เมลินดา ภรรยาบิลเกตส์ ตามประวัติ ทั้งบิล และเมลินดา เกตส์ ต่างทำงานที่ไมโครซอฟท์ จากฝ่ายหญิงที่เป็นผู้จัดการทั่วไป ทั้งสองได้พบกันที่งานเลี้ยงอาหารค่ำสำหรับพนักงานของไมโครซอฟท์ในปี 1987 ก่อนที่บิล เกตส์จะใช้เวลาไม่กี่เดือนขอเมลินดาออกเดท
เมลินดาเคยเมาท์สามีว่า บิล เกตส์ ลงมือเขียนข้อดีข้อเสียบนกระดานดำ ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานกันในปี 1994 ที่ฮาวาย
เมลินดา ภรรยาบิลเกตส์ ประวัติ
เมลินดา แอนน์ เฟรนช์ ภายหลังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เมลินดา เฟรนช์ เกตส์ (Melinda French Gates) เป็นนักธุรกิจหญิงชาวอเมริกัน เธอเป็นภรรยาของ บิล เกตส์ รวมถึงเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นประธานร่วมของมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ตลอดจนเป็นอดีตผู้จัดการหน่วยในหลายแผนกผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ อาทิ พับลิชเชอร์, ไมโครซอฟท์ บ็อบ, เอนคาร์ตา และ เอ็กซ์พีเดีย

เธอเกิดที่ แดลลัส รัฐเท็กซัส โดยมีบิดาคือ เรมอนด์ โจเซฟ เฟรนช์ จูเนียร์ ผู้เป็นวิศวกร และมีมารดาชื่อ เอเลน แอ็กเนส เอเมอร์แลนด์ ซึ่งเป็นแม่บ้าน เมลินดาได้รับการเลี้ยงดูแบบโรมันคาทอลิก และเข้าศึกษาที่โรงเรียนคาทอลิกเซนต์โมนิกา ที่ซึ่งเธอเป็นนักเรียนระดับท็อปของชั้นเรียน เธอสำเร็จการศึกษาและเป็นผู้แทนนักเรียนกล่าวสุนทรพจน์ในวันรับประกาศนียบัตรจากสถาบันอุร์สุลินแห่งแดลลัส ใน ค.ศ. 1982 เมลินดาได้รับปริญญาตรีในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์และเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยดุ๊กใน ค.ศ. 1986 และได้รับวุฒิเอ็มบีเอจากโรงเรียนธุรกิจฟูควาของมหาวิทยาลัยดุ๊กใน ค.ศ. 1987 ที่ซึ่งเธอเป็นสมาชิกของสมาคมสตรีแคปปาแอลฟาทีตา
หลังจากนั้นไม่นาน เธอได้เข้าร่วมงานกับไมโครซอฟท์ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มัลติมีเดียของไมโครซอฟท์หลายรายการ ซึ่งรวมถึง พับลิชเชอร์, ไมโครซอฟท์ บ็อบ, เอนคาร์ตา และ เอ็กซ์พีเดีย
การเข้ามาทำงานใน Microsoft ทำให้เธอได้พบกับบิล เกตส์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำของบริษัทก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจแต่งงานและสร้างครอบครัวด้วยกัน เธอจึงลาออกจากงานในปี 1996

นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการมหาวิทยาลัยดุ๊กในปี 1996 ถึง 2003 และดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท The Washington Post ตั้งแต่ปี 2004 ทั้งยังอยู่ในคณะกรรมการบริการของ Drugstore.com ก่อนที่จะออกไปในปี 2006 เพื่อมุ่งเน้นไปที่โครงการการกุศล
ในปี 2000 เธอและอดีตสามีร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิ Bill & Melinda Gates ซึ่งเป็นมูลนิธิเอกชนหรือส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อปรับปรุงการบริหารสุขภาพและลดความยากจนทั่วโลกรวมทั้งขยายโอกาสการศึกษาและการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ
นอกจากนี้ในปี 2015 เธอยังได้ก่อตั้ง Pivotal Ventures องค์กรอิสระที่มุ่งเน้นการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อไปสตรีและครอบครัวในสหรัฐ
“ในที่สุดโลกก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงที่ว่าไม่มีพวกเราสักคนที่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เมื่อครึ่งหนึ่งของพวกเราถูกรั้งไว้ ข้อมูลชัดเจนว่าผู้หญิงมีอำนาจสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้” เธอเขียนในบันทึกเกี่ยวกับหนังสือของเธอ
คารา สไวเชอร์ (Kara Swisher) นักข่าวด้านเทคนิคทวีตว่าเธอเห็นมีมตลกๆ มากมายเกี่ยวกับแมคเคนซี สก็อต (MacKenzie Scott) และเมลินดา เกตส์ไปเที่ยวทริปไกลๆ ด้วยกัน (หมายความว่าทั้งคู่หย่าจากสามีรวยๆ แล้วใช้ชีวิตสบายๆ ได้ทั้งชาติ)
ในขณะที่เธอให้ความสำคัญกับสิทธิและความเท่าเทียมของสตรีมาโดยตลอด โดยเธอยังเขียนหนังสือเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในชื่อ “The Moment of Lift: How Empowering Women Changes the World” ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความล้มเหลวในการยอมรับงานที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนของผู้หญิง
ประสบการณ์ทำงานของเธอในสถานที่ทำงานที่มีชายเป็นใหญ่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอสนับสนุนผู้หญิงในสาขาคอมพิวเตอร์มากขึ้น โดยในปี 2016 เธอประกาศจุดยืนว่าต้องการเพิ่มความหลากหลายในที่ทำงานโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
นอกจากนี้จดหมายประจำปี 2016 จากมูลนิธิ Bill & Melinda Gates เธอระบุไว้ว่าผู้หญิงควรใช้เวลาไปกับงานที่ได้รับค่าตอบแทน เริ่มต้นธุรกิจ หรือสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีทางเศรษฐกิจของสังคมทั่วโลก

ล เกตส์ อาจเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จที่สุดบนโลกใบนี้ แต่เมลินดา เคยโพสต์เล่าในเฟซบุ๊กเมื่อปี 2558 ว่า เธอไม่ค่อยตื่นเต้น หรือประทับใจเจ้าพ่อไมโครซอฟท์สักเท่าไร ตอนที่เขาชวนเธอออกเดทครั้งแรก
“เมื่อบิลชวนฉันออกเดทครั้งแรก เขาบอกฉันว่า ผมกำลังคิดว่าเราน่าจะออกเดทด้วยกันอีก 2 สัปดาห์นับจากคืนนี้ ฉันเลยบอกกับเขาไปว่า คุณดูไม่เป็นธรรมชาติพอสำหรับฉัน”
เมลินดาเล่าว่า “อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา เขาโทรหาฉันแล้วบอกว่า เราไปเดทกันคืนนั้นเลย แล้วยังถามฉันด้วยว่า นี่เป็นธรรมชาติพอสำหรับคุณหรือยัง?”
เมลินดา เคยเล่าในหนังสารคดี Inside Bill’s Brain ที่ออกอากาศทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อปี 2562 ว่าเธอเคยเดินเข้าไปเห็น บิลเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับ “ข้อดี -ข้อเสีย” ว่าเขาควรจะแต่งงานกับเธอดีหรือไม่ ซึ่งบิล เกตส์ อธิบายถึงเรื่องนี้ในหนังสารคดีนี้ว่า “ผมคิดจริงจังเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานมาก เราทั้งคู่ต่างแคร์กันมาก และมีความเป็นไปได้อยู่แค่ 2 ทางเท่านั้น คือเราจะเลิกกัน หรือ แต่งงานกัน”