แม่เอ็กซ์ รับคำตัดสินศาล บอกผลจะออกมาเป็นอย่างไร ลูกชายของตนก็ไม่ฟื้นขึ้นมา ชมหมอนิ่มดูแลหลานทั้ง 2 คนดีมาก เผยเพิ่งเจอหน้าหลานในรอบ 5 ปี ไม่ขอยื่นฎีกาอโหสิให้ตั้งนานแล้ว
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 7 ส.ค. ที่ห้องพิจารณา 203 ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ ศาลนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีจ้างวานฆ่าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักยิงปืนทีมชาติ หมายเลขดำ อ.383/57 ที่อัยการศาลจังหวัดมีนบุรี
เป็นโจทก์ฟ้อง นายจีรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 47 ปี มือปืน, นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 76 ปี มารดาหมอนิ่ม, พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 42 ปี, นายสันติ หรืออิ๊ด ทองเสม อายุ 32 ปี ทนายความ และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 35 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ เป็นจำเลย 1-5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 40 ปี อดีตภรรยาของเอ็กซ์
และนายสันติ หรือทนายอี๊ด ทองเสม อายุ 30 ปี ในข้อหาจ้างวานฆ่า พร้อมพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 47 ปี มือปืน และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 35 ปี ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ให้มือปืน
โดยในวันนี้ พญ.นิธิวดี พร้อมด้วยนางสุรางค์ มารดาเดินทางมาศาล เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัว นายจีรศักดิ์ เเละนายธวัชชัย มือปืน เเละคนขับขี่จักรยานยนต์ มาจากเรือนจำ และออกหมายจับ นายสันติ หรือทนายอี๊ด แล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี
ส่วนคำตัดสิน ศาลอุทธรณ์ มีพิพากษาแก้ให้ ยกฟ้อง พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม โดยให้เหตุผลว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้น ยังมีความรักต่อกัน เพราะพญ.นิธิวดี และจักรกฤษณ์ ยังไปมาหาสู่กัน มีเพศสัมพันธ์กัน และยังรักกันอยู่ ตอนติดคุกยังพาลูกไปหา
ขณะที่นายจักรกฤษณ์ ถูกยิงพญ.นิธิวดี ก็เป็นคนปั๊มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิต ไม่มีได้ท่าทีโกรธแค้นกันแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุจูงใจให้จ้างงานฆ่า
นางสุรางค์ ดวงจินดา แม่ของ พญ.นิธิวดี ผู้ว่าจ้างยิงนายจักรกฤษณ์ ศาลพิพากษา ให้ประหารชีวิต แต่จำเลยรับสารภารลดโทษ 1 ใน 3 ให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต โดยให้สาเหตุ ว่า นางสุรางค์นั้นมีความโกรธแค้นที่จักรกฤษณ์ทำร้ายพญ.นิธิวดีลูกสาว และหลาน จนทำให้แท้งลูก และเชื่อว่านายจักรกฤษณ์ ไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้
ถึงแม้จะเข้ามาขอขมานางสุรางค์แล้วก็ตาม จึงเป็นเหตุจูงใจให้สั่งมือปืนยิงนายจักรกฤษณ์จนเสียชีวิต
ส่วนนายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 47 ปี มือปืน และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 35 ปี ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ให้มือปืน ศาลพิพากษา ให้ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุกตลอดชีวิต และจำเลยที่ 1, 2, 4, 5 จะต้องชดใช้ ค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 2 ล้าน 5 แสนบาท
ด้าน นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความส่วนตัวของ พญ.นิธิวดี กล่าวว่า หลักจากศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้วนั้นให้นางสุรางค์จำคุกตลอดชีวิต ทางด้านทนายเตรียมยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท หรือแล้วแต่ว่าทางผู้พิพากษาจะประกันตัวในวงเงินเท่าไหร่ และต่อจากนี้จะมีการยื่นฎีกา
ส่วนพญ.นิธิวดีนั้น มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องอยู่ที่ว่าทางโจทย์ และโจทย์ร่วมจะฎีกาหรือไม่ แต่ชนะคดี คือศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง ส่วนความรู้สึกของพญ.นิธิวดีนั้น ตนพูดคุยบ้าง ซึ่งทราบว่ามีความกังวลเพราะไม่ทราบว่าคำพิพากษาจะเป็นอย่างไร
แม่เอ็กซ์ รับคำตัดสินศาล นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดาของ นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า หลังจากฟังผลคำพิพากษาแล้ว จะออกมาอย่างไรก็ตาม ตนยอมรับได้ เนื่องจากผลจะออกมาเป็นอย่างไร ลูกชายของตนก็ไม่ฟื้นขึ้นมา
เมื่อผลพิพากษาออกมาว่ามีการ ยกฟ้องพญ.นิธิวดีนั้น ตนก็รู้สึกสบายใจ ที่หลานทั้ง 2 ของตนมีคนดูแล เนื่องจากพญ.นิธิวดีเลี้ยงหลานของอย่างดี ส่งให้เรียนโรงเรียนดีๆ ซึ่งเดือนก่อนที่ผ่านมา ตนมีโอกาสเจอหลานทั้ง 2 คน ในรอบ 5 ปี ตนเห็นหลานสุขสบายดีและดีใจมาก โดยหลังจากนี้ตนอาจจะไม่มีการยื่นฎีกาในส่วนของพญ.นิธิวดี เนื่องจากแม่ได้อโหสิกรรมให้ตั้งนานแล้ว
นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม แม่ของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เปิดเผยว่า ผลตัดสินในวันนี้เป็นผลดีต่อหลานที่กำลังโต เพราะหมอนิ่มเป็นคนเลี้ยงหลานซึ่งก็ทำได้ดี ทั้งส่งให้ทำกิจกรรมรวมถึงส่งเรียน
โดยหากหลานมาอยู่กับตนก็คงไม่มีโอกาสขนาดนั้น เพราะไม่มีเงิน ส่วนหลังจากนี้จะยื่นฎีกาหรือไม่ ตนก็ยังตอบไม่ได้ ซึ่งขณะเกิดเหตุตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเอง โดยตนเองสนใจประเด็นหลักคือหลานเท่านั้น
ในวันนี้ตอนที่ไปศาล ตนได้พูดคุยกับแม่หมอนิ่ม ซึ่งตนได้ซื้อขนมฝากไปให้หลาน ส่วนหมอนิ่มเมื่อเห็นหน้าตนก็ทักทายสวัสดีแต่ไม่ได้พูดคุยใดๆ กัน จากนั้นหลังตัดสินก็ไม่ได้คุยกับทั้ง 2 คน แต่ก็เป็นห่วงแม่หมอนิ่มที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เพราะท่านแก่แล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง
ดยที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับแม่หมอนิ่มมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องหลาน ไม่มีการคุยเรื่องคดีความ แต่ช่วงประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์จึงไม่ได้ติดต่อกัน จากนั้นเมื่อไปเจอที่ศาลจึงได้ขอเบอร์ติดต่อใหม่
และได้นัดไปเจอหลานครั้งแรกในรอบ 1 ปี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยแม่หมอนิ่มพาหลานไปตีกอล์ฟ และชวนตน ตนจึงไปหาหลาน ซึ่งก็ดีใจมากที่ได้เจอหลาน แต่ในวันดังกล่าวหมอนิ่มไม่ได้ไปด้วย
ทั้งนี้ นางบุญคิด ยืนยัน ว่าตนอโหสิกรรมให้กับคนที่ก่อเหตุตั้งแต่แรกแล้ว เพราะไม่อยากโกรธแค้นใคร เนื่องจากลูกตนก็เสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีทางกลับมา ส่วนของหลาน หลังจากนี้ก็ต้องรอคนประสานเพื่อจะได้เจอกันอีกครั้ง แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งตนก็เป็นห่วงหลานคนโต หากแม่หมอนิ่มติดคุก เพราะเจ้าตัวติดแม่หมอนิ่มมาก
นอกจากนี้ ในประเด็นเรื่องคำพิพากษาที่บอกว่าลูกตนทำร้ายหมอนิ่มจนแท้ง ประกอบเรื่องพาผู้หญิงเข้ามาในบ้าน ที่ผ่านมาตนไม่เคยเข้าข้างลูก ซึ่งตนก็รับไม่ได้ถ้าลูกพาผู้หญิงอื่นเข้ามาในบ้าน และยอมรับว่าตนเข้าใจหัวอกหมอนิ่ม เนื่องจากเป็นผู้หญิงด้วยกัน แต่ประเด็นแท้งนั้น หมอนิ่มบอกว่าหกล้มเอง