อีลอน มัสก์ขึ้นศาลคดีหมิ่นประมาท นายอีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัทเทสลาเตรียมขึ้นศาลเพื่อให้การในคดีที่เขาถูกนายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษที่มีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการกู้ภัยถ้ำหลวงฟ้องหมิ่นประมาท กรณีที่นายมัสก์ทวีตข้อความกล่าวหานายอันสเวิร์ธว่าเป็นพวก “ใคร่เด็ก”
นายอันสเวิร์ธเป็นหนึ่งในทีมนักสำรวจถ้ำและนักดำน้ำนานาชาติที่ได้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ภารกิจช่วยเหลือนักฟุตบอลและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อเดือน ก.ค. 2561 ประสบความสำเร็จ
นายมัสก์นักธุรกิจชื่อดังระดับโลกวัย 47 ปี ทวีตข้อความกล่าวหานายอันสเวิร์ธว่าเป็นพวก “ชายผู้ใคร่เด็ก” (pedo guy) ซึ่งข้อความนี้เป็นหนึ่งในข้อความเขาเขียนโต้ตอบนายอันสเวิร์ธที่วิพากษ์วิจารณ์ความพยายามช่วยเหลือของนายมัสก์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น
นายอันสเวิร์ธเรียก “เรือดำน้ำขนาดเท่าตัวเด็ก” ที่ทีมงานของมัสก์ส่งมาช่วยเหลือภารกิจที่ถ้ำหลวง ว่าเป็นการกระทำเพื่อสร้างความสนใจ หรือ “พีอาร์สตันท์”
นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษวัย 63 ปี ผู้อาศัยอยู่ใน จ. เชียงราย ระบุด้วยว่านายมัสก์ได้ถูกขอให้ออกไปจากตัวถ้ำ และนั่นเป็นสิ่งที่สมควรแล้ว
หลังจากนั้น นายมัสก์ได้ทวีตข้อความตอบโต้นายอันสเวิร์ธว่า “…เราจะนำเรือดำน้ำขนาดเล็กนี้เข้าสู่โถง 5 โดยไม่มีปัญหา ขอโทษที คนใคร่เด็ก นายถามหามันเอง”

เมื่อมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์วิจารณ์ว่าทวีตของเขาไม่เหมาะสม นายมัสก์ตอบกลับอีกว่า “พนันด้วยแบงก์หนึ่งดอลลาร์เซ็นชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง”
ต่อมานายมัสก์ได้ลบข้อความออกไปทั้งหมด
อีลอน มัสก์ขึ้นศาลคดีหมิ่นประมาท ทนายความของนายอันสเวิร์ธกล่าวว่าข้อความที่นายมัสก์เขียนนั้น “ชั่วร้ายและเป็นเท็จ” ลูกความของเขาจึงตัดสินใจฟ้องร้องขอให้ศาลลงโทษนายมัสก์และสั่งให้จ่ายค่าเสียหาย
ไม่ได้มีแค่ข้อความในทวิตเตอร์
ข้อความในทวิตเตอร์ของนายมัสก์ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ต่อมาเขาจึงเขียนแถลงการณ์ขอโทษ
นายมัสก์บอกว่าเขียนข้อความไปด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ฟังนายอันสเวิร์ธวิจารณ์เขาโดยปราศจากข้อเท็จจริงและยังใช้ถ้อยคำทำนองว่าเขามีเพศสัมพันธ์กับเรือดำน้ำ ทั้งที่เขาสร้างเรือดำน้ำนี้ขึ้นมาด้วยเจตนาดีที่อยากจะช่วย โดยออกแบบและพัฒนาขึ้นจากข้อมูลที่ได้รับจากทีมนักดำน้ำ
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น ในอีเมลที่นายมัสก์เขียนโต้ตอบกับนายไรอัน แมค ผู้สื่อข่าวจาก Buzzfeed ที่ขอสัมภาษณ์เขาในประเด็นนี้ มีข้อความหนึ่งที่นายมัสก์เขียนว่า “หยุดปกป้องพวกนักข่มขืนเด็กเสียที”
แม้นายอันสเวิร์ธจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเฉพาะจากข้อความที่นายมัสก์เขียนในทวิตเตอร์เท่านั้น แต่ผู้พิพากษาสตีเฟน วิลสัน แห่งศาลลอสแอนเจลิส กล่าวว่าข้อความที่ปรากฏในอีเมลสามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดีได้เนื่องจากมันสะท้อนความคิดของเขาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์
ทีมทนายของนายมัสก์ยืนยันว่าฝ่ายจำเลยจะไม่ขอใช้ช่องทางเจรจาไกล่เกลี่ยนอกศาล แต่จะสู้คดีบนพื้นฐานที่ว่าข้อความว่า “ชายใคร่เด็ก” หรือ “pedo guy” นั้นไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาทนายอันสเวิร์ธว่าเป็นพวกชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก (paedophile)
“คำว่า pedo guy เป็นคำทั่วไปที่ใช้ในแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในวัยเด็ก” นายมัสก์อธิบายในคำร้องที่เขายื่นต่อศาลขอให้ไม่รับฟ้องคดีนี้ “มันมีความหมายว่า ‘ตาแก่เพี้ยน’ (creepy old man) ซึ่งเป็นคำที่ใช้เหน็บแนมคนในเชิงหน้าตาและท่าทางมากกว่า ไม่ใช่คำที่ใช้กล่าวหาใครว่าเป็นพวกใคร่เด็ก”
แต่ทีมทนายของนายอันสเวิร์ธบอกว่าคำอธิบายของนายมัสก์นั้นฟังไม่ขึ้น
นอกจากผู้พิพากษาวิลสันจะรับฟ้องแล้ว เขายังได้ปฏิเสธคำร้องของนายมัสก์ที่ขอให้ศาลระบุว่านายอันสเวิร์ธ ผู้ฟ้องคดีเป็น “บุคคลสาธารณะ” ทำให้ทีมทนายของนายอันสเวิร์ธไม่มีภาระที่จะต้องพิสูจน์ว่านายมัสก์กระทำไปด้วย “เจตนาที่ชั่วร้าย”
ทั้งนี้ ตามหลักกฎหมาย การหมิ่นประมาทที่กระทำต่อบุคคลสาธารณะนั้น หากพิสูจน์ได้ว่าผู้กระทำมิได้มีเจตนาชั่วร้าย การกระทำนั้นย่อมไม่เป็นความผิด
สำหรับกระบวนการพิจารณาคดีนั้น จะมีการตั้งคณะลูกขุนในช่วงเช้าวันนี้ (ตามเวลาไทย) และศาลจะเริ่มสืบพยานในช่วงเย็น โดยนายมัสก์จะขึ้นให้การด้วย