สังหาร เอ็กซ์จักรกฤษณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 บริเวณถนนรามคำแหง เป็นเหตุให้นายจักรกฤษณ์เสียชีวิตในเวลาต่อมา
“จ่าสิบเอก จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม” หรือ “เอ็กซ์” เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2516 เป็นบุตรชายของ นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เจ้าของหลายเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์
“เอ็กซ์” จบการศึกษา ปวส.เครื่องกล จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในด้านทักษะกีฬายิงปืนนั้น เริ่มหัดยิงปืนตั้งแต่อายุ 15 ปี จนได้ติดทีมชาติเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ประเภทปืนสั้นอัดลมยิงช้า ครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี มีผลงานแข่งขันเอเชียนเกมส์ 1998 ได้ที่ 4 เคยได้เหรียญเงินจากซีเกมส์ 2005 ที่ฟิลิปปินส์ และในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ได้ที่ 8 นอกจากนี้นายจักรกฤษณ์ยังเคยเป็นนักแสดง มีผลงานแสดงนำเรื่อง หมากเตะรีเทิร์นส, ปืนใหญ่จอมสลัด และขุนรองปลัดชู
อย่างไรก็ตาม ในด้านชีวิตส่วนตัว นายจักรกฤษณ์เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน และมักมีเรื่องวิวาทกับบุคคลอื่นอยู่เสมอ โดยกรณีที่หลายคนจำได้คือ การถูกส่งตัวกลับประเทศทั้งที่แข่งขันไม่จบในซีเกมส์ 2009 ที่เวียงจันทน์ เพราะทะเลาะอย่างรุนแรงกับผู้จัดการทีม หรือเหตุการณ์ในเดือนกรกฎาคม 2556 ที่นางปวีณา หงสกุล พา พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ “หมอนิ่ม” ภรรยาของนายจักรกฤษณ์เข้าแจ้งความจับในคดีใช้ความรุนแรงในครอบครัว หลังถูกทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่

สังหาร เอ็กซ์จักรกฤษณ์
19 ตุลาคม 2556 เวลาประมาณ 19.10 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงนายจักรกฤษณ์ขณะอยู่ในรถยนต์ปอร์เช่ สีดำ ตลอดเส้นทางถนนรามคำแหง แต่รถปอร์เช่ขับหนีไปได้หลายกิโลเมตร จนมาหยุดที่หน้าวัดบำเพ็ญใต้ ถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี พบนายจักรกฤษณ์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งกระสุนได้ถูกบริเวณหน้าอก ทางหมอนิ่มเองก็รีบมายังที่เกิดเหตุใน 5 นาที พร้อมกับช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ส่งโรงพยาบาลเสรีรักษ์ แต่เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์ว่า คนร้ายที่ยิงเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ มีอยู่ 2 คน ได้แก่ คนขับ 1 คน และคนยิง 1 คน จากการสอบปากคำหมอนิ่มและแม่บ้านที่นั่งอยู่ในรถกับนายจักรกฤษณ์ พบว่าสอดคล้องกันและไม่มีจุดที่น่าสงสัย ส่วนทางบิดาและมารดาของนายจักรกฤษณ์ เดินทางมารับศพลูกชายที่โรงพยาบาล เพื่อสวดพระอภิธรรมที่วัดพระศรีมหาธาตุ เป็นระยะเวลา 5 วัน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ประกาศตัดปมยาเสพติดออก เนื่องจากเห็นว่า แม้เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เสพยาจริง แต่ก็ไม่ได้เป็นผู้ค้ายา อย่างไรก็ตาม ยังคงประเด็นพระเครื่อง ปัญหาครอบครัว และความขัดแย้งกับสมาคมยิงปืนเอาไว้ก่อน
ตำรวจเริ่มมุ่งเน้นประเด็นไปที่ความขัดแย้งในครอบครัวเป็นหลัก เนื่องจากสืบสวนพบว่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เคยมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับพี่ชายต่างมารดาของหมอนิ่ม และพี่ชายคนนี้ก็เป็นผู้พาหมอนิ่มไปหานางปวีณา ทำให้เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ต้องติดคุกและยังสืบทราบว่านายจักรกฤษณ์กำลังเตรียมแถลงข่าวเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังการนำทรัพย์สินออกจากตู้เซฟ (ต้องสงสัยว่าเป็นภรรยา) และยังพบจดหมายที่เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เขียนถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 ซึ่งเนื้อความพาดพิงตำรวจยศ พ.ต.ท.นายหนึ่ง

ตำรวจมุ่งเน้นไปที่ประเด็นครอบครัวอย่างชัดเจน เนื่องจากได้รับรายงานว่า วันที่ 15 ตุลาคม 2556 นายจักรกฤษณ์และหมอนิ่มมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง มีการพยายามทำร้ายหมอนิ่ม ก่อนที่นายจักรกฤษณ์ จะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ตำรวจจึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า คนใกล้ตัวหมอนิ่มเป็นผู้บงการ เนื่องจากทนพฤติกรรมรุนแรงของนายจักรกฤษณ์ไม่ไหว
ตำรวจตั้งข้อสงสัยคนในครอบครัวซึ่งรู้ความเคลื่อนไหวของนายจักรกฤษณ์เป็นอย่างดี ว่าเป็นผู้บอกข้อมูลให้ผู้ก่อเหตุ โดยสอบปากคำพยานไปแล้ว 42 ปาก และกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และตำรวจได้ค้นรถของนายจักรกฤษณ์อีกครั้ง พบโทรศัพท์มือถือ และเครื่องอัดเสียงซุกซ่อนอยู่ในช่องลับตรงคอนโซลฝั่งคนขับ จึงส่งไปตรวจสอบ และพบว่ามีหลายไฟล์เสียงถูกลบทิ้งไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งประเด็นการสังหารไปยังความขัดแย้งระหว่าง เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ และครอบครัวของหมอนิ่ม พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ โดยออกหมายเรียกเครือญาติของหมอนิ่มมาทำการสอบสวน 4 คน และฝ่ายสืบสวนยังพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นทีมสังหาร
9 พฤศจิกายน 2556 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้แถลงข่าวการจับกุมตัวนายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย อายุ 33 ปี มือปืนลอบสังหาร ซึ่งสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก “ทนายอี๊ด” นายสันติ ทองเสน ด้วยค่าจ้าง 2 แสนบาท โดยแบ่งกับนายธวัชชัย เพชรโชติ คนขับขี่รถจักรยานยนต์ คนละ 1 แสนบาท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมชุดสืบสวนได้แถลงข่าวการจับกุม น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกุล หรือ “เจ๊แหม่ม” ผู้จัดหาทีมสังหารนายจักรกฤษณ์ โดยให้การรับสารภาพว่า “ได้รับการว่าจ้างจาก นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม และตัวหมอนิ่มเอง ด้วยค่าจ้าง 1.2 ล้านบาท”
โดย เจ๊แหม่ม สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ 3-4 เดือน นางสุรางค์ได้มาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี เพราะลูกสาวถูกนายจักรกฤษณ์ทำร้ายเป็นประจำ จากนั้นในวันที่ 29 กรกฎาคม 2556 ตนจึงพา นายสันติ ทองเสม หรือทนายอี๊ด ซึ่งมีความสามารถในการจัดหามือปืน ไปพบนางสุรางค์