Skip to content
Home » News » ปาโบล สร้างคุกขังตัวเอง

ปาโบล สร้างคุกขังตัวเอง

ปาโบล สร้างคุกขังตัวเอง “ปาโบล เอสโกบาร์” (Pablo Escobar) ราชาโคเคนและหัวหน้าแก๊งค้ายาเมเดยินที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งแม้ว่าเขาจะยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของกฎหมาย แต่ในอีกด้านเขาเปรียบเสมือน “โรบินฮูด” ผู้นำเงินจากการค้ายามาสร้างโรงเรียน สร้างบ้าน และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากให้กับเมืองที่เขาโตมา จึงทำให้ความนิยมในตัวเขามีมากขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลโคลอมเบียยอมรับไม่ได้

ซึ่งรัฐบาลโคลอมเบียในขณะนั้นนำโดย ประธานาธิบดีซีซาร์ กาวิเรีย และนักการเมืองหลายคนเริ่มไม่ยอมจำนนต่อการครอบงำของปาโบล และต้องการนำตัวพ่อค้ายารายนี้มารับโทษตามกฎหมาย อีกทั้งเมื่อมีแรงสนับสนุนจากสหรัฐฯ รัฐบาลจึงได้ประกาศสงครามกับแก๊งค้ายาเมเดยิน โดยผลจากคำประกาศดังกล่าว ทำให้เกิดการก่อจลาจลภายในประเทศ พร้อม ๆ กับธุรกิจของปาโบลก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

ต่อมา1ม.ค. ค.ศ.1991 (วันที่ประมาณการ)ทั้งสองฝ่ายได้สร้างข้อตกลงร่วมกันว่า ปาโบลจะต้องหยุดการก่อสงครามภายในประเทศ เพื่อแลกกับการที่รัฐจะแก้ไขกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ ซึ่งกำลังต้องการตัวพ่อค้ายารายนี้อยู่ โดยเงื่อนไขคือ ปาโบลต้องถูกจองจำอยู่ในเรือนจำภายในประเทศ ซึ่งเขาได้ตอบตกลงแถมยังเพิ่มเงื่อนไขว่าจะยอมอยู่ในเรือนจำที่สร้างขึ้นเอง ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเมืองเมเดยิน และจะยอมรับโทษเพียง 5 ปี เท่านั้น

 หลังจากที่ความพยายามในการตามล่าราชาโคเคน “ปาโบล เอสโคบาร์” ของประเทศโคลอมเบียจบลงด้วยความล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดเมื่อปี 1991 ปาโบลก็ยอมตกลงรับโทษจำคุกจากทางรัฐบาลโคลอมเบียจนได้

อย่างไรก็ตามการมอบตัวในครั้งนั้นมีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือเขาต้องการที่จะถูกขังในคุกที่เขาสร้างขึ้นมาเอง

 คุกแห่งที่ว่านี้มีชื่อว่า La Catedral (แปลตรงๆ ว่า “มหาวิหาร”) มันเป็นคุกขนาดใหญ่ที่ถูกตั้งอยู่บนภูเขาใกล้ๆ เมืองเมเดยิน และออกแบบมาให้มีความหรูหราเป็นอย่างยิ่ง

    ในตัว “คุก” มีทั้งห้องครัว ห้องเล่นบิลเลียด ดิสโก้ บาร์หลายแห่ง ทีวีจอยักษ์ อ่างจากุซซี่ สนามฟุตบอล หรือแม้กระทั่งน้ำตก ว่ากันตามตรง La Catedral นั้นเหมือนกับเป็นปราสาทสำหรับราชายาเสพติดมากกว่าคุกเสียอีก

ปาโบล สร้างคุกขังตัวเอง
http://www.baterk.com/post09186101002284

ปาโบล สร้างคุกขังตัวเอง โดยเรือนจำดังกล่าวชื่อว่า “ลา คาเทดรัล” (La Catedral) เป็นเรือนจำสุดหรูที่ล้อมรอบไปด้วยกองกำลังติดอาวุธ ภายในเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องซาวน่า อ่างจากุซซี่ บาร์ ดิสโก้เทค สระน้ำที่มีน้ำตก และสนามฟุตบอลส่วนตัว โดยปาโบลยังเชิญให้นักฟุตบอลทีมชาติโคลอมเบียมาเตะฟุตบอลภายในสนามนี้ด้วย ทั้งยังมีครัวอุตสาหกรรม ที่ไว้คอยทำอาหารหรู ๆ เพื่อรองรับปาร์ตี้ของเจ้าพ่อค้ายาและเหล่าสาว ๆ อีกด้วย

 แต่ความหรูหรานั้นไม่ใช่เพียงจุดเด่นจุดเดียวของ La Catedral เพราะสถานที่แห่งนี้ถูกเลือกมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของปาโบลเป็นปัจจัยหลักเช่นกัน

    นั่นเพราะภูมิประเทศที่เป็นเขาสูงบวกกับอยู่ในพื้นที่ที่ปาโบลมีอิทธิพลช่วยป้องกันการโจมตีจากศัตรูคู่แข่ง แถมลักษณะอากาศซึ่งมักจะมีหมอกก็ทำให้การแอบสอดแนม และการจู่โจมทางอากาศเกิดขึ้นได้ยากอีก

แน่นอนว่าชีวิตของปาโบลในคุกแห่งนี้เป็นไปอย่างสุขสบาย เขาทานอาหารสุดหรูอย่างแซลมอนสดๆ หรือคาเวียร์ ในอ้อมกอดของสาวงาม แถมยังเคยชวนทีมฟุตบอลของโคลอมเบียมาแข่งขันในสนามฟุตบอลส่วนตัวของเขาอีก

    แต่ถึงแม้ว่าจะใช้ชีวิตสบายสุดๆ เช่นนี้ก็ตาม ในปี 1992 ปาโบลกลับสั่งสังหารหัวหน้าแก๊งค้ายารายอื่นๆ พร้อมกับครอบครัวจากในคุก และทำให้ทางรัฐบาลมองว่าเป็นการกระทำที่ข้ามเส้นจนเกินไป

http://www.baterk.com/post09186101002284

แต่กว่าที่ทหารจะไปถึง La Catedral ปาโบลก็หายตัวไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้โดยรวมแล้วเขาได้รับโทษเพียงแค่ 13 เดือนจากที่ตกลงกันไว้ 5 ปี

นับจากวันนั้นมาปาโบล เอสโคบาร์ ก็ไม่เคยกลับมาที่ La Catedral อีก และหลังจากที่เขาถูกยิงตายในปี 1993 ที่แห่งนี้ก็ถูกปล่อยเช่าโดยรัฐบาลโคลอมเบียต่อไป

นอกจากนี้ ในช่วงเดียวกันยังเป็นช่วงที่แก็งเมเดยินเริ่มสั่นคลอน และตกเป็นเป้าหมายที่แก็งค้ายาอื่น ๆ อยากกำจัด นั่นทำให้ปาโบลต้องสร้างบ้านพักไว้สำหรับครอบครัวเพื่อความปลอดภัยของสมาชิกทุกคน พร้อมทั้งคอยสั่งการกำจัดศัตรูจากภายในเรือนจำ โดยว่ากันว่าเรือนจำแห่งนี้ยังอยู่ในตำแหน่งที่มีหมอกหนาคอยกั้นการมองเห็นจากศัตรูด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลรับรู้ว่าการจองจำปาโบลมาพร้อมกับสงครามระหว่างเขาและแก๊งยาเสพติดอื่น ๆ ประกอบกับการที่รัฐถูกโจมตีจากการปล่อยให้พ่อค้ายามีอภิสิทธิ์พิเศษ ซึ่งแรงเสียดทานทั้งหมดนี้ทำให้รัฐต้องใช้มาตรการเด็ดขาด โดยการบุกเข้าจับกุมตัวปาโบลในเรือนจำดังกล่าว เพื่อย้ายเขาไปยังเรือนจำที่น่าเชื่อถือกว่า แต่ทว่า ปาโบลกลับไหวตัวทันและชิงหลบหนีไปก่อน หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำเพียง 13 เดือนเท่านั้น (จากเงื่อนไข 5 ปี)

ในท้ายที่สุด รัฐบาลโคลอมเบียได้เดินหน้ากวาดล้างสมาชิกของแก๊งค้ายาเมเดยินไปเป็นจำนวนมาก จนแก๊งต้องล่มสลายลง ก่อนจะตามมาด้วยการปูพรมทั่วประเทศเพื่อไล่ล่าตัวปาโบลและสังหารได้ในที่สุด โดยหลังจากนั้น เรือนจำ ลา คาเทดรัล ได้ถูกปล่อยทิ้งรกร้างอยู่นานหลายปี ก่อนจะถูกแปรสภาพมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน