Skip to content
Home » News » ศาลฎีกายกฟ้อง “หมอนิ่ม” คดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์

ศาลฎีกายกฟ้อง “หมอนิ่ม” คดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์

ศาลฎีกายกฟ้อง “หมอนิ่ม” คดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์ -จักรกฤษณ์” อดีตนักแม่นปืนทีมชาติ ส่วนแม่หมอนิ่ม ศาลลดโทษเหลือจำคุก 25 ปี และร่วมชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย

ศาลฎีกายกฟ้อง “หมอนิ่ม” คดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์ วันนี้ (8 ส.ค.2564) จากคดีนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม เป็นผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งเป็นเงิน 4.4 ล้านบาทด้วย สำหรับพฤติการณ์ตามฟ้องกล่าวหาว่า ระหว่างเดือน ส.ค.2556 – วันที่ 19 ต.ค.2556 จำเลยที่ 2, 3, 4 ได้ร่วมกันจ้างวานใช้ให้ฆ่านายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย

ล่าสุดในวันที่ 7 ส.ค. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ ก่อนตัดสินให้ ยกฟ้อง พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 40 ปี อดีตภรรยาของเอ็กซ์ โดยให้เหตุผลว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้น ยังมีความรักต่อกัน เพราะหมอนิ่มและผู้ตายยังไปมาหาสู่ผู้ตาย มีเพศสัมพันธ์กัน และยังรักกันอยู่ ตอนติดคุกยังพาลูกไปหา ไม่มีได้ท่าทีโกรธแค้น

ทั้งนี้ ศาลได้พิพากษา นางสุรางค์ ภู่เจริญยศ แม่ของพญ.นิธิวดี ผู้ว่าจ้างยิงนายเอ็กซ์ ให้ประหารชีวิต แต่จำเลยรับสารภารลดโทษกึ่งหนึ่ง ให้จำคุกตลอดชีวิต โดยให้สาเหตุ ว่า นางสุรางค์ นั้น มีความโกรธแค้นที่คนตาย ทำร้ายลูก และหลาน จนทำให้แท้งลูก และเชื่อว่า ผู้ตายไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ เลยสั่งมือปืนยิง

ส่วนนายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 47 ปี มือปืน และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 35 ปี ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ให้มือปืน ศาลพิพากษา จำคุกตลอดชีวิต

ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ว่าได้ร่วมกันกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 289(4) และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ฯ ประกอบ ป.อ.มาตรา 83 ให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1 และที่ 5 และให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 3 และที่ 4 โดยยกฟ้องจำเลยที่ 2 กับให้จำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้อง

ศาลฎีกายกฟ้อง "หมอนิ่ม" คดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์
https://pantip.com/topic/37935859

ต่อมา โจทก์ โจทก์ร่วม ผู้ร้อง และจำเลยทั้ง 5 ยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 289(4) ประกอบมาตรา 84 ให้จำคุกตลอดชีวิต และให้จำเลยที่ 2 ร่วมชดใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้โจทก์ร่วมและผู้ร้องด้วย

ส่วนจำเลยที่ 3 พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม อดีตภรรยา ให้ยกฟ้องและให้ยกคำร้องขอชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนของจำเลยที่ 3 ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา ซึ่งคดีมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาไปเมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า ฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ต่อสู้ในประเด็นการร่วมจำเลยที่ 4 และที่ 5 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมชดใช้ตามจำนวนดังกล่าวนั้นชอบด้วยเหตุผลแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และฎีกาข้ออื่นที่ต่อสู้ประเด็นการรับฟังคำให้การพยานที่มาลงโทษจำเลย ก็ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

อย่างไรก็ดี ในส่วนของพฤติการณ์การกระทำผิดจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นแม่ยายผู้ตาย ศาลฎีกาเห็นว่าเกิดจากการที่ผู้ตายกระทำต่อจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวของจำเลยที่ 2 ครั้งแล้วครั้งเล่า และบางครั้งยังกระทำต่อหน้าหลานเล็ก ๆ ของจำเลยที่ 2 อันเนื่องมาจากปัญหาการควบคุมอารมณ์ของผู้ตาย

โดยก่อนเกิดเหตุมีความไม่แน่นอนว่าผู้ตายซึ่งเป็นนักกีฬายิงปืน มีอาวุธปืนอาจใช้อาวุธปืนของตนกระทำต่อจำเลยที่ 3 และครอบครัวในขณะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็เป็นได้เพราะก่อนเกิดเหตุเพียง 2 เดือนก็ยังใช้อาวุธปืนยิงไปทางคนรับใช้และบุตรคนเล็กจนผู้ตายถูกจับและถูกควบคุมตัวที่เรือนจำและเพิ่งได้รับการประกันตัวมาไม่นาน การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ที่ขณะเกิดเหตุเป็นหญิงมีอายุถึง 72 ปีและบัดนี้มีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเข้าลักษณะของผู้กระทำความผิดที่ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 78 ที่ศาลอาจลดโทษได้ให้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง

และตาม ป.อ.มาตรา 52 “ในการลดโทษประหารชีวิตไม่ว่าจะเป็นการลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลง ให้ลดดังต่อไปนี้… (2) ถ้าจะลดกึ่งหนึ่งให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25 ปีถึง 50 ปี” ที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้จำเลยที่ 2 เพียงหนึ่งในสามและคงจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตด้วยเหตุเพียงคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ศาลฎีกายังไม่เห็นพ้องด้วย เห็นควรลดโทษให้จำเลยที่ 2 อีก

ทั้งนี้ ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และจำเลยที่ 2 กระทำความผิดเพราะตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่งตาม ป.อ มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงลงโทษจำคุก 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเหตุ : เฟซบุ๊ก สื่อศาล ระบุว่า คดีนี้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2564

https://news.thaipbs.or.th/content/308458