Skip to content
Home » News » ไมเคิลย้ายไปค่ายอีพิก และOff the Wall

ไมเคิลย้ายไปค่ายอีพิก และOff the Wall

ไมเคิลย้ายไปค่ายอีพิก
https://th.wikipedia.org/wiki/ออฟเดอะวอลล์_(อัลบั้ม)

ไมเคิลย้ายไปค่ายอีพิก เดอะแจ็กสันไฟฟ์เซ็นสัญญาใหม่กับ ซีบีเอสเรคเคิดส์ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1975 (วันที่โดยประมาณการ) โดยอยู่ในสังกัดย่อยฟิลาเดลเฟียอินเตอร์เนชันแนลเรคเคิดส์ ซึ่งต่อมาคือค่ายอีพิก และจากผลทางกฎหมายวงจึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น เดอะแจ็กสันส์ โดยมีแรนดี้ น้องชายคนสุดท้องเข้าร่วมวงอย่างเป็นทางการ ในขณะที่เจอร์เมนเลือกที่จะอยู่โมทาวน์และเริ่มต้นอาชีพเดี่ยว

ค่ายอีพิก

ในปี 1960 Epic กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเรื่องการลงนามในการกระทำใหม่ๆ ในตอนท้ายของปี 1960 มหากาพย์ได้รับทองประวัติเป็นครั้งแรกและมีการพัฒนาเป็นที่น่ากลัวแรงตีทำในร็อกแอนด์โรล , R & Bและเพลงคันทรี่ ในบรรดาการกระทำหลายอย่างของมันก็รวมถึงรอยแฮมิลตัน , บ๊อบบี้ Vinton , เดฟคลาร์ก , ฮอลลี่ , แทมมี่ Wynette , โดโนแวน , ยาร์ดเบิร์ด , ลูลู่ , กรกฎาคม , เฮเลนชาปิโรส์และเจฟฟ์เบ็ค

หลายคนของศิลปินชาวอังกฤษในบัญชีรายชื่อมหากาพย์ช่วงทศวรรษที่ 1960 เป็นผลมาจากซีบีเอสมหากาพย์ / รับทราบหน่วยกระจายตกลงระหว่างประเทศกับอีเอ็มไอ ; การบันทึกครั้งยิ่งใหญ่ออกโดย EMI บนค่ายเพลงColumbiaความสำเร็จกระแสหลักในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 ของ Epic

เกิดขึ้นจากการลงนามและปล่อยอัลบั้มโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง เช่นMichael Jackson , Culture Club , Miami Sound MachineและGloria Estefan , Wham! และGeorge Michael , Adam Ant , Living Colour , Incubus , Dead or Alive , Europe , Cyndi Lauper , Ozzy Osbourne , Korn ,

Pearl Jam , Sade , Luther Vandross , The Indigo Girls , Stevie Ray Vaughan , Rage Against the Machine , Céline Dion , Ginuwineและโอเอซิสท่ามกลางคนอื่น ๆ Thrillerของแจ็คสันเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ผลตอบแทนทางการเงินที่ยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งของค่ายเพลงมาจากอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของจอร์จ

ไมเคิลFaithซึ่งคาดว่าจะขายได้ 25 ล้านชุดทั่วโลก เฟธยังได้รับรางวัลมากมายรวมถึงรางวัลแกรมมี่สำหรับอัลบั้มแห่งปีและรางวัลเพลงอเมริกันอีกสามรางวัล

ไมเคิลย้ายไปค่ายอีพิก หลังจากเปลี่ยนชื่อแล้ววงออกทัวร์ในระดับนานาชาติ และยังออกผลงานอัลบั้มมากกว่า 6 อัลบั้มในระหว่างปี 1976 และ 1984 ระหว่างช่วงเวลานี้ ไมเคิล แจ็กสันยังเป็นผู้เขียนเพลงหลักของวง มีเพลงฮิตอย่าง “Shake Your Body (Down to the Ground)”, “This Place Hotel” และ “Can You Feel It”

ในปี 1978 แจ็กสันแสดงในบทบาทสแกร์โครว์ ในภาพยนตร์เพลง The Wiz เพลงบรรเลงประกอบภาพยนตร์เรียบเรียงโดยควินซี โจนส์ ที่เริ่มสนิทสนมกับแจ็กสันในช่วงการทำงานภาพยนตร์ และตกลงกันว่าจะร่วมทำผลงานในอัลบั้มเดี่ยวของแจ็กสันชุดต่อไป ในชุด Off the Wall ในปี 1979

แจ็กสันได้รับบาดเจ็บบริเวณจมูกระหว่างการฝึกซ้อมเต้น การศัลยกรรมจมูกของเขาไม่เสร็จดี เขาบ่นเรื่องความลำบากในการหายใจที่อาจเป็นผลร้ายต่ออาชีพเขาได้ เขาเอ่ยถึง ดร. สตีเวน โฮฟฟลิน ที่เป็นศัลยแพทย์จมูกเขาในครั้งที่ 2 และในการผ่าตัดอีกหลายครั้งถัดมา

ผลงานชุด Off the Wall

โจนส์และแจ็กสันร่วมกันผลิตผลงานชุด Off the Wall อัลบั้มนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงจากวัยรุ่นไปยังเสียงร้องของเขาที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ที่เขาจะสร้างเมื่อเป็นผู้ใหญ่ มีนักเขียนเพลงในอัลบั้มนี้นอกเหนือจากแจ็กสันแล้วคือ ร็อด เทมเพอร์ตัน จากวงฮีตเวฟ สตีวี วันเดอร์ และพอล แม็กคาร์ตนีย์ ออกวางขายในปี 1979 Off the Wall

ถือเป็นอัลบั้มแรกที่มีซิงเกิลท็อป 10 จำนวน 4 เพลงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในนั้นมีซิงเกิลอันดับ 1 อย่างเพลง “Don’t Stop ‘Til You Get Enough” และ “Rock with You” Off the Wall ติดชาร์ตบิลบอร์ด 200 สูงสุดที่อันดับ 3 และมียอดขาย 8 ล้านชุดในสหรัฐอเมริกาและขายได้มากกว่า 20 ล้านชุดทั่วโลก ในปี 1980

ออฟเดอะวอลล์ (อังกฤษ: Off the Wall) เป็นผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 ของนักร้องชาวอเมริกัน ไมเคิล แจ็กสัน เป็นผลงานอัลบั้มเปิดตัวของเขากับสังกัดค่ายเพลงอีพิกเรคคอร์ด ออกวางขายเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1979 อัลบั้มนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากผลงานการแสดงภาพยนตร์ของเขาเรื่อง The Wiz ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี

ขณะที่ทำงานด้วยกันในโครงการภาพยนตร์นี้ แจ็กสันและควินซี โจนส์ ก็รู้จักกัน และโจนส์ก็เห็นด้วยว่าอยากจะทำงานด้วยกันกับแจ็กสันในผลงานอัลบั้มเพลงการบันทึกเสียงทำในระหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ. 1978 และมิถุนายน ค.ศ. 1979 ที่อัลเลนเซนซ์ เวสต์เลกเรคอร์ดดิงสตูดิโอ และเชโรกีสตูดิโอ ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย

แจ็กสันทำงานร่วมกับนักเขียนเพลงและนักร้องหลายคน อย่างพอล แม็กคาร์ตนีย์ สตีวี วันเดอร์ และร็อด เทมเพอร์ตัน อัลบั้มนี้ มี 5 เพลงถูกทำเป็นซิงเกิล และ 3 เพลง ได้รับการปล่อยตัวมิวสิกวีดีโอ แจ็กสันเขียน 3 เพลงของตัวเอง หนึ่งในนั้นประกอบด้วยซิงเกิลอันดับ 1 “Don’t Stop ’til You Get Enough” ซึ่งเป็นซิงเกิลเปิดตัวเพลงแรกภายใต้สังกัดอีพิกเรคคอร์ด และได้รับรางวัลแกรมมี่

ผลงานชุดนี้แตกต่างจากผลงานก่อนที่เขาทำงานร่วมกับโมทาวน์ โดยรูปแบบที่กลั่นกรองออกมานั้น เกี่ยวข้องกับการหลีกหนี ปลดปล่อย ความเหงาและโรแมนติก นักวิจารณ์หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า งานนี้เป็นแนวเพลงฟังก์ ดิสโก้ ดนตรีโซล ซอฟต์ร็อก แจ๊ส และบัลลาดป็อป แจ็กสันได้เสียงวิจารณ์ที่ดีในเรื่องการร้องในอัลบั้มนี้

และยังเพิ่มเสียงตอบรับที่ดีด้วยการได้รับรางวัลแกรมมี่ครั้งแรกของเขา ตั้งแต่มีผลงานมาในยุคทศวรรษ 1970 กับผลงาน ออฟเดอะวอลล์ นี้ แจ็กสันกลายเป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกที่มี 4 ซิงเกิ้ลจากอัลบั้มเดียวกัน ติดท็อป 10 บนบิลบอร์ดฮ็อต 100 อัลบั้มประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างมาก

ปัจจุบันมียอดขายระดับ 8 แผ่นเสียงทองคำขาวในสหรัฐอเมริกา ขายได้มากกว่า 20 ล้านชุดทั่วโลก และได้จัดอันดับอยู่ในอัลบั้มเพลงทั่วโลกที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล

อัลบั้มนำกลับนำมาขายใหม่ใสรูปแบบรีอิชชู สเปเชียลเอดิชัน เมื่อ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2001 โดยค่ายโซนี ในปี 2003 อัลบั้มนี้ติดอันดับ 68 ของนิตยสารโรลลิงสโตนในหัวข้อ 500 อันดับอัลบั้มยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล The National Association of Recording Merchandisers

ยังจัดอันดับ อยู่ที่อันดับ 80 ในหัวข้อ Definitive 200 Albums of All Time ในปี 2008 อัลบั้มนี้ยังได้รับบันจุชื่ออยู่ในแกรมมี่ฮอลออฟเฟม และได้รับการนำกลับมาขายใหม่ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ 2016 ออลมิวสิก ยังให้ความคิดเห็นยกย่องอัลบั้มนี้สำหรับบทบาทในศตวรรษที่ 21 อีกด้วย

แจ็กสันได้รับ 3 รางวัลอเมริกันมิวสิกอวอร์ดส ในสาขาอัลบั้มโซล/อาร์แอนด์บียอดนิยม สาขาศิลปินโซล/อาร์แอนด์บียอดนิยม สาขา ซิงเกิลโซล/อาร์แอนด์บียอดนิยมจากเพลง “Don’t Stop ‘Til You Get Enough” ในปีนั้นเองเขาได้รับรางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอวอร์ดส ในสาขาท็อปแบล็กอาร์ทิสและท็อปแบล็กอัลบั้ม

และยังได้รับรางวัลแกรมมี่ในสาขาศิลปินอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม (กับเพลง “Don’t Stop ‘Til You Get Enough”) เนื่องจากประสบความสำเร็จอย่างมาก แจ็กสันจึงรู้สึกว่า Off the Wall ควรจะมีผลกระทบมากขึ้นและควรเป็นที่คาดหวังให้กับการออกผลงานในชุดถัดมา ในปี 1980 แจ็กสันมีรายได้สูงสุดในอุตสาหกรรมดนตรีด้วยผลกำไรอัลบั้ม 37%

อัลบั้ม กับมาวางจําหน่ายอีกครั้ง ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ในปี 2016 เป็น รูปแบบ ป็อปอัฟอัลบั้ม