แจ็ก หม่า อำลาอาลีบาบา แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba เว็บไซต์ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลก เพิ่งก้าวลงจากตำแหน่ง ประธานกรรมการ บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดปีที่ 55 ของเขา เหลือเพียงตำแหน่งกรรมการในบริษัทเท่านั้น โดยส่งไม้ต่อให้กับ เดเนียล จาง หัวหน้าทีม Ant Financial เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง CEO ประธานกรรมการบริหาร อาลีบาบา กรุ๊ป แทน
ไแจ็ก หม่า อำลาอาลีบาบา ไม่ง่ายนักที่มหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จอย่าง แจ็ค หม่า จะตัดสินใจปล่อยวางธุรกิจทั้งหมดที่เขาสร้างตั้งมากับมือด้วยความยากลำบากให้กับคนอื่น ในยามที่บริษัทกำลังประสบความสำเร็จสูงสุด แต่ แจ็ค หม่า ก็ได้ตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว
จากครูสอนภาษาอังกฤษที่ยากจน แจ็ค หม่า ร่วมกับเพื่อนอีก 18 คน ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ Alibaba ในอพาร์ตเมนต์เมื่อปี 1999 ด้วยเงินทุนเพียง 60,000 ดอลลาร์ ที่เมืองหางโจว วันนี้
แจ็ก หม่า อำลาอาลีบาบา
อาลีบาบากรุ๊ป มีมูลค่า 460,000 ล้านดอลลาร์ 14 ล้านล้านบาท แจ็ค หม่า เองก็มีความมั่งคั่งถึง 41,000 ล้านดอลลาร์ 1.27 ล้านล้านบาท ติดทำเนียบมหาเศรษฐีโลกอันดับที่ 21 และก่อนที่เขาจะตัดสินใจประกาศอำลาอาลีบาบา กรุ๊ป เมื่อปีที่แล้ว แจ็ค หม่า ได้สมัครเข้าเป็น สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน เช่นเดียวกับ เหริน เจิ้ง เฟย ผู้ก่อตั้ง หัวเหว่ย ที่เป็นชนวนสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ
จากเว็บไซต์อาลีบาบา แจ็ค หม่า ได้ต่อยอดไปธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจเทคโนโลยีอื่นอีกมากมาย เช่น เถาเป่า แพลตฟอร์มช็อปปิ้งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่สามารถเข้าไปขายสินค้าเองได้ อาลีเพย์ แพลตฟอร์มการชำระเงินยักษ์ใหญ่ของจีนโดยใช้คิวอาร์โค้ด Tmall แพลตฟอร์มการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างประเทศที่มีสินค้าไทยไปขายมากมาย ไปจนถึง Ant Financial ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจร และที่ฮือฮาไปทั่วโลกก็คือ มหกรรมขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ใน “วันคนโสด” เทศกาล 11/11 งานช็อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีของจีน ยอดของปีล่าสุด 2018 สูงถึง 30,800 ล้านดอลลาร์ 954,800 ล้านบาท ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
เมื่อ แจ็ค หม่า ลาออกจากอาลีบาบาแล้ว เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า จะนำทรัพย์สินจำนวนมหาศาลของเขาไปทำ โครงการด้านการศึกษา ซึ่งเป็น “รักแรกพบ” ของเขา เช่นเดียวกับมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก บิล เกตส์ ที่มีความมั่งคั่ง 103,900 ล้านดอลลาร์ 3.22 ล้านล้านบาท ที่อุทิศความมั่งคั่งไปเพื่อองค์กรการกุศลต่างๆที่เขาตั้งขึ้น
แจ็ค หม่า ไม่เพียงเป็นมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ยังเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม เขามักมีข้อคิดดีๆให้กับคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ เช่น “อย่าคิดจะยอมแพ้อะไรง่ายๆ แม้ว่าวันนี้จะโหดร้าย แต่จำไว้ว่าวันพรุ่งนี้จะโหดร้ายยิ่งกว่า แต่ถ้าผ่านมันไปได้ก็เป็นวันที่สดใส, คุณควรเรียนรู้จากคู่แข่งของคุณ แต่อย่าไปเลียนแบบ หากคุณเลียนแบบคุณจบ”
เดือนที่แล้ว แจ็ค หม่า เพิ่งไปแสดงความคิดเห็นใน world Artificial intelligence Conference ที่นครเซี่ยงไฮ้กับ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งรถยนต์ไฟฟ้าเทสลาและไฮเปอร์ลูป แจ็ค หม่า เชื่อว่า Al หรือ ปัญญาประดิษฐ์ จะไม่เป็นศัตรูกับมนุษยชาติในอนาคต แต่เอไอจะช่วยมนุษย์ทำงานต่างๆได้ง่ายดายมากขึ้น คอมพิวเตอร์มีแค่ชิป แต่มนุษย์มีหัวใจ แต่ อีลอน มัสก์ เชื่อว่า เอไอจะเข้ามาแย่งงานมนุษย์ เอไอจะมีความล้ำหน้ามนุษย์ไปเรื่อยๆ จนพวกเราถูกทิ้งห่างไปอย่างมากในอนาคต เป็นไปได้ว่าอาชีพสุดท้ายบนโลกมนุษย์ ก็คือ คนเขียนซอฟต์แวร์เอไอ ก็จะถูกเอไอแย่งอาชีพไปด้วย เพราะในอนาคตเอไอจะฉลาดขึ้นเรื่อยๆจนสามารถเขียนซอฟต์แวร์ได้เอง
แม้ว่า การศึกษาของประเทศจีน ในวันนี้จะก้าวล้ำนำโลก นำหน้าประเทศไทยไปไม่รู้กี่โยชน์ แต่ แจ็ค หม่า ยังมองว่า ระบบการศึกษาจีนในปัจจุบันล้าหลังมาก ในอนาคตวันหนึ่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะสามารถเอาชนะมนุษย์ได้ ระบบการศึกษาในอนาคต จึงจำเป็นต้องช่วยให้ประชาชนมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เขาจึงหันมาทุ่มเทเรื่องการศึกษา
ผมก็เก็บมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะมีมหาเศรษฐีไทยใจบุญ มีความคิดแบบเดียวกับ แจ็ค หม่า และ บิล เกตส์ บ้าง อุทิศความร่ำรวยเพื่อประเทศชาติและมนุษยชาติ
