สาเหตุเรือล่ม นับเป็นเหตุสลดที่ไม่ควรเกิดขึ้นสำหรับกรณีเรือโดยสาร 2 ชั้นล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 28 คน บาดเจ็บอีก 51 คน จากทัวร์บุญของพี่น้องชาวมุสลิม กลับกลายเป็นความสูญเสียอย่างประเมินค่าไม่ได้
เพียงเพราะความประมาทของคนไม่กี่คน ทั้งคนขับเรือที่ขับเร็วจนไม่สามารถควบคุมเรือได้ เมื่อถูกกระแสน้ำของเรือที่สวนมาตลอดจนเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ที่ไม่จำกัดผู้โดยสาร โดยอัดเข้าไปร่วม 120 คน จากที่กำหนดไว้ 50 คนเท่านั้น หรือแม้กระทั่งการไม่เตรียมเสื้อชูชีพให้เพียงพอตามมาตรฐานความปลอดภัยจนให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำแล้วซ้ำอีก

สาเหตุเรือล่ม
เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ย. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุเรือโดยสารล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดที่ท่าน้ำหน้าวัดสนามไชย หมู่ 9 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากท่าน้ำวัดสนามไชยเพียง 5 เมตร พบเรือโดยสารขนาดใหญ่สีขาว 2 ชั้น ชื่อเรือสมบัติมงคลชัย อยู่ในสภาพเอียงขวา จมอยู่ในแม่น้ำมิดชั้นที่ 1 ผู้โดยสารชาย-หญิง ที่นั่งมากับเรือต่างพากันหนีตายอย่างอลหม่าน บางส่วนกระโดดลงน้ำลอยคอ สิ่งของสัมภาระลอยเกลื่อนท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือนำตัวขึ้นฝั่งได้กว่า 40 คน หลายคนมีอาการสำลักน้ำหมดสติ ต้องปั๊มหัวใจก่อนนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตที่เดินทางมากับเรือ ถูกนำศพขึ้นมาวางเรียงรายอยู่บริเวณท่าน้ำ สร้างความสลดหดหู่เป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือนำเที่ยว 2 ชั้น เป็น 1 ใน 15 ลำ ซึ่งถูกว่าจ้างให้มารับผู้โดยสารซึ่งเป็นชาวมุสลิม ในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.สำเภาล่ม และ ต.ประตูชัย ไปทำกิจกรรมพบปะสังสรรค์ตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมานาน โดยจะล่องเรือจากมัสยิดตำบลหนึ่งไปอีกตำบล
โดยก่อนเกิดเหตุขบวนเรือทั้งหมดล่องเรือกันมาตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงช่วงที่จะเดินทางกลับผ่านหน้าวัดสนามไชย มีเรือบรรทุกแล่นสวนทางมาในร่องน้ำเดียวกัน ทำให้คนขับเรือหักหลบ แล้วเสียหลักพุ่งชนแพท่าน้ำอย่างแรง ทำให้เรือจมลงอย่างรวดเร็ว
แต่ก็ยังพบว่าคนขับเรือลำดังกล่าวมาด้วยความเร็ว และมักจะแซงขบวนเรือที่แล่นมาด้วยกันอยู่ตลอดเวลา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เร่งระดมชุดประดาน้ำงมหาศพผู้เสียชีวิต และผู้เสียหายกันตลอด 24 ชั่วโมง มีการตั้งศูนย์ส่วนหน้าที่บริเวณใกล้ท่าน้ำวัดสนามไชย ท่ามกลางญาติมิตรของผู้สูญหาย ที่มาเฝ้ารอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ หวังจะให้เกิดปาฏิหาริย์

มาดูภาพนี้ประกอบ จะเห็นว่า เรือลำนี้ จะบรรทุกมาเกิน 50 คน และปากคำจากผู้โดยสารเอง ก็บอกตรงกันว่า มีคนบนเรือ มากกว่า 200 คน เมื่อกลับมาดูที่เรือ จะเห็นว่า เรือ มี 2 ชั้น ทั้ง ชั้นเปิดโล่ง จุดที่ชนตอม่อ คาดว่า เป็นท้ายเรือฝั่งขวา เพราะเป็นจุดที่จมลงไปก่อน
ดูที่เรือ จะเห็นชัดว่า มี 2 ชั้น ชั้นล่าง คือจุดที่มีผู้สียชีวิตมาก เพราะจมลงไปก่อนอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเป็นคนสูงอายุ และเด็ก โดยสารอยู่ แม้จะเปิดโล่งก็ตาม ที่สำคัญ จนถึงขณะนี้ ภาพที่ปรากฏออกมายังบอกชัดว่า “ผู้เสียชีวิตทุกคน” ไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ” และไม่ทราบด้วยว่า จำนวนเสื้อชูชีพ มีเพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร หรือไม่ ??
ส่วนการดำเนินคดี พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาบรรทุกผู้โดยสารเกินกฎหมายกำหนด กับนายท้ายเรือ เพราะขอไว้เพียง 50 คน แต่กลับบรรทุกเกินกว่า 100 คน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับเจ้าของเรือหรือนายจ้างต่อไป นอกจากจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย 2556 แล้ว ต้องดำเนินคดีอาญาในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นอันตรายสาหัส กับนายท้ายเรือด้วยโดยสรุปขณะนี้มีช่องโหว่หลายประเด็น
- คนขับเรือไม่ชำนาญเส้นทาง ไม่รู้ร่องน้ำ
- แซงในช่วงโค้งครึ่งวงกลม ด้วยความเร็ว บังคับเรือไม่ได้
- ชนตอม่อที่มองไม่เห็น เพราะคนขับเรือ ไม่รู้ว่ามีตอม่อ ในช่วงที่น้ำขึ้นสูง
- บรรทุกน้ำหนักเกิน อาจส่งผลต่อการควบคุมเรือ และส่งผลให้จมลงเร็ว
- ไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้ที่เพียงพอ (ชูชีพ) หรือมี ก็ไม่บังคับให้ผู้โดยสารใส่
สําหรับสาเหตุที่เรือล่มครั้งนี้ นายวิรัช ชัยศิริกุล อายุ 60 ปี คนขับเรือ ให้การว่า เมื่อขับเรือมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง มีกระแสน้ำไหลแรง มีเรือบรรทุกสินค้าแล่นสวนทางพุ่งเข้ามา จึงพยายามหลบกระแสน้ำไหล ทำให้บังคับเรือไม่ได้พุ่งเข้าชนแพท่าน้ำจนเรือจมลง
ทั้งนี้ ภาพจากคลิปวิดีโอที่ชาวบ้านถ่ายไว้ เห็นภาพเรือแล่นมาด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งเข้าชนแพท่าน้ำวัดสนามไชย และจมลงจนมิดชั้นที่ 1 ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที