อู่ฮั่นโมเดล ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นนำมาสู่การยกระดับล็อกดาวน์ในวันนี้ (20 ก.ค.) กิจกรรมเศรษฐกิจบางส่วนต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย แต่ถ้าผ่านไป 14 วันแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ลด เป็นไปได้ที่จะต้องเพิ่มการคุมการระบาด โดยใช้ อู่ฮั่นโมเดล
วันนี้ (20 ก.ค.2564) เปิดแนวทาง “อู่ฮั่น โมเดล” ว่าทำอย่างไร จึงสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ย้อนกลับไปช่วงแรกของการระบาด อู่ฮั่น ประกาศล็อกดาวน์
โดยเริ่มวันที่ 23 ม.ค.2563 ทางการอู่ฮั่นแจ้งประชาชนผ่านโทรศัพท์มือถือ ในเวลา 02.00 น. ว่าจะปิดระบบขนส่งสาธารณะ คือสนามบิน สถานีรถไฟ และสถานีขนส่ง ในเวลา 10.00 น.
จากนั้นทำตามแนวทางที่กำหนด คือห้ามเข้าออกเมืองอย่างเด็ดขาด แม้แต่เรื่องส่วนตัวหรือทางการแพทย์ก็ไม่เว้น ประชาชนต้องกักตัวอย่างเข้มงวด บังคับสวมหน้ากากและเว้นระยะ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยปิดไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดเปิด ส่วนกิจกรรมร้านค้าปิดหมด เปิดได้เฉพาะขายอาหาร และร้านขายยา

เมื่อห้ามคนออกจากบ้าน บนถนนก็ต้องไม่มีรถส่วนตัวไปวิ่งยกเว้นได้รับอนุญาตพิเศษ แต่ถ้าอยู่บ้านแล้วอาหารการกินไม่เพียงพอ ทางการให้ออกจากบ้านได้คนเดียว เป็นตัวแทนเพื่อไปซื้อของจำเป็นทุกๆ 2 วัน คนอื่นๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้ออก หรือไม่ออกก็ได้ ก็สั่งให้คนมาส่ง
และระหว่างที่มีมาตรการ อู่ฮั่นเพิ่มความเข้มงวดอีก ให้เจ้าหน้าที่เคาะประตูบ้านตรวจสุขภาพ พบคนป่วยพาไปกักตัว นอกจากนี้ จะมีการคุมเข้มพื้นที่อื่นทั่วประเทศกลัวคนหนีออกจากอู่ฮั่นไปแพร่เชื้อ ตึก อาคาร เจ้าหน้าที่จะตรวจเข้ม วัดอุณหภูมิเข้า – ออก
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการประกาศล็อกดาวน์เข้มของ อู่ฮั่น กระทบกับประชาชน 11 ล้านคน การคุมโรคแลกมาด้วยความอดทนของประชาชนไม่น้อย อู่ฮั่นทำแบบนี้ไปจนวันที่ วันที่ 8 เม.ย. 2563 ยกเลิกล็อกดาวน์ ชาวบ้านเฉลิมฉลอง อิสรภาพจากการถูกล็อกดาวน์นาน 76 วัน
ด้านนายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานเเละเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน เปิดเผยว่า คำว่า “อู่ฮั่น โมเดล” คงเป็นเพียงสื่อที่จะใช้ในการบอกว่าจะเพิ่มระดับของความเข้มข้นในการล็อกดาวน์ หรืออะไรก็ตาม ถ้าถามว่าจะทำได้แบบที่เมืองจีนทำมั้ย คิดว่าเราอาจจะทำไม่ได้ด้วยข้อจำกัดบางประการ ยกตัวอย่างเช่น ระดับของวินัย ความเข้มงวดในการดำเนินการ คือคนบ้านเราจะต้องใช้คำว่ารักอิสระเสรีภาพ
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือว่ามันอาจจะเป็น จะเรียกว่าวัฒนธรรมบางส่วนก็ได้ หรืออาจจะบอกว่ามันเป็นระบบ แม้กระทั่งมิติด้านเทคโนโลยีที่บ้านเราอาจจะไม่มี พอเขาไปเช็กในแต่ละจุด แต่ละจุดก็มีหน้าที่ในการทำรายงานว่ามีห้องไหนมั้ย ออกมา ใครออกมาบ้าง เช่นระยะแรกๆ เขาไปไกลถึงขนาดบอกว่าล็อกดาวน์แทบจะสนิทเลย
ทั้งนี้ การจัดการการระบาดของโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญด้านสาธารณสุข เเต่ถ้าเข้มมากๆ ก็เเลกมาด้วยความเสียหายทางเศรษฐกิจ นี่เป็นโจทย์ที่ใหญ่สำหรับรัฐบาลว่าจะจัดการอย่างไรไม่ให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เเย่ไปกว่านี้
มาตรการล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่น
- รัฐบาลจีนเริ่มต้นใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดเมืองอู่ฮั่น ในวันที่ 24 มกราคม ปี 2563 โดยให้ประชากรทั่วทั้งเมืองกว่า 11 ล้านคน กักตัวอยู่ภายในบ้าน โดยอนุญาตให้ออกจากบ้านได้ 1 ครั้งในทุกๆ 3 วัน หรือเฉพาะในกรณีจำเป็น เช่น ซื้ออาหาร ยาและสิ่งของจำเป็น
- สั่งระงับการคมนาคมขนส่ง รวมถึงรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ เครื่องบิน และปิดทางหลวงทั่วเมืองอู่ฮั่น
- ตั้งด่านตรวจเข้าออกเมือง และจำกัดการเดินทางระหว่างเมือง
- ปิดสำนักงาน โรงงานและสถานประกอบธุรกิจต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็น และให้พนักงานทำงานที่บ้าน
- ปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั้งหมด ให้นักเรียนและนักศึกษา เรียนหนังสือผ่านทางออนไลน์
- บังคับให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลหรือ Social Distancing

ระดมตรวจเชื้อและให้การสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์
- เร่งสร้างโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
- อำนวยความสะดวกแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่รับมือและควบคุมการระบาด โดยจัดส่งอาหารให้ฟรี
- ระดมตรวจเชื้อประชาชนจำนวนมาก พร้อมทั้งเร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง
- หากพบผู้ติดเชื้อในอาคารพักอาศัย ให้ผู้อาศัยภายในอาคารทั้งหมดกักตัวเต็มรูปแบบ โดยห้ามออกจากที่พักแต่จะมีอาหารและสิ่งของจำเป็นส่งให้ถึงที่พัก
โดยทางการจีน บังคับใช้มาตรการเหล่านี้ จนกระทั่งมั่นใจว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงมาอยู่ในระดับที่รับมือได้ ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการและกลับมาเปิดเมืองได้ใหม่อีกครั้งในช่วงต้นเดือนเมษายน
เมืองอู่ฮั่น อยู่ที่มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน เป็นเมืองแรกๆ ที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก ในช่วงนั้นได้รับคำชมจากหลายประเทศ ถึงกรณีการยับยั้งการแพร่ระบาดภายใน 76 วัน

เมื่อปลายปี 2019 จีนรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกๆ ที่มีส่วนเกี่ยวโยงกับตลาดสดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ส่งผลให้เมืองอู่ฮั่นกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 แห่งแรกของโลก จีนสั่งล็อกดาวน์อู่ฮั่นแบบเข้มงวดทันที ทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น มาตรการควบคุมล็อกดาวน์ของอู่ฮั่นได้กลายเป็นโมเดลที่หลายประเทศนำไปใช้ รวมไปถึงประเทศไทยเพื่อควบคุมการระบาดระลอกใหม่
หลังจากนั้นมาตรการเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม เจ้าหน้าที่ได้เคาะประตูตามบ้านเพื่อตรวจสุขภาพเชิงรุกให้ประชาชน หากใครป่วยจะต้องเข้ารับการกักตัวโดยทันที
ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จะถูกส่งจากโรงพยาบาลตรงไปยังศูนย์จัดฌาปนกิจ ไม่มีการจัดงานศพ และญาติผู้เสียชีวิตสามารถมารับเถ้ากระดูกเพื่อประกอบพิธีได้ในภายหลัง ระหว่างล็อกดาวน์ก็มีการระดมตรวจหาเชื้อ กันคนติดเชื้อออกมา โรงพยาบาลสนามถูกสร้างขึ้นในเวลาอันรวดเร็วหลังจากตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นาน 11 สัปดาห์หรือ 3 เดือน อู่ฮั่นกลับมาเปิดเมืองอีกครั้งในวันที่ 8 เมษายน 2020 โดยสองสัปดาห์ก่อนเปิดเมืองอู่ฮั่นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 2 รายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้จะพบผู้ติดเชื้อเพียงหลักหน่วย แต่อู่ฮั่นก็ไม่ชะล่าใจ ประกาศโครงการที่ชื่อว่า “10 Days of Battle” หรือแปลเป็นไทยว่า 10 วันแห่งการต่อสู้ ซึ่งเป็นโครงการที่อู่ฮั่นตั้งเป้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ชาวอู่ฮั่นทั้งหมดราว 11 ล้านคนภายใน 10 วัน