อนาคตใหม่โต้ข้อกล่าวหา พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เผยแพร่เอกสาร 19 หน้า เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดียุบพรรคจากปมนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้า อนค. ปล่อยเงินกู้ให้พรรคตัวเอง 191.2 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมการเมืองช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ อนค. ในฐานะผู้ถูกร้อง มีเนื้อหาหลักรวม 8 ข้อ ซึ่งพยายามชี้ให้เห็นว่าคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะผู้ร้อง “เป็นความเท็จทั้งสิ้น”
เอกสารชุดนี้ถูกส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่ 27 ม.ค. ก่อนที่พรรคสีส้มจะตัดสินใจเผยแพร่ต่อสาธารณะ หลังศาลรัฐธรรมนูญยืนยันเมื่อวานนี้ (5 ก.พ.) ว่าไม่เปิดศาลไต่สวนคดีนี้ แต่ให้พยานบุคคลรวม 17 ปาก ตามที่ผู้ถูกร้องยื่นบัญชีระบุพยาน จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 12 ก.พ.

อนาคตใหม่โต้ข้อกล่าวหา ประเด็นแรก ชี้ให้เห็นการดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน ตลอดจนแสวงหาข้อเท็จจริงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย อนค. ได้ “เปิดชื่อ” เจ้าหน้าที่ กกต. 2 รายที่เข้าให้ถ้อยคำภายใต้การสาบานตนต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนตามคำสั่ง กกต. ที่มีนายเกรียงศักดิ์ ม่วงอ่อน เป็นประธาน ว่า การกู้เงินเป็น “หนี้สิน” ไม่ใช่ “รายได้”
คือ น.ส.มณีรัตน์ อิสรัชตพล รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบบัญชีการเงินและทรัพย์สิน สำนักกิจการพรรคการเมือง และ น.ส.ญาณวรรณ อิสรา นักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการ ฝ่ายตรวจสอบบัญชีการเงินและทรัพย์สิน สำนักกิจการพรรคการเมือง
ต่อมาคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ ได้ทำความเห็นถึง กกต. ว่า “เห็นควรให้ยกคำร้อง” เพราะมองว่าเงินที่ได้จากการกู้ยืมไม่ใช่รายได้ แต่เป็นหนี้สิน จึงไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลสามารถกู้ยืมเงินได้ การที่นายธนาธรให้พรรคกู้ยืมเงิน จึงยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมืองที่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 66 ของ พ.ร.ป. ฉบับเดียวกัน
คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ อนค. ระบุว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กลับอาศัยข้อเท็จจริงจากสำนวนการสืบสวนดังกล่าว มาใช้ตั้งฐานความผิดตามมาตรา 72 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง และนำมาสู่การส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบ อนค.
ประเด็นที่สอง ยืนยันว่าพรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้และไม่มีกฎหมายห้าม โดย อนค. ได้แนบรายชื่อ 16 พรรคการเมืองที่มีการกู้ยืมเงินปรากฏในงบการเงินของพรรคการเมืองประจำปี 2562 ในจำนวนนี้มีอยู่ 4 พรรคการเมืองที่มีที่นั่งในสภา
- พรรครักษ์ผืนป่าแห่งประเทศไทย เงินยืมทดรองจ่าย 43,740 บาท
- พรรคเพื่อไทย เงินสำรองจ่ายจากกรรมการ 13 ล้านบาท
- พรรคชาติไทยพัฒนา เงินยืมทดรอง 5.05 ล้านบาท
- พรรคภูมิใจไทย เงินทดรองจ่ายจากกรรมการ 30.16 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามมีหลายพรรคการเมืองได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าเป็น “ข้อมูลเก่า” หลังนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ออกมาเปิดเผยข้อมูลในทำนองเดียวกัน
นอกจากนี้ อนค. ยังไปสำรวจการกู้ยืมเงินในระบบกฎหมายต่างประเทศ พบว่า พรรคการเมืองกู้ยืมเงินได้โดยมีเงื่อนไขต่างกัน พร้อมได้ยกตัวอย่างมา 4 ประเทศ

คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ อนค. ระบุว่า การที่พรรคการเมืองกู้ยืมเงินมิใช่การกระทำที่ผิดกฎหมายไทย และเมื่อเทียบเคียงต่อนานาอารยประเทศแล้ว ก็พบว่าการกู้ยืมเงินเป็นนิติกรรมปกติที่พรรคการเมืองสามารถกระทำได้ทั่วไป “หากระบบกฎหมายใดมุ่งห้ามพรรคการเมืองกู้ยืมเงินจะต้องมีบทบัญญัติห้ามการกระทำเช่นนั้นไว้โดยชัดแจ้ง เพื่อความแน่นอนชัดเจนแห่งนิติฐานะของพรรคการเมือง”
ประเด็นที่สาม ปฏิเสธเรื่องการ “ทำนิติกรรมอำพรางทางการบริจาค” หลัง กกต. กล่าวหาว่าการที่นายธนาธรทำสัญญากู้ยืมเงิน 2 ฉบับ รวมจำนวน 191.2 ล้านบาท เป็นการ “ให้ประโยชน์อื่นใด” แก่ อนค. ซึ่งมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท และ “ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้อง (อนค.) มีหลักประกันที่น่าเชื่อถือว่าจะชำระหนี้กู้ยืมกับดอกเบี้ยได้ตามสัญญา” อีกทั้งยังมีการทำสัญญาแก้ไขขยายเวลาชำระดอกเบี้ย
อนค. ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาพรรคได้จัดกิจกรรมหารายได้เพื่อชำระหนี้ให้แก่นายธนาธร ส่วนการแก้ไขระยะเวลาชำระดอกเบี้ยจาก “รายเดือน” เป็น “รายปี” มิได้ทำให้ดอกเบี้ยลดน้อยลงไป พร้อมอ้างว่า “เป็นไปเพื่อความสะดวกในการชำระหนี้ครั้งละเป็นเงินก้อนเท่านั้น”
พรรคการเมืองแห่งนี้ยังยืนยันด้วยว่ามี “ศักยภาพในการหารายได้เพื่อชำระหนี้เงินกู้คืนให้แก่นายธนาธร” โดยได้ยกงบการเงินของพรรคประจำปี 2561 ซึ่ง อนค. สามารถหารายได้ในระหว่างวันที่ 3 ต.ค.-31 ธ.ค. 2561 หรือนับเป็นเวลา 2 เดือน 28 วัน เป็นเงิน 71.17 ล้านบาท หาก อนค. มีเวลาหารายได้ 12 เดือน ย่อมคะเนได้ว่าพรรคมีศักยภาพในการชำระหนี้เงินกู้ เพราะนับจากต้นปี 2562 อนค. ได้รับกระแสนิยมชมชอบจากประชาชนเป็นจำนวนมาก มีประชาชนเป็นสมาชิกพรรค 70,000 คน ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคได้คะแนนรวมกันกว่า 6.33 ล้านเสียง
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ อนค. ได้นำทีม ส.ส. ของพรรคเปิดแถลงข่าวที่รัฐสภา โดยระบุว่า “ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” กับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดศาลไต่สวนคดียุบพรรค
เนื่องจากมี “เอกสารหลุด” ที่เชื่อว่าเป็นของ กกต. ออกมา โดยที่คณะกรรมการ/อนุกรรมการ 2 ชุดได้มีมติให้ “ยกคำร้อง” คดีนี้ไปแล้ว แต่ กกต. ชุดใหญ่กลับเอาผิด อนค. แสดงให้เห็นถึงการดำเนินกระบวนการพิจารณาโดยไม่ชอบด้วย พ.ร.ป.กกต. อีกทั้งไม่เคยเปิดโอกาสให้ อนค. ต่อสู้คดีในฐานความผิดตามมาตรา 72 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองแต่อย่างใด พรรคจึงขอให้ศาลเปิดไต่สวนเพื่อเรียกเอกสารเหล่านี้มาพิสูจน์ในชั้นศาล แต่น่าเสียดายที่ศาลไม่ให้โอกาส