ประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ นัดอ่านคำพิพากษาคดีฆ่าชิงทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จังหวัดลพบุรี คดีหมายเลขดำ อ.409/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 38 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสิงห์บุรี เป็นจำเลย ในความผิด 9 ข้อหา ดังนี้
- ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดฯ
- พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น
- ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส
- ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร และโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว
- มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
- ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานชิงทรัพย์ และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ คดีนี้ อัยการ โจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา บรรยายพฤติการณ์ความผิด สรุปว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 จำเลย ซึ่งมีอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม. ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน ได้นำอาวุธ พร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิง นายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้างฯ รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไปจนเป็นเหตุให้ เด็กชายภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และนางสาวธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองโอโรร่า จนถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาท ของบริษัท ออโรร่าดีไซน์ จำกัด ผู้เสียหายไปโดยทุจริต ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

คดีนี้ที่พนักงานอัยการคดีอาญา เเละบริษัทออโรร่า ดีไซน์ พร้อมด้วยผู้ร้องซึ่งเป็นผู้เสียหายอีก10 ราย เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ หรือผอ.กอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี
เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ พยายามฆ่าผู้อื่นฯ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน กรณีก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า และยิงผู้คนเสียชีวิต ในห้างสรรพสินค้าใน จ.ลพบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2563
คดีนี้ เมื่อ 27 ส.ค.2563 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ว่า ผอ.กอล์ฟจำเลย ประหารชีวิต โดยศาลสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ผู้ร้องที่1 1.8 แสนบาท ,ผู้ร้องที่ 2 จำนวน 9.9 หมื่นบาท , ผู้ร้องที่ 3 จำนวน 1.3 แสนบาท, ผู้ร้องที่ 4 จำนวน 2.2 ล้านบาท, ผู้ร้องที่ 5 จำนวน 7.5 แสนบาท ผู้ร้องที่ 6,7 และ8 จำนวน 2.25 ล้านบาท,ผู้ร้องที่ 9 และ 10 จำนวน 7.5 แสนบาท
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ
ประหารชีวิต!! ผอ.กอล์ฟ
ล่าสุดศาลชั้นต้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานและหลักฐานของพนักงานสอบสวนรวมถึงพยานในที่เกิดเหตุสอดคล้องตรงกัน มีความชัดเจนเชื่อได้ว่า จำเลยเป็นผู้ก่อเหตุในคดีจริง ข้ออ้างที่จำเลยให้การรับสารภาพต่อศาลว่า เป็นความคิดชั่ววูบ เพราะมีปัญหาหนี้สินจำนวนมากนั้น รับฟังไม่ขึ้นเนื่องจากจำเลยมีการเตรียมการและมีอาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียง แสดงให้ถึงการตระเตรียมที่จะกระทำความผิด
สำหรับกรณีวิถีกระสุนทำให้เด็กชายเสียชีวิตจำเลยอ้างว่าไม่เจตนา ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว เห็นว่าเมื่อจำเลยนำปืนเก็บเสียงยิงไปที่ นายธีระฉัตร ผู้ตาย รปภ. ห้างโรบินสัน และกระสุนทะลุไปโดน ดช.ภาณุวิชญ์ จนเสียชีวิต ศาลถือว่า จำเลยมีเจตนากระทำผิดต่อเด็กด้วย
ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบาเพราะภายหลังก่อเหตุเกิดความสำนึกเสียใจ ยอมให้จับกุมประกอบกับ มีคุณงามความดีมาก่อนนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้มอบตัว และไม่ให้การมีประโยชน์ต่อการแสวงหาหลักฐาน หรือการสอบสวน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์สามารถนำสืบเองได้ คำให้การของจำเลยจึงไม่เป็นให้ประโยชน์ หรือให้ความรู้กับศาล จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ทั้งนี้คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน การกระทำผิดของจำเลยเป็นภัยร้ายแรง คุกคามสังคม คำให้การของจำเลยฟังไม่ขึ้น
จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง หลายกรรมต่างกัน พิพากษาให้ลงโทษทุกกรรม รวมโทษทุกกระทง คงประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว ปรับ 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียทุกคน รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนกว่าจะแล้วเสร็จ