สอบสวนคดี เปรมชัย สำหรับรายละเอียดคดีดังกล่าวเป็น คดี ระหว่างนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ผู้กล่าวหา นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่า
- ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- .ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย
- ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ล่าาสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 มีนาคม ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปปป. พร้อม พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ ผกก.5 บก.ปปป. เดินทางไป จ.กาญจนบุรี เพื่อไปสอบสวนนายวิเชียรและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เบื้องต้นนัดหมายที่ตู้ทางหลวงไทรโยค เวลา 13.00 น. วันที่ 7 มีนาคม ส่วนวันที่ 8 มีนาคม จะนัดหมายไปจำลองสถานการณ์ในสถานที่จริง

พล.ต.ต.กมลกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เรื่องการสอบสวนที่นายวิเชียรมาร้องทุกข์ว่านายเปรมชัยพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่นั้น ต้องการสอบสวนให้ทราบรายละเอียดในประเด็นขณะเกิดเหตุการณ์นั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และดูองค์ประกอบของกฎหมาย ตรวจสอบพยานหลักฐานที่จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีเหตุมีผลหรือไม่ สถานการณ์ตอนนั้นคืออะไรในช่วงที่เกิดเหตุ ต้องจำลองสถานการณ์ว่าขณะที่มีการขอติดสินบนมีช่วงไหน ขั้นตอนใด มีการเสนอสินบน ระหว่างเขียนบันทึกจับกุมหรือไม่ ต้องดูว่าสถานการณ์นั้นมาเอื้อต่อการเสนอสินบนสมควรตามหลักเหตุผล และเมื่อมีน้ำหนักมากพอก็ต้องพิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา ถ้าไม่มาตามหมายเรียก ก็ออกหมายจับตามระเบียบต่อไป อย่างไรก็ตาม การที่มีคนร้องทุกข์ว่ามีการให้สินบนนั้นสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคลิปเสียงแต่อย่างใด
สอบสวนคดี เปรมชัย
ความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนคดี นายเปรมชัย กรรณสูต และพวกรวม 4 คน จำเลยในคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา และซากเก้ง ถูกชำแหละถลกหนัง รวมทั้งปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง เครื่องกระสุนจำนวนมาก รวมทั้งอุปกรณ์ในการล่าสัตว์ป่า ภายหลังจากที่ทางอัยการจังหวัดทองผาภูมิ อัยการจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่คณะทำงานในคดีดังกล่าว ได้ร่วมประชุมและตรวจสอบสำนวนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งกลับมา หลังได้รับการประสานจากทางอัยการให้ดำเนินการสอบเพิ่มเติมในหลายประเด็นที่ยังไม่ครบถ้วนและครอบคลุม
โดยหลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบและพิจารณาสำนวนในครั้งนี้แล้ว ปรากฏว่ายังคงมีในอีกบางประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนมาไม่ครอบคลุมและครบถ้วน ทำให้ยังขาดข้อมูลสำคัญในบางส่วน ทางพนักงานอัยการจึงยังไม่สามารถที่จะสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องได้ และได้มีการส่งสำนวนคืนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทำหนังสือประสานให้ช่วยสอบสวนในประเด็นที่ยังไม่ครบถ้วน
ล่าสุดวันที่ 28 มีนาคม ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นายเปรมชัย และพวกล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากที่พนักงานอัยการได้มีการประชุมตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดี นายเปรมชัย ที่อัยการจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนนำสำนวนกลับมาบรรยายพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ขณะเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรนั้น วันนี้พนักงานสอบสวนจะนำสำนวนส่งพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ หลังจากได้ดำเนินการตามคำแนะนำของพนักงานอัยการเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อพนักงานอัยการจะได้พิจารณาส่งสำนวนฟ้องศาลต่อไป
สอบสวนคดี “เปรมชัย” ด้าน สำนักงานอัยการภาค 7 เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป ผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม สื่อมวลชนติดตามและนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง และ กลุ่มองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองพิทักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ ได้ติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นคดีสำคัญ
เพื่อให้การพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็วและโปร่งใส นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาดำเนินคดีนี้ ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงาน,พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัยรองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงานและนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงานและเลขานุการ
เมื่อคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็น เสนออธิบดีอัยการดภาค 7 มีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะได้แถลงให้ทราบในโอกาสต่อไป วันนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งผู้ต้องหาทั้ง 4 มาพร้อมสำนวน เนื่องจากผู้ต้องหาได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว โดยจะครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มี.ค.นี้
