีลเป็นหัวหน้าของยานอพอลโล 11

นาซ่าจึงให้เขาเป็นผู้ลงมาเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรกนีลค่อยๆ ปีนลงบันไดมาอย่างช้าๆ และเขาก็ครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะพูดว่าอะไร เนื่องจากสิ่งที่เขาพูดจะได้ยินไปทั่วโลก มีคนที่ดูและฟังอยู่กว่า 450 ล้านคนผู้คนที่ชมอยู่ได้ยินประโยคของนีล“นี่เป็นก้าวเล็กๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ”

นีล เหยียบดวงจันทร์
https://www.blockdit.com/posts/60a7fe07c1759d10110981f5?id=60a7fe07c1759d10110981f5&series=5fecc1fb186a470b2629256c

นีลได้เปิดกล้องโทรทัศน์ เพื่อให้ผู้ชมบนโลกเห็นขณะที่เขากับอัลดรินเดินอยู่ในบริเวณที่ไม่เคยมีใครบนโลกได้เคยมาสัมผัสนักบินอวกาศทั้งสองคนได้เก็บหินดวงจันทร์ และได้ถ่ายรูป รวมทั้งปักธงชาติอเมริกานอกจากนั้น ทั้งสองยังได้ทิ้งแผ่นที่เขียนว่า “มนุษย์จากดาวโลกได้มาเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) เรามาอย่างสันติเพื่อมนุษยชาติ”ในทุกๆ ย่างก้าวของทั้งคู่ จะปรากฎรอยเท้า และรอยเท้าของทั้งคู่ก็ยังอยู่บนดวงจันทร์จนถึงทุกวันนี้

พื้นที่รอบๆ นั้นมืดมิด แต่ถึงอย่างนั้น นีลก็คิดว่าดวงจันทร์นี้สวยงามมากในขณะที่นีลและอัลดรินกำลังสำรวจดวงจันทร์ คอลลินส์ก็ได้โคจรรอบโลกไปแล้วกว่า 14 รอบ โดยในทุกครั้งที่ยานอยู่ในด้านที่ไม่เห็นโลก สัญญาณจากนาซ่าก็จะตัดไปในช่วงเวลานั้น หากเกิดปัญหา เขาจะไม่สามารถติดต่อกับนาซ่าได้เลยแต่ถึงอย่างนั้น คอลลินส์ก็ได้กล่าวในภายหลัง โดยเขาได้กล่าวว่าช่วงเวลาที่อยู่เพียงลำพังบนอวกาศ เป็นช่วงเวลาที่สงบสุขทางด้านนีลและอัลดริน เมื่อถึงเวลากลับ พวกเขาก็ต้องลุ้นกันหนักว่ายานจะทะยานขึ้นฟ้าได้หรือไม่ ซึ่งก็โชคดีที่ Eagle เทคออฟได้อย่างไม่มีปัญหา

ภายหลังจากที่นีลและอัลดรินกลับขึ้นมาถึงโคลัมเบีย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Eagle อีกต่อไป มันจึงถูกปล่อยให้โคจรรอบดวงจันทร์อยู่อย่างนั้นจากนั้น คอลลินส์ก็เร่งเครื่องเพื่อให้ยานพ้นจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์อพอลโล 11 กำลังจะกลับบ้านแล้วการเดินทางกลับสู่โลกใช้เวลา 60 ชั่วโมง โดยในช่วงบ่ายของวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) ยานก็ได้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกร่มชูชีพจำนวนสามใบได้เปิดออก ส่งให้ยานลอยอย่างช้าๆ ลงมายังมหาสมุทรแปซิฟิกเฮลิคอปเตอร์ได้บินมารับนักบินอวกาศทั้งสามในที่สุด พวกเขาก็กลับสู่โลกแล้ว

แต่ถึงแม้พวกเขาจะกลับมาถึงบ้าน นักบินอวกาศทั้งสามก็ยังไม่ได้เจอครอบครัว พวกเขาต้องถูกกักตัว เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ต้องการจะแน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้นำพาเชื้อโรคกลับมาจากดวงจันทร์