ประท้วงเหตุเรือเซวอลล่ม ตำรวจและผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลกรณีเรือเซวอล ปะทะกันอย่างหนักกลางกรุงโซล หลังตำรวจเข้าขัดขวางไม่ไห้ผู้ประท้วงเดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดี
ตำรวจและผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลกรณีเรือเซวอล ปะทะกันอย่างหนักกลางกรุงโซล หลังตำรวจเข้าขัดขวางไม่ไห้ผู้ประท้วงเดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดี
ประท้วงเหตุเรือเซวอลล่ม ตำรวจเกาหลีใต้ขัดขวางผู้ชุมนุมต่อต้านการปฏิบัติงานของรัฐบาลต่อกรณีเรือเซวอลล่มหลายพันคน ไม่ให้เดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล จนกลายเป็นเหตุปะทะอย่างรุนแรง ส่งผลให้ตำรวจและผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 74 นายและ 9 คนตามลำดับ รถตำรวจ 72 คันถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทุบเสียหาย ขณะที่ผู้ชุมนุมถูกตำรวจจับกุมกว่า 100 คนโดย 20 คนในจำนวนดังกล่าวเป็นญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือเซวอลล่ม
ด้านกรมตำรวจกรุงโซลระบุว่า ผู้ชุมนุมได้ยึดรถตำรวจก่อนขับพุ่งชนแผงกัน ทำให้ตำรวจต้องตอบโต้ด้วยการฉีดนํ้าและสเปรย์พริกไทยเข้าสลายการชุมนุม
ความวุ่นวายในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังพิธีรำลึกครบรอบ 1 ปี โศกนาฏกรรมเรือเซวอล บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตต้องการให้รัฐบาลของนางสาวพักกึนเฮ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนอเมริกาใต้ กู้ซากเรือเซวอลขึ้นมาโดยเร็วที่สุด เพื่อหาศพของผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 9 ราย พร้อมตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนกรณีนี้อย่างโปร่งใส

ชาวเกาหลีใต้ประมาณ 200 คน เดินเท้าจากเมืองอันซานมายังกรุงโซลเป็นระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร เพื่อกดดันให้รัฐบาลเปิดการสอบสวนอย่างเป็นกลางต่อโศกนาฏกรรมเรือโดยสารเซวอลล่มเมื่อวันที่ 16 เมษายนปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ผู้ร่วมเดินขบวนซึ่งหลายคนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กู้เรือขึ้นมาจากก้นทะเล เพื่อค้นหาศพผู้ที่ยังสูญหาย และมีผู้ปกครองหลายคนตัดสินใจโกนศีรษะเพื่อแสดงถึงความโศกเศร้าต่อความสูญเสียและความมุ่งมั่นในการเรียกร้องเพื่อถามหาความจริง
ขณะที่บางคนโจมตีรัฐบาลว่า แทนที่จะสอบสวนเพื่อค้นหาความจริง แต่กลับเอาเงินมาปิดปากผู้สูญเสีย
บรรดาครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือข้ามฟากเซวอลล่มในเกาหลีใต้ ร่วมพิธีรำลึกและไว้อาลัยที่เกาะจินโด เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี โศกนาฏกรรมดังกล่าวในวันนี้ ด้านประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดรับฟังข้อเสนอให้กู้ซากเรือเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหายอีก 9 ศพ แม้ต้องใช้งบประมาณกว่า 3.5 พันล้านบาท!
วันที่ 16 เม.ย. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรยากาศงานรำลึกครบรอบ 1 ปี เรือเซวอลล่มเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยวานนี้ (15 เม.ย.) บรรดาญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตได้ลงเรือไปยังจุดที่เรือข้ามฟากเซวอลล่มเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ปี 57 พร้อมทำพิธีโปรยดอกไม้เพื่อไว้อาลัย คาดว่าวันนี้มีการจัดพิธีรำลึกในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ปัจจุบันซากเรือเซวอลยังคงจมอยู่ที่จุดดังกล่าว ลึกลงไป 40 เมตร และยังคงเป็นประเด็นถกเถียงว่าควรจะกู้ซากเรือดังกล่าวขึ้นมาหรือไม่ หลังจากญาติของผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน ออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในกรุงโซล ขณะที่บางคนโกนหัวประท้วงเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระ และให้กู้เรือข้ามฟากขนาด 6,825 ตัน ขึ้นมาบนผิวน้ำ เพื่อหาร่างผู้สูญหายอีก 9 คน
เบื้องต้นประเมินว่าปฏิบัติการกู้ซากเรือจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1.2 แสนล้านวอน หรือราว 3,500 ล้านบาท แต่งบอาจบานปลายจากสภาพอากาศที่ปรวนแปร ความไม่แน่นอนทางเทคโนโลยี และตัวแปรอื่นๆ ล่าสุด นายปาร์ค กึน เฮ ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ เปิดพิจารณาข้อเรียกร้องของครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว

เกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจปราบจราจลและชาวเกาหลีใต้หลายพันคน ที่รวมตัวประท้วงกลางกรุงโซล เพราะไม่พอใจรัฐบาลในการแก้ปัญหาเรือเซวอลอับปาง
ตำรวจปราบจราจลฉีดน้ำแรงดันสูงและยิงสเปรย์พริกไทยใส่กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน เพื่อสลายการชุมนุมกลางกรุงโซล เกาหลีใต้ พร้อมนำรถบัสหลายคันมาจอดสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงเดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดี โดยเหตุปะทะดังกล่าวทำให้ตำรวจปราบจราจล 3 นาย และผู้ประท้วง 9 คน ได้รับบาดเจ็บ แต่สื่อถิ่นรายงานว่าโฆษกตำรวจเกาหลีใต้ ระบุว่ามีตำรวจมากกว่า 70 นาย
ด้านกองบังคับการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าตำรวจปราบจราจลกว่า 13,000 นาย และรถตำรวจ 470 คัน ได้ประจำการโดยรอบบริเวณที่ชุมนุมและควบคุมตัวผู้ประท้วงประมาณ 100 คน
สำหรับเหตุประท้วงในครั้งนี้เกิดจากการที่ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือเซวอลล่มและชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่ง ไม่พอใจวิธีการรับมือของรัฐบาลต่อเหตุเรือล่ม จึงออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระในการสืบสวนหาสาเหตุและขอความชัดเจนในการกู้เรือเซวอล
แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะแสดงออกอย่างชัดเจน ว่าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเมื่ออยู่นอกเคหะสถานมากขึ้น โดยเฉพาะการก่อตั้ง กระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ ที่มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดมากถึง 10,000 คน รวมถึงพยายามเยียวยาครอบครัวของผู้สูญเสีย แต่รายงานของรัฐบาลโซลกลับระบุว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางในประเทศเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 5,092 ครั้ง เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากสถิติปี 56 ซึ่งอยู่ที่ 4,762 ครั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเพิ่มว่า โศกนาฏกรรมเรือเซวอลล่มมีผู้โดยสารทั้งหมด 476 ราย เสียชีวิต 304 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย ที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษาที่เกาะเชจู โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มี 9 ราย ที่ยังหาศพไม่พบ ซึ่งเป็นที่มาของข้อเรียกร้องจากญาติพี่น้องของเหยื่อที่อยากให้รัฐบาลกู้ซากเรือ และมีผู้รอดชีวิต 172 ราย ขณะที่ลูกเรืออย่างน้อย 3 ราย เสียชีวิตขณะพยายามช่วยอพยพผู้โดยสาร
โดยศาลพิพากษาให้กัปตันเรือรับโทษจำคุก 36 ปี ฐานละเลยในการปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เรือล่ม และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 ราย ด้านหัวหน้าช่างเครื่องของเรือรับโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกเรืออีก 13 คน รับโทษจำคุกระหว่าง 15-20 ปี อย่างไรก็ตาม คดียังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์.