
อดีตอัฟกานิสถาน สหรัฐฯ ตั้งกองกำลังในอัฟกานิสถานเมื่อ พ.ศ.2544 และถอนกำลังไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2564 เวลา 20 ปีที่ผ่านมา คนอัฟกันจำนวนไม่น้อยทำงานให้กองทัพสหรัฐฯ คนเหล่านี้ถูกหมายหัวจากพวกตอลีบาน ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มว่าตอลีบานจะกลับมา มีอำนาจในแผ่นดินอัฟกานิสถานอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอีกครั้งหนึ่ง
อดีตอัฟกานิสถาน ชาวอัฟกันที่ทำงานให้สหรัฐฯยื่นขอวีซ่าหนีไปสหรัฐฯมากกว่า 18,000 คำขอ แต่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายเพิ่มสิทธิวีซ่าให้ผู้อพยพพิเศษเพียง 8,000 คน หมายความว่าอีก 10,000 คน จะต้องพาครอบครัวหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯ อนุมัติเงิน 100 ล้านดอลลาร์ สำหรับ การอพยพอัฟกัน 8,000 คนมาสหรัฐฯ
ผมคิดว่ารัฐบาลอัฟกันปัจจุบันคงอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้กองกำลังตอลีบานยึดจุดผ่านแดนสำคัญและล้อมกรอบเมืองเอกของหลายจังหวัดเอาไว้แล้ว ถ้าตอลีบานมา ประเทศก็คงตกอยู่ในหายนะและคงจะมีการล้างแค้นกันอย่างบ้าเลือด อัฟกานิสถานมีพื้นที่ 6.5 แสนตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 34 จังหวัด ตอนนี้ 31 จังหวัดกำหนดเคอร์ฟิวแล้ว
สมาชิกครอบครัวของรัฐบาลอัฟกันที่อยู่ในประเทศอื่น เริ่มเผชิญกับความรุนแรงกันแล้ว บุตรีของเอกอัครราชทูตอัฟกันประจำกรุงอิสลามาบัดถูกลักพาตัวไป 5 ชั่วโมง และถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส
อัฟกานิสถานกลายมาเป็นที่สนใจของโลกอีกครั้ง หลังจากที่สหรัฐฯหนีหางจุกตูด มีน้อยคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์อัฟกันอย่างละเอียด ประเทศที่เคยส่งกองกำลังมาอยู่ในอัฟกานิสถานและหนีไปก่อนหน้านี้ก็คือสหภาพโซเวียต โซเวียตน่าจะเป็นประเทศที่มีข้อมูลที่ละเอียดที่สุดเกี่ยวกับอัฟกานิสถานอยู่ในมือตั้งแต่แผ่นดินนี้ยังเป็นดินแดนในจักรวรรดิอะคีเมนิดของเปอร์เซีย
แผ่นดินนี้ได้รับการกล่าวถึงครั้งแรกในสมัยพระเจ้าดาริอุสที่ 1 ของเปอร์เซีย ซึ่งยุคนั้นใกล้เคียงกับยุคสมัยของพระพุทธเจ้า แผ่นดินนี้อยู่ภายใต้การปกครองของเปอร์เซียมานานจนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชของกรีกต้องยกทัพมาตี ใช้เวลาปราบพวก อัฟกันอยู่นานถึง 3 ปี ถึงสำเร็จ จากนั้นก็ยกทัพไปตีอินเดีย แล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย
ชนะแล้ว พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ก็ให้แม่ทัพของตนปกครองอัฟกานิสถาน ครั้งหนึ่ง แม่ทัพกรีกอยากได้ช้าง 500 เชือก จึงแลกช้างกับดินแดน โดยยอมยกมณฑลตะวันออกเฉียงใต้ของอัฟกานิสถานให้พระเจ้าจันทรคุปต์ จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเมารยะ แผ่นดินนี้ตกอยู่กับจักรวรรดิเมารยะจนสิ้นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
ศาสนาที่ลงหลักปักฐานแน่นแฟ้นในแผ่นดินอัฟกันคือศาสนาพุทธ จึงมีศาสนสถานและพระพุทธรูปโบราณอยู่ในแผ่นดินนี้มาก ขณะนี้ทยอยพบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตามถ้ำที่ซ่อนอยู่ตามเทือกเขาสูง บางถ้ำมีพระพุทธรูปหินแกะสลักอายุนับพันปีที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ตอลีบานเป็นพวกศาสนนิยมสุดโต่ง ผมเชื่อว่าเมื่อตอลีบานกลับมามีอำนาจก็คงจะตระเวนทำลายพระพุทธรูปโบราณเหล่านี้อีกครั้งหนึ่ง
หลายท่านถามว่า อิสลามเข้ามาในดินแดนอัฟกานิสถานเมื่อใด ขอย้อนกลับไปเมื่อ ค.ศ.820 (1,201 ปีก่อน) ตอนนั้นอัฟกานิสถานอยู่ในมณฑลคูราซาน ตกอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิอาหรับ
สมัยนั้น คนอัฟกันถูกบังคับให้นับถือศาสนาใหม่ แต่คนส่วนใหญ่ ก็ยังนับถือศาสนาพุทธ กระทั่งภายหลังมาเข้ารับอิสลามเกือบทั้งหมดในคริสต์ศตวรรษที่ 11 พวกเติร์กจากเอเชียกลางก็ทยอยหันมาเข้ารับอิสลาม เพื่อให้ได้สิทธิในการเข้ารับราชการในจักรวรรดิอาหรับ ทาส ชาวเติร์กบางคนถีบตัวเองขึ้นเป็นข้าหลวง และหลานทาสคนหนึ่งชื่อมะห์มูด (ค.ศ.997-1030) ตั้งตนเป็นสุลต่าน และใช้คำว่าอัฟกานิสถานเป็นครั้งแรก
จากพวกเติร์ก อัฟกานิสถานก็อยู่ในการปกครองของเซลจูกเติร์ก ต่อมาก็อยู่กับพวกมองโกล พวกมองโกลเข้ามาก็ทำลายบ้านเมืองและเข่นฆ่าคนอย่างกะผักปลา คนอัฟกันต้องใช้เวลานานถึง 150 ปี เพื่อฟื้นตัวจากการทำลายล้างของพวกมองโกล
มหาอำนาจในแผ่นดินอัฟกัน อดีตอัฟกานิสถาน
หลังจากที่สหรัฐฯและอังกฤษเคยร่วมโจมตีอัฟกานิสถานในสมัยที่ตอลีบานเป็นรัฐบาล ถึงตอนนี้สหรัฐฯและพันธมิตรก็อยู่ไม่ไหว ต้องหนีออกจากพื้นที่ไปเฉยๆ ทิ้งให้พวกทหารอัฟกันที่เคยร่วมสู้รบกับพวกตนอยู่ในพื้นที่ และถูกพวกตอลีบานรุมฆ่าอย่างน่าสงสาร
วันก่อน รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษออกมาตะโกนก้องร้องว่า อังกฤษพร้อมจะทำงานร่วมกับตอลีบาน หากตอลีบานกลับมาปกครองอัฟกานิสถานอีกครั้ง
ไม่น่าเชื่อว่าอังกฤษจะพูดจาอะไรได้ไวขนาดนี้ ที่อัฟกานิสถานกลายเป็นประเทศแย่อย่างทุกวันนี้ ก็เพราะอังกฤษนี่แหละที่เข้าไปก่อสงครามอัฟกันถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกระหว่าง ค.ศ.1839-1842 และครั้งที่สอง ระหว่าง ค.ศ.1878-1880
อัฟกานิสถานเคยเป็นดินแดนที่รุ่งเรือง มีอาณาเขตกว้างขวางใหญ่โต ครอบคลุมทั้งแคว้นคูราซาน แคว้นบาลูจิสถาน แคว้นซินด์ และแคชเมียร์ สงครามกับอังกฤษทำให้อัฟกานิสถานเสียดินแดนที่ปัจจุบันกลายเป็นประเทศปากีสถานให้แก่อังกฤษ
อังกฤษขี้ทิ้งไว้ในอัฟกานิสถานหลายกอง แทรกแซงการเมืองทุกรูปแบบ สมัยก่อนตอนโน้น ใครจะเป็นผู้นำอัฟกันขึ้นปกครองประเทศต้องให้อังกฤษเห็นชอบเสียก่อน การแทรกแซงของอังกฤษทำให้อัฟกานิสถานอ่อนแอ และสังคมมีความแตกแยกสูง
ค.ศ.1929 อังกฤษให้อาวุธปืน 10,000 กระบอกแก่นายพลโมฮัมเหม็ด นาดีร์ ข่าน จากนั้นก็หนุนนายพลคนนี้ให้เป็นกษัตริย์ กษัตริย์องค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์ใน ค.ศ.1933 พระโอรสที่ทรงพระนามว่า โมฮัมเหม็ด ซอฮีร์ ชาห์ ขึ้นครองราชย์แทนและอยู่นานจนถึง ค.ศ.1973
19 กรกฎาคม 1973 โมฮัมเหม็ด ซอฮีร์ ชาห์ เสด็จต่างประเทศ นายพลโมฮัมเหม็ด ดาวูด ยึดอำนาจและล้มระบอบกษัตริย์ เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ แล้วประกาศตนเป็นประธานาธิบดี แต่อีก 5 ปีต่อมา ดาวูดก็ถูกลอบสังหาร พวกที่โค่นก็ตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยอัฟกานิสถาน ปีต่อมาเอกอัครราชทูตสหรัฐฯก็ถูกฆ่าในอัฟกานิสถาน ตามด้วยผู้นำกลุ่มสำคัญที่ชื่อกลุ่มคัลก์ก็ถูกลอบสังหารอีก
27 ธันวาคม 1979 กองทัพโซเวียตบุกเข้าอัฟกานิสถาน จากนั้น ประธานาธิบดีอะมีนก็ถูกฆ่า คนของโซเวียตได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีแทน ช่วงที่โซเวียตอยู่ในอัฟกานิสถานนี่ละครับ มีการสร้างกลุ่มกองโจรมูจาฮิดดีนมาสู้กับกองทัพรัฐบาล บางช่วงโซเวียตส่งกองกำลังเข้ามามากถึง 1.15 แสน เมื่อทหารโดนฆ่าตายเป็นจำนวนมาก โซเวียตจึงเริ่มถอนกำลังออก
ซีไอเอของสหรัฐฯให้ความช่วยเหลือกลุ่มมูจาฮิดดีน แต่ก็ล้มรัฐบาลที่โซเวียตตั้งไว้ไม่ได้ กระทั่ง ค.ศ.1987 นายพลนาจิบุลลาห์ เป็นประธานาธิบดี จึงไปเจรจาสันติภาพกับมูจาฮิดดีน ที่นครเจนีวา ตั้งแต่นั้นพวกสหรัฐฯก็เลิกช่วยพวกมูจาฮิดดีนอย่างถาวร
เมษายน 1992 นายพลโดสตุมร่วมมือกับมูจาฮิดดีนโค่นรัฐบาลของนายพลนาจิบุลลาห์ พวกที่ร่วมกันโค่นเป็นรัฐบาลได้พักเดียวก็ทะเลาะและรบกันเอง อัฟกานิสถานไม่เคยมีความสงบอย่างแท้จริง ผู้คนอยู่ด้วยความหวาดระแวง มีแต่การลอบสังหาร มีแต่การหักหลัง
สหรัฐฯและอังกฤษต้องมายุ่งกับอัฟกานิสถานด้วยเหตุผลหลายอย่าง อย่างแรกก็คือ อยากคุมอิหร่าน เอเชียใต้ และเอเชียกลาง นอกจากนั้น อัฟกานิสถานยังเป็นที่น่าสนใจในเรื่องเป็นสถานที่ที่ปลูกฝิ่นคุณภาพ สามารถพัฒนาต่อเป็นเฮโรอีน สร้างเงินได้เป็นกอบเป็นกำสหรัฐฯและพันธมิตรล้มรัฐบาลตอลีบานได้เมื่อ ค.ศ.2001 ถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 20 ปีพอดี แต่ในห้วงยี่สิบปี
ที่ว่า สหรัฐฯอยู่ในอัฟกานิสถานอย่างทุลักทุเล ทหารตายไปเยอะ ถูกลอบสังหาร ถูกวางระเบิด อดีตทหารอเมริกันคนหนึ่งเคยให้ความเห็นว่า การที่สหรัฐฯเข้าไปอยู่ในอัฟกานิสถานถือว่าคุ้ม เพราะทำให้กองทัพสหรัฐฯมีประสบการณ์ผ่านการรบอย่างหฤโหด
เป็นสถานที่ทดสอบอาวุธใหม่ๆ และเป็นเวทีแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของอาวุธอเมริกัน ทำให้ขายอาวุธได้
น่าเศร้าที่มหาอำนาจตะวันตกและรัสเซียใช้แผ่นดินอัฟกันเป็นเวทีประลองกำลังโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของประชาชนคนอัฟกันเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ตอลีบานมาแล้ว ก็คงจะล้างแค้นจนผู้คนล้มหายตายจากไปอีกเยอะ