ผู้นำสูงสุดอิหร่านร่ำไห้ พิธีศพนายพลสุไลมานี บรรยากาศการจัดงานศพ นายพลกาซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของอิหร่านในต่างแดน หรือ กองกำลังคุดส์ ผู้ทรงอิทธิพลอันดับสองของประเทศ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่า ปฏิกิริยาและอารมณ์ที่ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอันดับหนึ่งของอิหร่านร่ำไห้อย่างเปิดเผย แสดงถึงความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง สะท้อนว่าเป็นความสูญเสียส่วนตัวของผู้นำสูงสุดด้วย
ผู้นำสูงสุดอิหร่านร่ำไห้ พิธีศพนายพลสุไลมานี ปกติแล้วผู้นำสูงสุดของอิหร่านมักไม่ได้แสดงอารมณ์ส่วนตัวระหว่างการสื่อสารกับสาธารณชน แต่ในพิธีศพนี้ กลับร่ำไห้ออกมา พร้อมเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อสวดภาวนาต่อพระเจ้า อาการดังกล่าวไม่เพียงบ่งบอกความรู้สึกส่วนตัวของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี แต่ยังแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่จะตอบโต้ต่อสหรัฐด้วย
แม้ว่านายพลสุไลมานีจะเป็นบุคคลอันตรายร้ายแรงต่อนักรบนิกายสุหนี่ และเขย่าขวัญความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่สำหรับชาวอิหร่าน นิกายชีอะห์ นายพลท่านนี้เปรียบเหมือนสิงโต ที่อาจหาญชนกับแรงกดดันของมหาอำนาจสหรัฐ สะท้อนให้เห็นได้ถึงภาพมวลชนมหาศาลที่เข้าร่วมพิธีศพนายพลสุไลมานี
สำหรับคาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน นายพลสุไลมานีเป็นผู้ช่วยที่จงรักภักดี และขยายอิทธิพลของอิหร่านไปเหนือดินแดน ช่วยรักษาหลักการแห่งการปฏิวัติอิหร่านปี 2522 และนำอำนาจผู้นำมาสู่นิกายชีอะห์ เมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายของบุคคลทั้งสอง เป็นลักษณะเดียวกับพ่อและลูกรักของอิหร่าน
ส่วนสถานการณ์อื่นๆ ในศึกการเผชิญหน้าตึงเครียดครั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้นทันทีตามความคาดหมาย เช่น ราคาน้ำมันเบรนต์พุ่งร้อยละ 2.3 ไปที่ 70.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองคำเพิ่มร้อยละ 1.4 ไปที่ 1,574 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นราคาสูงสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง เขย่าขวัญนักลงทุนจากการที่สองฝ่ายแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกันอย่างชนิดลงรอยกันไม่ได้
คำขู่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ระบุว่าจะตอบโต้หนักหน่วงและรวดเร็ว หากอิหร่านลงมือแก้แค้นต่อการตายของนายพลสุไลมานี พร้อมยิงถล่มเป้าหมาย 52 จุด ทั้งสถานที่ระดับสูงและสำคัญไปจนถึงสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมอิหร่าน ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงครามภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
วาทะข่มขู่ดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่า สหรัฐจะโจมตีสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของอิหร่านที่เป็นมรดกของโลกได้หรือ ในเมื่อมีกฎบัตรระหว่างประเทศ ปีค.ศ.1954 ระบุว่า การกระทำเช่นนั้นคือการก่ออาชญากรรมสงคราม
“ผมเศร้าใจจริงๆ ที่เราอยู่ในโลกที่มีประธานาธิบดีของมหาอำนาจที่ไม่รู้ว่าการโจมตีสถานที่ทางวัฒนธรรมเป็นอาชญากรรมสงคราม” นายอับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าว ส่วนนายโมฮัมหมัด จาวัด อซารี จาห์โรมี รมว.การสื่อสารอิหร่าน กล่าวเปรียบเทียบว่าภัยคุกคามด้วยคำขู่ของทรัมป์เหมือนกับพวกไอเอส ฮิตเลอร์ และเจงกิสข่าน เป็นลักษณะของผู้ก่อการร้ายโดยแท้
ด้าน นายพลเอสมาอิล กานี ผู้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนายพลสุไลมานี กล่าวว่า อิหร่านจะต้องแก้แค้นสหรัฐอย่างแน่นอน หลังจากสถานีโทรทัศน์รัฐบาลอิหร่านประกาศ ว่า จะระดมเงินทุน 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30 บาท) ต่อประชากรชาวอิหร่านทุกๆ 1 คน เพื่อใช้เป็นรางวัลค่าหัวปลิดชีพผู้นำสหรัฐ
“อิหร่านมีพลเรือน 80 ล้านคน จากจำนวนประชากรของอิหร่าน เราต้องการระดมเงิน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,400 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้กับใครก็ตามที่ได้เข้าใกล้หัวของประธานาธิบดีทรัมป์” โทรทัศน์ของอิหร่านประกาศ
รายงานความคืบหน้าสถานการณ์กระทบกระทั่งส่อเกิดสงครามระหว่าง สหรัฐอเมริกา และ อิหร่าน ว่า สถานีโทรทัศน์รัฐบาลอิหร่านประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ระหว่างถ่ายทอดสดพิธีฝังศพ นายพลกาซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน หรือกองกำลังคุดส์ ซึ่งถูกสังหารที่สนามบินกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ตามคำสั่งของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เมื่อ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
ว่า จะระดมเงินทุน 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30 บาท) ต่อประชากรชาวอิหร่านทุกๆ 1 คน เพื่อใช้เป็นรางวัลค่าหัวปลิดชีพผู้นำสหรัฐ “อิหร่านมีพลเรือน 80 ล้านคน จากจำนวนประชากรของอิหร่าน เราต้องการระดมเงิน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,400 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้กับใครก็ตามที่ได้เข้าใกล้หัวของประธานาธิบดีทรัมป์”
ส่วนนาย อะโบลฟัซล์ อาบูโตราบี ส.ส.อิหร่าน เสนอให้รัฐบาลอิหร่านนำกำลังโจมตีทำเนียบขาวของสหรัฐ
“เราสามารถโจมตีทำเนียบขาวได้ เราสามารถตอบโต้พวกเขาบนดินแดนของอเมริกา เรามีพลังอำนาจ และพระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดเถิดเราจะจะตอบสนองในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ” นายอาบูโตราบีกล่าว พร้อมย้ำว่านี่คือการประกาศทำสงครามของอิหร่าน ตอกย้ำการชักธงแดงพร้อมรบขึ้นสู่ยอดเสาเหนือสุเหร่าจามคาราน สุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ของนิกายชีอะห์ในเมืองกอม
