Skip to content
Home » News » เมืองร้าง เชอร์โนบีล

เมืองร้าง เชอร์โนบีล

เมืองร้าง เชอร์โนบีล 26 เมษายน 2529 เป็นอีกวันแสนเศร้าที่โลกต้องจดจำ โรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ เชอร์โนบิล (Chernobyl nuclear power plant) เกิดการระเบิดขึ้น และถือได้ว่าเป็นอุบัติภัยของโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติคือ ความรุนแรงระดับ 7 ซึ่งเป็นความรุนแรงสูงสุด

และเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดในรอบ 56 ปีตั้งแต่มีการก่อตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นมาในโลกนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ตั้งอยู่ที่เมืองพรีเพียต ภายใต้การปกครองของประเทศสหภาพโซเวียต ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของประเทศยูเครน เหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้นเกิดจากเตาปฏิกรณ์ 1 ใน 4 เตาของโรงไฟฟ้าเกิดไฟไหม้นานถึง 9 วัน

หลังทดลองเดินเครื่อง มีผู้เสียชีวิตทันที 47 ราย พื้นที่ในรัศมี 30 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้า เชอร์โนบิล ถูกประกาศให้เป็นเขตอันตราย และต่อมาเพียง 1 ปี มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 4,000 คน

ความน่ากลัวเกิดขึ้นหลังจากนั้น เพราะการระเบิดได้ปลดปล่อยสารกัมมันตรังสีมากกว่าระเบิดปรมาณูที่สหรัฐอเมริกาถล่มเมืองฮิโรชิมาและนาซากิ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 100 เท่า (ราว 6 ตัน) ไม่นับรวมคนนับพันที่เป็นมะเร็งและเสียชีวิตในอีกหลายปีต่อมา

การระเบิดครั้งนั้นทำให้เกิดการรั่วไหลของสารซีเซียม-137  ได้ตกค้างอยู่ในระบบนิเวศ  มีรายงานว่าในรัศมี 30 กิโลเมตร ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 5-8 ล้านคน กลายเป็นเขตปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีเข้มข้น และแพร่กระจายไปอีก 14 ประเทศแถบยุโรป ไกลถึง ออสเตรีย สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ ซึ่งมีการตรวจพบสารปนเปื้อนทั้งในพืชพรรณ ธรรมชาติ ในเนื้อสัตว์ และนมวัว

ช่วง 3-5 ปีแรก หลังการระเบิด  พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เนื่องจากได้รับสารปนเปื้อนไอโอดีน-131 ที่แฝงมากับนมวัว จากวัวที่กินหญ้าปนเปื้อนสารดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2535 เด็กๆ ในยูเครนป่วยเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 7 เท่า

เมืองร้าง เชอร์โนบีล
https://travel.trueid.net/detail/x4kbOVVbw8VE

เมืองร้าง เชอร์โนบีล มีรายงานว่าแม้เหตุการณ์จะผ่านมานานร่วม 30 ปี แต่กัมมันตภาพรังสีของซีเซียม-137 ยังตกค้างอยู่ในปริมาณเกือบจะเท่าเดิม และนั่นก็ได้หักล้างความรู้เดิมที่ระบุว่าครึ่งชีวิตของมันเท่ากับ 30 ปี แต่ความจริงแล้วเมื่อมันถูกปล่อยไปอยู่ในสภาพแวดล้อม ครึ่งชีวิตของมันกลับยาวนานถึง 180 – 320 ปีเลยทีเดียว

สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซียรายงานว่า นับถึงปี 2553 มีคนอย่างน้อย 140,000 ราย ในยูเครน และเบลารุส รวมทั้งอีก 60,000 รายในรัสเซียเสียชีวิตจากโรคที่เป็นผลพวงจากการได้รับสารปนเปื้อนจากการระเบิดครั้งนี้ และกรีนพีซ องค์กรเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม เคยออกมาแสดงความเห็นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2553 ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่คนทั่วโลกรับรู้นั้นอาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตเนื่องจากการปนเปื้อนจากสารซีเซียม-137 ธจะยังตกค้างในสิ่งแวดล้อมไปอีก 100 ปีทีเดียว

เหตุการณ์ระเบิดของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลเกือบจะถูกลืมเลือนไปแล้ว แต่คนรุ่นใหม่ได้รู้จักกันอีกครั้งเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2554  เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และคลื่นสึนามิถล่มญี่ปุ่น ส่งผลให้เตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะได้รับความเสียหายและมีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมา

แม้ว่าความร้ายแรงและความเข้มข้นของสารซีเซียม-137 ที่ปล่อยออกมานั้นจะรุนแรงน้อยกว่าเหตุการณ์เชอร์โนบิล อันเนื่องจากโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ที่ชายฝั่งมีกระแสน้ำช่วยพัดลงไปละลายในมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ทำให้สารเจือจางลงไปมากกว่า แต่ยังต้องมีการติดตามและศึกษาเพื่อให้แน่ใจว่ามันรุนแรงน้อยกว่าจริงหรือไม่ เพราะบทเรียนจาก เชอร์โนบิล เห็นได้ชัดเจนว่าผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสีไม่ได้ยุติลงหลังจากเหตุการณ์สงบแต่อย่างใด

ปัจจุบัน 1.ม.ค.2016 (วันที่ประมาณการ) เชอร์โนบิล ได้เปลี่ยนสภาพจากเมืองร้างเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะชาวยูเครนเองรู้ซึ้งกับความเจ็บปวดของสถานที่นี้เป็นอย่างดี ทว่าก็ไม่มีใครการันตีได้ว่าเมื่อกลับออกมาจากเขตเชอร์โนบิลแล้วจะได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตภาพรังสีกลับไปด้วยหรือไม่

ซีรีย์ทางโทรทัศน์ HBO / Sky นำเหตุการณ์น่ากลัวเหล่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งเป็นที่โด่งดังและประสบความสำเร็จจากเวทีประกวด การสร้างเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ขึ้นครั้งใหม่ครั้งนี้ ทำให้สายตาของผู้คนหันกลับไปมองภูมิภาคทางตอนเหนือของยูเครนมากขึ้น แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับการเข้าไปในพื้นที่ปนเปื้อนรังสี แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเดินชมซากปรักหักพังที่น่าขนลุกของเชอร์โนบิลและบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ที่ได้รับอนุญาตเข้าไปในเขตยกเว้น ในระยะ 30 กิโลเมตรรอบ ๆ

เชอร์โนบิลทัวร์ได้ก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท Sergii Mirnyi อดีตพนักงานฉุกเฉินที่เข้าร่วมในการทำความสะอาดหลังภัยพิบัติ นอกจากนั้นยังมีบริษัทอื่น ๆ ที่มีทัวร์ในแบบเดียวกัน ได้แก่ SoloEast และ Chernobyl Welcome

การเยี่ยมชมเชอร์โนบิลส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางแบบไปเช้าเย็น กลับเริ่มจากเมือง Kyiv เขตป้องกันนั้นอยู่ทางเหนือของเมืองหลวงยูเครน 2 ชั่วโมง การเดินทางทั้งหมดจึงอยู่ที่ประมาณ 12 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่มีเวลามากกว่านี้ ยังมีทัวร์หลายวันพร้อมตัวเลือกพักค้างคืนในเมือง Chornobyl

เขตอันตราย ประกอบด้วยศูนย์รวมเครื่องปฏิกรณ์ ที่รวมถึงเตาปฏิกรณ์หมายเลขสี่ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งใหญ่ ทัวร์พาคุณไปยังฐานเรดาร์ลับสุดยอดในอดีต นอกเหนือจากอาคารร้างอื่น ๆ ที่เคยใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร หมู่บ้านที่ว่างเปล่าหลายแห่งเป็นสถานที่ที่น่าหดหู่ที่สุด ทั้งบ้านที่ถูกปล่อยทิ้งร้างและโรงเรียนที่ไร้ชีวิต ยังมีร่องรอยของมีค่ารวมถึงของเล่นของเด็ก ๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่ว

สถานที่ที่น่าสะพรึงที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุด คือ Pripyat สร้างขึ้นในปี 1970 เพื่อใช้เป็นที่พักสำหรับพนักงานที่อยู่ติดกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่อยู่ติดกัน สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ถูกทิ้งร้างทำให้มันมีลักษณะคล้ายกับที่ตั้งของภาพยนตร์โลกอนาคต เมืองร้างแห่งนี้เป็นความฝันของช่างภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามกีฬาที่ผุพังและสวนสนุกที่ขึ้นสนิม

https://travel.trueid.net/detail/x4kbOVVbw8VE

ผู้ประกอบการทัวร์ยืนยันว่า พวกเขาหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ปนเปื้อนอย่างรุนแรง และจำกัดเวลาในการเยี่ยมชม เชอร์โนบิลทัวร์อ้างบนเว็บไซต์ว่า “ปริมาณรังสีทั้งหมดที่ได้รับระหว่างการเข้าชมสิบชั่วโมงในเชอร์โนบิล นั้นน้อยกว่าปริมาณที่ได้รับระหว่างการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกหลายเท่า”

ตลอดการเดินชม คุณจะได้รับการเตือนซ้ำ ๆ ว่าอย่าเดินเข้าไปในพื้นที่ป่าและไม่กินเห็ดในท้องถิ่น เป็นเรื่องน่าสังเกตว่าไซต์ที่เข้าชมนั้นถูกทิ้งร้างมานานหลายทศวรรษและยังคงเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ระมัดระวังช่องว่างหรือคานของอาคารที่อาจบุยหรือถล่มลงได้ทุกเมื่อ นอกเหนือจากนั้นยังมีการสแกนหารังสีเมื่อคุณผ่านเข้าและออกจากเขตอันตรายอย่างจริงจัง